เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ วัยเพียง 22 ปี ย้ายมาร่วมทีม แมนซิตี้ ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัวประมาณ 51 ล้านปอนด์ การย้ายมาในครั้งนี้นอกจากจะเป็นทีมเก่าของคุณพ่อแล้ว ยังเป็นการมาพิสูจน์ตัวเองในลีกที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก สำหรับการก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์หน้าดาวยิงเบอร์ 1 ในอนาคต แน่นอนว่าการลงเล่นในฤดูกาลนี้ ฮาแลนด์ ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ว่าเขาจะต้องใช้เวลาปรับตัวนานเท่าไหร่ และจะทำผลงานได้ดีอย่างในบุนเดสลีกาหรือไม่ พรีเมียร์ลีกพึ่งจะเดินทางมาได้เพียงแค่ 7 เกมเท่านั้น เออร์ลิง ฮาแลนด์ ก็ทำผลงานออกมาได้ดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้เสียอีก แทบจะไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับทีมด้วยซ้ำ เพราะเพียงแค่นัดเปิดฤดูกาล ก็ยิงประตูได้ทันที เป็นการตอบทุกข้อสงสัย ด้วยผลงานในสนามที่ชัดเจนที่สุด เท่านั้นยังไม่พอหลังผ่านไปเพียงแค่ 7 เกม เออร์ลิง ฮาแลนด์ ก็ขึ้นนำเดี่ยวเป็นดาวซัลโวของลีก ด้วยการยิงไปทั้งหมด 11 ประตู วันนี้ NPK Football Style จะพามาย้อนดูทุกประตูว่าเกิดขึ้นในเกมใดบ้าง และในแต่ลูกสามารถจบสกอร์ได้ดีมากแค่ไหนเกมที่ 1 ยิง 2 ประตู VS เวสต์แฮมประตูแรก ใช้ความเร็ววิ่งฉีกกองหลัง เข้าไปรับบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะโดนผู้รักษาประตูทำฟาล์วกลายเป็นลูกจุดโทษ และลุกมายิงลูกจุดโทษเองด้วยเท้าซ้ายเข้าไปยังเด็ดขาด ประตูที่ 2 ยังคงใช้ความเร็ววิ่งทะลุช่องหลุดเดี่ยว เข้าไปยิงด้วยซ้ายหนีมือผู้รักษาประตูอย่างสวยงามเกมที่ 3 ยิง 1 ประตู VS นิวคาสเซิลประตูนี้ยิงได้นาทีที่ 61 ในขณะที่ทีมเสียเปรียบและกำลังตามหลังคู่แข่งอยู่ เป็นจังหวะที่เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ แย่งโหม่งกันจนบอลคลุกคลิกไปมาตกมาหน้ากรอบเขตโทษ แล้วก็เป็น ฮาแลนด์ ที่เข้าถึงบอลก่อนใคร ยิงด้วยซ้ายบอลตุงตาข่าย เป็นประตูที่ช่วยจุดประกายความหวังจนสุดท้ายทีมก็ไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จเกมที่ 4 ยิง 3 ประตู VS คริสตัลพาเลซแฮตทริกแรกที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น ประตูแรกนาที 62 เป็นการชิงจังหวะเข้าฮอตในกรอบเขตโทษ ด้วยการพุ่งมาโหม่งตัดหน้ากองหลัง เป็นลูกตีเสมอให้กับทีม ประตูที่ 2 นาที 70 เป็นการอยู่ถูกที่ถูกเวลา หลุดจากตัวประกบยืนโล่งๆในกรอบเขตโทษ จนสุดท้ายบอลก็มาถึงและได้แปลเข้าไปแบบง่ายๆ ประตูที่ 3 นาที 81 เป็นการโชว์ความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน ใช้ตัวบังบอลและไม่สะทกสะท้านต่อการเบียดของกองหลัง ก่อนที่จะเลี้ยงหลุดเข้าไปยิงง่ายๆเกมที่ 5 ยิง 3 ประตู VS ฟอเรสเป็นการยิงแฮตทริกครั้งที่ 2 โดยใช้เวลาเพียง 26 นาที ประตูแรกนาที 12 เป็นการชิงจังหวะกับกองหลังในกรอบเขตโทษ และก็โฉบเข้าถึงบอลได้เร็วกว่า ยิงด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ ประตูที่ 2 นาที 23 ยังคงอันตรายเมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษ หาพื้นที่ว่างให้ตัวเองเก่ง เมื่อบอลมาถึงก็ยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างง่ายดาย ประตูที่ 3 นาที 38 อาศัยความสูงใหญ่ของร่างกาย และกระโดดได้สูงกว่ากองหลัง โหม่งบอลจากหน้าประตูเข้าไปเกมที่ 6 ยิง 1 ประตู VS แอสตันวิลล่าเป็นการยิงประตูให้ทีมขึ้นนำในครึ่งหลังนาที 50 เป็นการแสดงให้เห็นถึงการหาพื้นที่ว่างได้ตัวเองได้เก่งมาก เมื่อบอลถูกเปิดเข้ามาจากด้านข้างลอยมาเสาสอง ก็สามารถกระโดดเข้าหาบอลและแปลเข้าประตูไปอย่างง่ายๆ เหมือนกับเหาะมายิงยังงั้นเลยเกมที่ 7 ยิง 1 ประตู VS วูล์ฟแฮมป์ตันยิงประตูในนาทีที่ 16 ด้วยการรับบอลจากเพื่อน ก่อนที่จะลากจี้เข้าหากองหลัง ขยับหลอกจนมีช่องว่างและซัดด้วยขวาบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เป็นการยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษลูกแรกของตัวเองอีกด้วยตอนนี้คงไม่มีแฟนบอลคนไหนสงสัยในฝีเท้าของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ อีกแล้ว เมื่อทุกอย่างสามารถพิสูจน์ชัดได้เพียงแค่ผ่านไป 7 เกมเท่านั้น หลังจากนี้จึงเป็นงานหนักของกองหลังทุกทีมที่ต้องรับมือกับกองหน้าที่ดีที่สุดของลีกในตอนนี้ ด้วยความที่มีพร้อมทุกอย่างทั้งความแข็งแกร่งของร่างกาย ทักษะการเล่นบอลบนพื้นและกลางอากาศ เร็วและความกระหาย และยังใช้โอกาสไม่เปลืองจบสกอร์ได้เด็ดขาด อย่างนี้ต้องรอดูกันว่าเมื่อพรีเมียร์ลีกเดินทางไปจนจบฤดูกาล จำนวนประตูของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ จะไปจบลงที่เท่าไหร่ ?เครดิตภาพภาพปก : Manchester Cityภาพ 1 Manchester Cityภาพ 2 Manchester Cityภาพ 3 Manchester Cityภาพ 4 Manchester Cityภาพ 5 Manchester Cityส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !