นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 กีฬาหลายประเภทที่เราเคยติดตามเชียร์ทีมรัก หรือนักกีฬาคนโปรดต้องถูกสั่งห้ามจัดการแข่งขัน รวมถึงกีฬา ชกมวย ที่ถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเราไม่ว่าจะเป็น มวยไทย , มวยสากล มีถ่ายทอดสดให้ชมกันแทบทุกวัน ต้องโดนสั่งหยุดแบบชัตดาวน์ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา จากข่าวคราวการแพร่ระบาดในสนามมวยจนเกิดเป็นกระแสของ แมทธิว ดีน ทำให้ผู้คนในวงการมวยต้องปรับตัวกันแบบขนานใหญ่ เราจะไปดูกันว่าในอนาคตของวงการมวยจะเปลี่ยนโฉมหน้าแค่ไหน หน้าตาของ New Normal หรือสิ่งใหม่ที่จะเป็นเรื่องปกติในอนาคตของวงการมวยจะเป็นอย่างไร ในแบบฉบับที่เข้าใจง่ายกันเช่นเคย จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงเริ่มมีการผ่อนปรนมากขึ้น มีการพูดถึงรูปแบบการแข่งขันชกมวยที่อาจจะกลับมาแข่งขันได้ได้อีกครั้งว่าจะเอาอย่างไรดี ปิดสนามชกไม่มีคนดูแบบฟุตบอลมั้ย , เข้ามาดูแล้วนั่งเว้นระยะห่าง เหมือนร้านอาหาร หรือจะเอาแบบเข้าชมปกตินี่แหละ แล้ววัดไข้ ทำประวัติแฟนมวย ลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชันไทยชนะ แบบเดียวกับที่เดินเข้าห้าง แต่ก็เป็นห่วงกันว่าถ้าเปิดให้แฟนมวยเข้าชมอาจจะเกิด Super Spreader หรือการแพร่ระบาดใหญ่ในสนามมวยรอบ 2 แบบที่เคยเกิดขึ้นมา แล้วจะแก้ไขได้ยากกว่าเดิม อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนเริ่มสงสัย ว่ากีฬาอย่างชกมวยนี่สนามเล็กนิดเดียวจุคนได้แค่หลักพัน ถ้าต้องเว้นระยะห่างจะเป็นอย่างไร โชคดีที่เราไม่ต้องใช้เวลาจินตนาการเพราะเวลานี้ประเทศอย่าง นิการากัว ที่ตั้งอยู่ในอเมริกาเหนือ เค้าได้จัดการชกมวยแบบของจริงเป็นเรื่องเป็นราว มีแฟนมวยเข้าชม ซึ่งเป็นการชกในระดับอาชีพภายในประเทศจำนวน 8 คู่ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ใช้มาตรการหลายอย่างมาประกอบเช่นผู้ชมบนอัฒจันทร์ นั่งเว้นระยะแบบ 1 ที่เว้น 2 ที่ , แต่ละแถวมีที่ว่างห่างกัน 1 แถว , พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อให้กับนักมวย , ผู้ชม และเจ้าหน้าที่ในสนามต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงวัดไข้ทุกคนที่เข้าไปในสนาม ที่น่าสนใจคือตัวนักมวยเอง และกรรมการก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วย จะถอดแค่ตอนชกเท่านั้น และการชกจบลงแบบเรียบร้อยดี การชกครั้งนี้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศผ่านทางช่อง Canal 6 ของนิการากัว สามารถชมภาพการชกแบบเต็ม ๆ ได้ที่นี่เลย Canal 6 Official หรืออีกกรณีที่น่าศึกษาจากการแข่งขันชิงแชมป์ของ UFC หรือที่เรียกกันติดปากในบ้านเราว่า มวยกรง ที่ได้จัดการแข่งขันแบบสวนกระแสการแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาที่รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563 ก่อนเริ่มแข่งขันมีเสียงทักท้วงจากหลายฝ่ายเพราะกลัวว่าจะโหมการแพร่เชื้อให้เพิ่มจำนวนขึ้น และก่อนชกมีการตรวจพบนักกีฬาติดเชื้อจำนวน 1 คนได้แก่ โรนัลโด ซูซา และพี่เลี้ยงอีก 2 คน แต่ทางด้าน ดาน่า ไวท์ ประธาน UFC ยังยืนยันที่จะจัดการแข่งขันต่อไปด้วยมาตรการแข่งขันใน สนามปิด ไม่เปิดให้ผู้ชมเข้าชม มีการตรวจคัดกรองทั้งนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทุกคนก่อนเข้าสนาม , การสัมภาษณ์ก่อนชกจากเดิมที่พูดข่มกันบนเวที ปรับเป็นแบบออนไลน์จากห้องพักนักมวย มีความสงสัยกันใช่ไหมว่าไม่เปิดให้มีคนดู จัดในสนามว่าง ๆ แบบนี้แล้วรายได้เค้ามาจากไหน จัดไปทำไม นักกีฬาได้ค่าตัวหรือเปล่า คำตอบคือการจัดแข่งขันครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากการขายลิขสิทธิ์รับชมทางทีวี ทางฝั่งผู้ชมในอเมริกาสามารถเลือกชมโดยเสียเงินซื้อเป็นรายครั้งที่เรียกว่า Pay per view และสปอนเซอร์ที่ยังสนับสนุนการแข่งขัน นักกีฬายังได้ค่าตัวตามปกติซึ่งถือว่ามหาศาลเลย ไฟต์วันนั้น ในแมตช์ชิงแชมป์เฉพาะกาลรุ่นไลท์เวท ที่ได้ผู้ชนะอย่าง จัสติน เกธจี คว้าเงินในครั้งนี้ 350,000 ดอลลาร์ กดเครื่องคิดเลขเป็นเงินบ้านเราเป็นตัวเลขกลม ๆ ที่เกือบ 11 ล้านบาท ส่วนผู้แพ้ โทนี เฟอร์กูสัน ได้ไป 500,000 ดอลลาร์ หรือเกือบ 16 ล้านบาท เห็นตัวเลขแล้วไม่ต้องแปลกใจนะครับว่าทำไมคนแพ้ได้มากกว่า สาเหตุเพราะผู้แพ้ถือว่าเป็นคนที่แฟน UFC รู้จักกันดี ก่อนที่จะมาเสียแชมป์ชนะรวดมา 12 ไฟต์ ถ้าให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็เหมือนกับบัวขาวชก ถึงจะแพ้แต่รายได้จากการชกยังไงก็มากกว่า โดยการแข่งขันวันนั้นนักชกที่ได้เงินน้อยสุดคือ แซม อัลวีย์ ยังได้ไป 65,000 เหรียญ หรือกว่า 2 ล้านบาท และ ดาน่า ไวท์ ประธาน UFC ได้กล่าวว่าการแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างให้วงการกีฬาทั่วโลกตื่นตัว เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่ากีฬาใหญ่ ๆ ถ้าหากมีการจัดการที่ดีสามารถกลับมาแข่งขันได้ ซึ่งเค้าก็ทำให้เห็นแล้วว่ามันประสบความสำเร็จจริง ๆ ทั้งด้านความสนใจจากผู้ชม และทำให้นักกีฬามีรายได้กันต่อไป จะเห็นได้ว่า New Normal ของวงการมวยนั้นเกิดขึ้นมาแล้วในต่างประเทศ หลายอย่างน่าสนใจเราสามารถปรับเอามาใช้ในบ้านเราได้เช่นรายการยอดนิยมอย่าง มวยไทย หลายอย่างเราได้เปรียบตรงที่แฟนกีฬามีความคุ้นเคยกับการใส่หน้ากากอนามัย และมีระบบติดตามเมื่อเข้าไปในสนามอย่าง แอปพลิเคชันไทยชนะ หากเปิดให้แฟนมวยเข้าชมแบบเว้นระยะห่าง มีใครกลับไปแล้วติดโควิด-19 สามารถติดตามคนที่เข้าไปชมในวันนั้นมาตรวจได้อย่างแม่นยำ หรือจะจัดชกในสนามปิดแบบ UFC แล้วมีรายได้จากค่าโฆษณาก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี ทางฝั่งคนในวงการอย่างนักมวย , ค่ายมวย , ผู้จัด (โปรโมเตอร์) , เจ้าของสนามมวย รวมถึงช่องทีวีที่ถ่ายทอดสด ยังมีรายได้มาจุนเจือเลี้ยงตัวเองได้ เป็นการสนับสนุน มวยไทย และวงการมวยให้คงอยู่ต่อไป เป็นอาชีพรายได้เลี้ยงปากท้องของผู้คนอีกมากมาย และพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยที่ยังคงอยู่ เป็นเอกลักษณ์ของชาติที่ยังมีชีวิตต่อไปอีกนานเท่านาน ถ้าชื่นชอบเรื่องราวในบทความนี้ สามารถแชร์ผ่านโซเชียลมีเดียได้ทุกช่องทาง แล้วมาติดตามเรื่องราวดี ๆ แบบนี้กันใหม่ครับ... ภาพประกอบจาก unsplash ภาพหน้าปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 4 Official Fan Page ภาพที่ 2 Canal 6 / ภาพที่ 3 UFC