ย้อนรอย ศึกชิงอันดับที่ 3 เวิร์ลคัพ
ศึกฟุตบอลโลก 2014 เดินทางมาจุดสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งผู้ผิดหวังจากรอบตัดเชือก จะต้องมาลงแข่งขันในรอบชิงอันดับที่ 3 กัน ซึ่งใครๆ มองว่าจะไม่เอาจริงกัน แต่หารู้ไม่ว่า ทีมที่ลงในรอบดังกล่าว ต่างก็จะต้องสร้างเกียรติประวัตินี้กันทั้งนั้น เนื่องเป็นอันดับที่ดูมีค่ามากพอ ที่กล้าพูดได้เต็มปากว่า เป็น ท็อปทรี ของโลกฟุตบอล ได้อย่างภาคภูมิใจ โดยเราจะย้อนรอยว่า เกมชิงอันดับที่ 3 เวิร์ลคัพ นั้น มีค่าสำคัญไฉน ??
เกมชิงอันดับที่ 3 ฟุตบอลโลก 1990 : อังกฤษ 1:2 อิตาลี
เกมชิงอันดับที่ 3 อิตาเลีย 90 ได้ทำการแข่งขันขึ้น ณ สนาม ซาน นิโคลา เมืองบารี ซึ่งเป็นเกมช้างชนช้าง ระหว่าง อิตาลี เจ้าภาพ ที่อกหักพ่ายต่อ อาร์เจนตินา อย่างช้ำกันทั้งประเทศ พบกับ ขุนพล “สิงโตคำราม” ที่มีนักเตะชั้นนำอย่างมากมาย อาทิ พอล แกสคอยน์, แกรี ลินิเกอร์, สจ๊วต เพียร์ส และ ปีเตอร์ ชิลตัน ที่ชีช้ำพ่ายต่อ เยอรมันตะวันตก ในรอบตัดเชือกมาเช่นเดียวกัน แต่พอลงแข่งขันแล้ว กลับเป็นแข้งแดนมะกะโรนี ที่แก้หน้าได้ คว้าอันดับ 3 ไปครอง ด้วยการเอาชนะ แข้งแดนผู้ดี ไปได้ อย่างสนุก 2:1 จากการทำประตูของ โรแบร์โต บาจโจ และ ซาวาตอเร สกิลลาชี ดาวซัลโวสูงสุดประจำทัวนาเมนท์ ส่วน อังกฤษ ได้ประตูจาก เดวิด แพลทท์
เกมชิงอันดับที่ 3 ฟุตบอลโลก 1994 : สวีเดน 4:0 บัลแกเรีย
เกมชิงอันดับที่ 3 ยูเอสเอ 94 ได้ทำการแข่งขัน ณ สนาม โรสโบลว์ เมืองพาเซเดนา มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นคู่ที่เป็นม้ามืดประจำทัวนาเมนท์ ที่เข้ามาชิงอันดับ 3 กัน ระหว่าง “ไวกิง” สวีเดน ที่พ่ายต่อ บราซิล ในรอบตัดเชือก นำทัพมาด้วยดาวดัง อย่าง โทมัส โบรลิน, เฮนริค ลาร์สสัน, มาร์ติน ดาห์ลิน และ เคนเน็ท แอนเดอร์สัน ปะทะกับ บัลแกเรีย ที่พ่ายต่อ อิตาลี ที่นำทัพโดย ฮริสโต สตอยช์คอฟ และ คลาสซิเมียร์ บาลาคอฟ โดยทั้ง 2 ทีมก็อกหักในรอบตัดเชือก มาทั้งคู่ ซึ่งเกมชิงอันดับ 3 ครั้งนี้ เป็นแข้งแห่งแดนสแกนดิเนเวีย ที่ใช้เวลาแค่ 40 นาที กระหน่ำยิงเอาชนะ บัลแกเรีย ไปได้สบายๆ 4:0 จากการทำประตูของ โทมัส โบรลิน, ฮาคาน ไมลด์, เฮนริค ลาร์สสัน และ เคนเน็ท แอนเดอร์สัน คว้าอันดับ 3 ไปครอง ซึ่งเป็นเกมชิงที่ 3 ที่ชนะกันขาดลอยที่สุด เป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เลยก็ว่าได้
เกมชิงอันดับที่ 3 ฟุตบอลโลก 1998 : เนเธอร์แลนด์ 1:2 โครเอเชีย
เกมชิงอันดับที่ 3 ฟร๊องซ์ 98 ได้ลงฟาดแข้งกัน ณ สนาม ปาร์ค เดส์ แพร็งค์ มหานครปารีส เป็นเกมพบกันระหว่าง “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ที่พ่ายการยิงจุดโทษต่อ บราซิล ในรอบตัดเชือก พบกัน ม้ามืดประจำรายการนี้ ก็คือ “ตราหมากรุก” โครเอเชีย ที่เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก ซึ่งผลงานที่แฟนๆ ติดตาที่สุด ก็คือ การถล่มเอาชนะ เยอรมัน ไปอย่างเหลือเชื่อ 3:0 แต่ต้องมาอกหักในรอบตัดเชือกเช่นกัน ด้วยการพ่ายต่อ ฝรั่งเศส เจ้าภาพ 1:2 แบบประทับใจคนดู ซึ่งเกมนี้ ต่างฝ่ายก็สู้กันได้อย่างสูสี แต่สุดท้ายเป็น ม้ามืดตัวจริง อย่าง แข้งโครแอต ที่คว้าอันดับ 3 ไปครอง ด้วยการเอาชนะไปได้ 2:1 จากการทำประตูของ โรเบิร์ต โปรซิเนสกี และ ดาวอร์ ซูเคอร์ ดาวซัลโวประจำทัวนาเมนท์ ส่วน ฮอลแลนด์ ได้ประตูจาก เบาเดอไวน์ เซนเด้น
เกมชิงอันดับที่ 3 ฟุตบอลโลก 2002 : เกาหลีใต้ 2:3 ตุรกี
เกมชิงอันดับที่ 3 โคเรีย-เจแปน 2002 ได้ลงฟาดแข้งกัน ณ สนาม แตกู เวิร์ลคัพ สเตเดียม เมืองแตกู ซึ่งเป็นเกมฟาดแข้งกันระหว่าง “โสมขาว” เกาหลีใต้ เจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่น ที่สร้างปรากฏการณ์เข้าถึงรอบตัดเชือกได้ ท่ามกลางข้อครหามากมาย ในเกมที่ผ่านมา กับ อิตาลี และ สเปน แต่ก็มาอกหักในรอบรองชนะเลิศ ด้วยการพ่ายต่อ เยอรมัน ไป 0:1 โคจรมาพบกับ พลพรรคแข้งแดนไก่งวง ตุรกี ที่เป็น ม้ามืดประจำทัวนาเมนท์ ที่นำทัพโดย ฮาคาน ซูเคอร์, อัลปาย โอซารัน, เอ็มเร เบโลโซกลู และ รุสตู เร็คเบอร์ ซึ่งผลปรากฏว่า เป็นแข้งจากแดนสองทวีป ที่เอาชนะไปได้ 3:2 จากการทำประตูของ ฮาคาน ซูเคอร์ ในช่วง 11 วินาทีแรก ซึ่งเป็นสถิติยิงประตูเร็วทีสุดในฟุตบอลโลก ณ เวลานี้ และอีก 2 ประตู จาก อิลฮาน มานซิซ แข้งซูเปอร์ซับประจำรายการนี้ ส่วน เจ้าภาพ แดนอารีดัง ได้ประตูจาก อี อึลยอง และ ซอง ชองกุ๊ก
เกมชิงอันดับที่ 3 ฟุตบอลโลก 2006 : เยอรมัน 3:1 โปรตุเกส
เกมชิงอันดับที่ 3 เยอรมนี 2006 ณ สนาม ก็อตลีบ-เดมเลอร์ สตาดิโอน เมือง สตุ๊ตการ์ท เป็นเกมพบกันระหว่าง เจ้าภาพ เยอรมัน ที่อกหักพ่ายต่อทีมที่เป็น งูเหลือมกับเชือกกล้วย อย่าง อิตาลี ในช่วงนาทีสุดท้ายของการต่อเวลา 120 นาที พบกับ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ที่ผ่านเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายในรอบ 40 ปี ซึ่งนำทัพมาโดย หลุยส์ ฟิโก, รุย คอสตา และ ดาวรุ่งจอมสับขา คริสเตียโน โรนัลโด ซึ่งพ่ายต่อ ทีมที่เป็นบอลแพ้ทาง อย่าง ฝรั่งเศส มาเช่นกัน ซึ่งมีความพิเศษของนัดนี้ ตรงที่เป็นเกมอำลาทีมชาติของทั้ง 2 ทีมด้วย โดยฝั่งเจ้าภาพ เป็นเกมสั่งลาการรับใช้ชาติของ โอลิเวอร์ คาห์น นายทวารมาดดุดันของแข้งเมืองเบียร์ ส่วนทางด้าน โปรตุเกส ก็เป็นเกมสั่งลาการรับใช้ชาติของ หลุยส์ ฟิโก, เฟร์นันโด คูท์โต และ รุย คอสตา ซึ่งผลการแข่งขันในนัดนี้ เป็น เจ้าภาพ ที่สามารถล้างความผิดหวังในรอบตัดเชือกได้ ด้วยการเอาชนะไป 3:1 ได้ประตูจาก บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์ 2 ประตู และ อาร์มันโด เปอตี ทำเข้าประตูตัวเอง 1 ลูก ส่วนฝั่งแข้งแดนฝอยทอง ได้ประตูปลอบใจ จาก นูโน โกเมส
เกมชิงอันดับที่ 3 ฟุตบอลโลก 2010 : อุรุกวัย 2:3 เยอรมัน
เกมชิงอันดับที่ 3 เซาท์ แอฟริกา 2010 ณ สนาม เนลสัน แมนเดลลา เบย์ สเตเดียม เมือง พอร์ต อลิซาเบธ เป็นเกมฟาดแข้งกัน ระหว่าง “จอมโหด” อุรุกวัย ที่ฝ่าด่านมาถึงรอบตัดเชือก แต่ต้องมาพ่ายต่อ ฮอลแลนด์ไปอย่างสนุก 2:3 โคจรมาพบกับ “อินทรีเหล็ก” ที่ชีช้ำต้องมาเล่นเกมชิงอันดับที่ 3 เป็นสมัยที่ 2 หลังจากพ่ายต่อทีมแกร่งในเวลานั้น อย่าง สเปน 0:1 ซึ่งเกมนี้เป็นเกมชิงอันดับ 3 ที่สนุกจนนาทีสุดท้ายจริงๆ ต่างฝ่ายผลัดกันนำผลัดกันตาม แต่สุดท้ายเป็น เยอรมัน ที่คว้าอันดับ 3 ไปครอง ด้วยการเอาชนะ อุรุกวัย ไปได้ อย่างตื่นเต้น 3:2 จากการทำประตูของ โธมัส มุลเลอร์, มาร์แซล แยนเซน และ ซามี เคดิรา ส่วน อุรุกวัย ได้ประตูจากกองหน้าตัวเก่งทั้ง เอดิสัน คาวานี และ ดิเอโก ฟอร์ลัน
ท้ายที่สุดแล้ว คืนนี้ ทีมใดจะได้รางวัลปลอบใจนี้ กลับบ้านไป ก็มาลุ้นกัน ระหว่าง เจ้าภาพ บราซิล พบกับ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ รับรองได้ว่าจะเป็นเกมที่สนุกอีกเกมหนึ่งเลย ฟันธง !!!!
ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ที่ | |
FB : TrueSport | TW : True_Sport |
คลิกชม ตารางถ่ายทอดสดฟุตบอล ได้ที่นี่ |
เรียบเรียงข้อมูลโดย Mo Malaysia
12.07.14
12:10