เจาะลุยซ์ไม่เข้า! อาร์เซนอล น็อคแชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้ 2-0 เข้าชิงฯ เอฟเอ คัพ
"ปืนใหญ่" สร้างเซอร์ไพร์ซ ด้วยการเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" เข้าไปลุ้นแชมป์ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดเป็นสมัยที่ 14 ได้สำเร็จ
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนาม เวมบลีย์ คู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง อาร์เซนอล อดีตแชมป์มากที่สุด 13 สมัย กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า และแชมป์ 6 สมัย
เกมครึ่งแรก แม้ ซิตี้ จะครองบอลบุกมากกว่า แต่โอกาสแบบจะแจ้งครั้งแรกเป็นของทีม อาร์เซนอลในนาทีที่ 16 เมื่อ ดาวิด ลุยซ์ แทงบอลทะลุให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง ได้หลุดเดี่ยวไปดวลเอแดร์ซอน แต่ยังยิงไปติดเซฟ
และ 3 นาทีต่อมาทีม “ปืนใหญ่” ก็มาได้ประตูนำก่อน เมื่อ นิโกลาส์ เปเป้ ครอสบอลบริเวณมุมเขตโทษฝั่งขวาลึกไปที่เสาสอง และ โอบาเมยัง เจ้าเก่าก็พุ่งมาชาร์ตบอลสวนทางกระดอนชนเสาเข้าไปให้ อาร์เซนอล นำ 1-0
หลังจากนั้น ซิตี้ ยังคงครองบอลบุกมากกว่า แต่ก็ไม่เสามารถเจาะเกมรับของอาร์เซนอล เพื่อหาจังหวะจบที่จะแจ้งได้ จนนาทีที่ 41 “ปืนใหญ่” มาได้โอกาสจบอีกครั้งจากลูกเตะมุมของ ดานี่ เซบาญอส เปิดเข้ามา ให้ สโคดราน มุสตาฟี่ ได้โหม่งเต็ม ๆ แต่ เอแดร์ซอน ยังปัดออกหลังไปได้
ท้ายเกมครึ่งแรกนาที 44 เอนสลีย์ เมตแลนด์ ไนล์ส ที่เติมเกมขึ้นมาได้กึ่งยิงกึ่งผ่านในกรอบเขตโทษ แต่ บอลก็ยังโดนนายทวารของ ซิตี้ รับไว้ได้ เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก อาร์เซนอล นำก่อน 1-0
ยิ่งอ่าน ยิ่งได้ รับไปเลย ทรูพอยท์ ... ง่ายขนาดนี้ คลิกเลย
เริ่มครึ่งหลังนาที 48 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นก่อน จากลูกเตะมุมของ ริยาด มาห์เรซ เปิดเข้ามา บอลแถวสองไปตกกับ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลไปให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ปั่นเน้น ๆ แต่โดนบอลไม่ดี บอลหลุดกรอบไปไกล
แต่ซิตี้ มาเป็นชุด โดยนาทีต่อมา จากการทำเกมขึ้นมาก่อนที่บอลจะไปถึง เดอ บรอยน์ มุมซ้ายของเขตโทษ และผ่านบอลเข้ากลางให้ สเตอร์ลิงได้วิ่งยิงบริเวณจุดโทษ บอลเรียดหลุดเสาขวาไปไม่เกินหลาเท่านั้น
นาที 52 ซิตี้ ที่ยังบุกอย่างต่อเนื่องก็ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ได้วอลเลย์ จากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลยังไม่ดีพอจะผ่านมือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ไปได้
2 นาทีต่อมา ริยาด มาห์เรซ เลียงบอลจี้เข้ามาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนล็อกบอลตัดเข้าซ้ายแล้วได้ยิง แต่ มาร์ติเนซ ยังช่วย “ปืนใหญ่” ไว้ได้อีกครั้ง
นาที 62 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ฟรีคิก หน้ากรอบเขตโทษ เควิน เดอ บรอยน์ ลองวิ่งมายิง บอลข้ามกำแพงแต่โค้งไม่พอจะเข้ากรอบ ทำได้แค่เข้าข้างตาข่ายเท่านั้น
นาที 64 ซิตี้ น่าได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะเตะมุมของ เดอ บรอยน์ เปิดเข้ามา บอลมาถึง ราฮีม สเตอร์ลิง แต่เขาไม่ทันตั้งตัวที่จะโหม่ง ทำให้บอลโดนหน้าและ มาร์ติเนซ ตามมาตะครุบไว้ได้อย่างหวุดหวิด
นาที 67 เดอ บรอยน์ ครองบอลอยู่ทางฝั่งซ้าย ก่อนที่จะถึ่งยิง กึ่งผ่านเข้ามาให้ ดาบิด ซิลบา ได้ชาร์ตระยะราว 2-3 หลา แต่บอลออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่นาทีที่ 71 กลับกลายเป็น อาร์เซนอล ที่มาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะโต้กลับ เมื่อ คีแรน เทียร์นีย์ ยกบอลตัดกองหลังมาให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง หลุดเดี่ยวก่อนเลี้ยงบอลเข้า เอแดร์ซอน และจิ้มบอลลอดขานายทวารของ ซิตี้ ไปให้ “ปืนใหญ่” นำ 2-0
หลังจากนั้น ซิตี้ โหมบุกหนัก และ ได้โอกาสอีกครั้งจาก สเตอร์ลิง ที่ได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษ แต่ ดาวิด ลุยซ์ พุ่งมาบล้อกไว้ได้ทัน
นาที 83 เป็นอีกครั้งที่ ซิตี้ เกือบได้ประตู เมื่อ อายเมอริค ลาปอร์ต ได้ลองซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลโค้งหลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม อาร์เซนอล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เข้าไปลุ้นแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 14 ได้สำเร็จ และเป็นการเข้าชิงครั้งแรกตั้งแต่ อาร์แซน เวนเกอร์ พ้นตำแหน่งไปด้วย ขณะที่ ซิตี้ ถูกหยุดสถิติเอาชนะติดต่อกันที่ เวมบลีย์ ไว้ที่ 9 เกมติด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>>โบ้ยก่อน! โซลชา เชื่อ คู่แข่งสร้างประเด็นเรื่องแมนฯ ยูไนเต็ด ได้เปรียบจาก VAR บ่อย
>>ไม่เกี่ยวกัน! แลมพาร์ด เชื่อ ไม่ได้เปรียบแมนฯ ยูไนเต็ด แม้พักมากกว่า
– ดูฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่
