รีเซต
พรีเมียร์ลีก 2018/2019 : เลสเตอร์ ซิตี้ ปีนี้ต้องมีโทร์ฟี่แชมป์ ? ... by "Arm Phukrit"

พรีเมียร์ลีก 2018/2019 : เลสเตอร์ ซิตี้ ปีนี้ต้องมีโทร์ฟี่แชมป์ ? ... by "Arm Phukrit"

พรีเมียร์ลีก 2018/2019 : เลสเตอร์ ซิตี้ ปีนี้ต้องมีโทร์ฟี่แชมป์ ? ... by "Arm Phukrit"
armcasanova
8 สิงหาคม 2561 ( 16:14 )
2.7K

ทีมที่มีผู้บริหารเป็นคนไทย พวกเขาทำงานกันอย่างหนักและพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จในปี 2013/2014 ในฐานะ แชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ต่อมาได้สร้างชื่อกึกก้องโลกจากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดยิ่งใหญ่ในฤดูกาล 2015/2016

 

 

วันนี้เราจะพามารู้จักกับอีกหนึ่งสโมสร ในพรีเมียรลีก อังกฤษ ที่น่าเชียร์และจับตามอง ทีมที่ขึ้นมาจากดิวิชั่นสอง ในฐานะแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้มาโลดแล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก ด้วยเป้าหมายที่ว่า ต้องอยู่รอดให้ได้ จนในปี 2014/15 จมอยู่ท้ายตารางนานถึง 140 วัน  เกือบตกชั้น ปีถัดมา พวกเขาคือทีมนอกสายตา ที่มีอัตราต่อรองในการเป็นแชมป์อยู่ที่ 5,000-1 แต่พวกเขาโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลบทุกคำสบประมาท ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ นับเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นการครองแชมป์ครั้งแรกในรอบ 132 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ภายใต้การบริหารทีมที่มีเจ้าของเป็นคนไทย

 

เลสเตอร์ ซิตี้

ฉายา : จิ้งจอกสีน้ำเงิน (The Foxes) หรือ จิ้งจอกสยาม (Siamese Foxes)
ตัวย่อ : LCFC
ก่อตั้ง : 1884
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
ความจุ : 32,500 คน
เจ้าของทีม :  กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ประธานสโมสร : คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา
ผู้จัดการทีม : โคล้ด ปูแอล
ผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมา : พรีเมียร์ลีก อันดับ 9
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : www.lcfc.comwww.lcfcthai.com

 

บทวิเคราะห์

จิ้งจอกสยาม จำใจต้องยอมปล่อย ริยาด มาห์เรซ ปีกคนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2015/16 ออกจากทีมให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากข้อเสนอที่เย้ายวนใจเป็นสถิติในการขายนักเตะออกจากสโมสรด้วย ในราคา 60 ล้านปอนด์ แถมนักเตะคนสำคัญอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็ยังมีข่าวลือการย้ายทีมอย่างต่อเนื่องกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย

และสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพในซีซั่นนี้ จิ้งจอกสยามใช้เงินในการช้อปนักเตะไปแล้วกว่า 68 ล้านปอนด์ ได้ผู้เล่นมาทั้งหมด 5 คน ประกอบไปด้วย ริคาร์โด้ เปเรยร่า (ปอร์โต้), จอนนี่ อีแวนส์ (เวสต์บรอมวิช), เจมส์ แมดดิสัน (นอวิช), แดนนี่ วอร์ด (ลิเวอร์พูล) และ ราชิด เกซซาล (โมนาโก)

จากผู้เล่นชุดปัจจุบันผสมโรงกับผู้เล่นหน้าใหม่ ถ้าเคมีของนักเตะจูนติดกันได้อย่างลงตัว พร้อมกับทำได้ดีสำหรับแท็คติกที่กุนซือวางเอาไว้ “จิ้งจอกสยาม” ก็จะกลายเป็นทีมที่คู่แข่งต้องเหนื่อยเวลาเจอพวกเขา แล้วดูเหมือนว่าทีเด็ดที่สำคัญอีกจุดหนึ่งของเลสเตอร์ คือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในการเล่นลูกกลางอากาศ นั่นเอง

อีกหนึ่งจุดที่น่าให้ความสนใจความการพัฒนาในส่วนของเยาวชน เลสเตอร์ ซิตี้ มีศูนย์ฝึกเลสเตอร์ ซิตี้ อะคาเดมี่ นับว่าเป็น 1 ใน 10 ศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดใน เกาะอังกฤษ เยาวชนที่มีโอกาสขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ ก็มีหลาคนที่น่าจับตามองเลยทีเดียว

 

รายชื่อนักเตะ เลสเตอร์ ซิตี้ ประจำฤดูกาล 2018/2019

ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, เอลดิน ยาคูโปวิช, แดนนี่ วอร์ด

กองหลัง : แดนนี่ ซิมป์สัน, เวส มอร์แกน, คริสเตียน ฟุคส์, โยฮัน เบนาลูอาน, เบน ชิลเวลล์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, คัลลั่ม เอลเดอร์, จอช ไนท์, แซม ฮิวจ์ส, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์

กองกลาง : มาร์ค อัลไบรท์ตัน, แอนดี้ คิง, แม็ตตี้ เจมส์, ดาเนียล อมาร์ตีย์, เดมาราย เกรย์, นอมปาลิส เมนดี้, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บิเซนเต้ อิบอร์ร่า, ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้, อาเดรียน ซิลวา, เจมส์ แมดดิสัน

กองหน้า : เจมี่ วาร์ดี้, ชินจิ โอกาซากิ, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, ฟุสเซนี่ ดิอาบาเต้, เลย์ตัน เอ็นดุควู

 

สถิติสโมสร (นักเตะ)

ลงเล่นมากที่สุด (ทุกรายการ) : เกรแฮม ครอสส์, 599 นัด
ยิงประตูมากที่สุด (ทุกรายการ) : อาเธอร์ แชนด์เลอร์, 273 ประตู
ทำประตูรวมสูงสุดในหนึ่งฤดูกาล (ทุกรายการ) : อาเธอร์ โรว์ลี่ย์, 44 ประตู
อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ : เดฟ บูแคนัน, 16 ปี 192 วัน (พบ โอลด์แฮม แอธเลติก 1 ม.ค.1979)
อายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ : เควิน ฟิลลิปส์, 40 ปี 233 วัน (พบ แบล็คพูล 15 มี.ค.2014)
ค่าตัวแพงสุด (ซื้อ) : อิสลาม สลิมานี่ จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน 29 ล้านปอนด์
ค่าตัวแพงสุด (ขาย) : ริยาด มาห์เรซ ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 60 ล้านปอนด์

 

ทำเนียบแชมป์

ดิวิชั่น 1 (เดิม) / พรีเมียร์ลีก : 1 สมัย
ดิวิชั่น 2 : 7 สมัย
ฟุตบอล ลีกวัน : 1 สมัย
ลีกคัพ : 3 สมัย
เอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลล์ : 1 สมัย

 

รู้จักเฮดโค้ช : โคล้ด ปูแอล

Nick Potts/PA via AP

กุนซือชาวฝรั่งเศส วัย 57 ปี เพิ่งเข้ามาคุมทัพ “จิ้งจอกสยาม” เมื่อปี 2017 แทนที่ของ เคร็ก เชคสเปียร์ ซึ่งรับไม้ต่อมาจากเคลาดิโอ รานิเอรี่ ปูแอล เริ่มเข้าสู่วงการลูกหนังในฐานะนักเตะของทีมอาแอส โมนาโก เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ก่อนแขวนสตั๊ดมารับบทผู้จัดการทีมโมนาโก หลังจากนั้นเขาก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จในปี 2000 หลังจากนั้นเขาได้ย้ายไปคุม ลีลล์, โอลิมปิก ลียง,นีซ และ เซาธ์แฮมป์ตัน

จากนั้นเขาก็ย้ายมาคุมทัพ “จิ้งจอกสยาม” และได้กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้กลับมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง และค่านิยม รวมถึงความกระหายความสำเร็จของทีม ก็สอดรับเป็นอย่างดีกับความต้องการของผม”

 

สตาร์เด่น : แฮรี่ แม็กไกวร์

Steven Paston/PA via AP

ปราการหลังวัย 25 ปี ถือว่าแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา หลังพาทีมชาติอังกฤษ จบอันดับ 4 ถือว่าเขาเป็นผู้เล่นแนวรับคนสำคัญของทีมชุดนี้เลยก็ว่าได้ หากสังเกตในจังหวะที่ทีมเล่นลูกเซ็ตพีททุกครั้ง เป้าหมายในการโยนบอลไปให้ก็คือ แม็กไกวร์ ไม่ว่าจะเป็นการโหม่งทำประตู หรือการโห่งชงให้เพื่อนๆ ทำประตู ถือเป็นจังหวะทีเด็ดของทีมได้

ถ้าหากสโมสรรั้งตัวเขาเอาไว้ได้ในซีซั่นนี้ ผมเชื่อว่า แม็กไกวร์ คือผู้เล่นคนสำคัญในแนวรับ และในเกมรุกได้อย่างไม่ยากเย็น จากขีดความสามารถที่เจ้าตัวมี บวกกับสรีระที่สูงใหญ่ ถือเป็นข้อได้เปรียบของทีม

 

“Arm Phukrit”

 

อัพเดท ตลาดซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก 2018/19

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้