รีเซต
ที่สุดโมเมนต์แห่งปี!! รวม 10 เหตุการณ์สุดสำคัญของวงการกีฬา ปี 2019

ที่สุดโมเมนต์แห่งปี!! รวม 10 เหตุการณ์สุดสำคัญของวงการกีฬา ปี 2019

ที่สุดโมเมนต์แห่งปี!! รวม 10 เหตุการณ์สุดสำคัญของวงการกีฬา ปี 2019
Waramid
30 ธันวาคม 2562 ( 11:35 )
1.5K
8
(Photo by Shaun Botterill/Getty Images)

ในปี 2019 วงการกีฬามีเหตุการณ์สำคัญ โมเมนต์ที่น่าตื่นเต้น เกิดขึ้นมากมาย เราเลยรวบรวม 10 เหตุการณ์สุดสำคัญของวงการกีฬา ทั้งในวงการฟุตบอล มวย บาสเกตบอล ฯลฯ มาให้ครับ

> 27 เมษายน : ศรีสะเกษ พ่ายคะแนน เอสตราดา เข็มขัดแชมป์ WBC กระเด็น

(Photo by Jayne Kamin-Oncea/Getty Images)

คู่มวยที่โลกจับตามองคู่นี้ เกิดขึ้นเพราะ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา นักชกชาวเม็กซิกัน ต้องการล้างตากับ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกชาวไทย รุ่น 115 ปอนด์ ซูเปอร์ฟลายเวต ของสภามวยโลก WBC หลังจากเคยแพ้มาแล้วในการชกไฟต์แรก
ไฟต์นี้ แฟนหมัดมวยชาวไทย และทั่วโลก ให้ความสนใจกันอย่างมาก เพราะทั้ง ศรีสะเกษ และ เอสตราดา ต่างเตรียมตัวมาดีสุดๆ และผลจากการเจอกันครั้งแรกก็สุดสูสี จนไฟต์นั้น คว้ารางวัล WBC Best of The Year ไฟต์สุดมันแห่งปี 2018 ไปครอง
แต่แล้วก็เป็น ผู้ท้าชิงอันดับ 1 ที่ทำผลงานบนสังเวียนได้ดีกว่า ชกเอาชนะคะแนน ศรีสะเกษ แบบเป็นเอกฉันท์ กระชากเข็มขัดแชมป์มาได้แบบที่ แฟนมวยชาวไทยต้องผิดหวังกันทั้งประเทศ

> 7 พฤษภาคม : หงส์แดง พลิกนรกยิงชนะ บาร์เซโลนา 4-0 เข้ารอบ UCL

(Photo by Clive Brunskill/Getty Images)

ใครจะไปเชื่อว่าสกอร์นี้จะเกิดขึ้นได้ เพราะก่อนเริ่มเกม ลิเวอร์พูล แพ้ บาร์ซ่า มาก่อนแล้ว 0-3 ในนัดแรก แล้วเกมนี้ที่ก็ยังไม่มี ​โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ สองดาวยิงตัวสำคัญที่เจ็บอีก แต่แล้วค่ำคืนแห่งปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อพลพรรคนักเตะ “หงส์แดง” เดินเกมบุก ไล่อัด ไล่ทุบ คู่แข่งจากสเปนตลอดทั้งเกม จนพลิกกลับมาเอาชนะได้แบบสุดเหลือเชื่อ 4-0
โดยเฉพาะลูกสุดท้าย ในนาที 79 จากจังหวะเตะมุมที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ โชว์ความเหนือชั้น เปิดบอลเร็ว ดิว็อค โอริกี้ ยิงเข้าไป จนเจ้าตัวกลายเป็นฮีโร่ของทีม พาทีมเข้ารอบอย่างยิงใหญ่ และกลายเป็นแมตช์คัมแบ็คประวัติศาสตร์อีกแมตช์หนึ่งเลยทีเดียว

> 12 พฤษภาคม : ลุ้นระทึก!! พรีเมียร์ลีก ตัดสินแชมป์ถึงนัดสุดท้าย

(Photo by Matthew Ashton – AMA/Getty Images)

ศึกพรีเมียร์ลีก 2018/19 เป็นปีที่ลุ้นระทึกอย่างมากอีกปี เพราะมีผู้ท้าชิงในการลุ้นแชมป์ 2 ทีม คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ซึ่งทั้งคู่ต่างทำแต้มคู่คี่ สูสีกันมาโดยตลอด มีช่วงหนึ่งที่ “หงส์แดง” นำเป็นจ่าฝูงยาว ก่อนที่จะหลุดจ่าฝูงในช่วงท้ายๆ จนต้องมาตัดสินแชมป์กันในนัดสุดท้ายของฤดูกาล
ซึ่งสถานการณ์ก่อนเตะ “เรือใบสีฟ้า” มีคะแนนนำ “หงส์แดง” อยู่ 1 แต้ม แต่ แมนฯ ซิตี้ ต้องออกไปเยือนทีม ไบรท์ตัน ส่วน ลิเวอร์พูล เล่นในบ้านพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ทำให้หลายฝ่ายมองว่า ลิเวอร์พูล อาจพลิกกลับมาแซงเข้าป้ายแชมป์ได้
แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรพลิกโผ เมื่อ แมนฯ ซิตี้ บุกไปทุบ ไบรท์ตัน ได้อย่างสบายๆ 4-1 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ทำแต้มได้ 98 คะแนน ส่วน “หงส์แดง” ก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปได้ 2-0 เก็บแต้มไปได้ 97 คะแนน และถือว่าเป็นรองแชมป์ที่ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมที่สุด เลยก็ว่าได้

> 2 มิถุนายน : ลิเวอร์พูล ผงาดแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ สมัยที่ 6

(Photo by Burak Akbulut/Anadolu Agency/Getty Images)

หลังจากอกหักจากตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก “หงส์แดง” ก็ขอประกาศศักดา และเริ่มต้นซีรี่ย์ปีแห่งความยิ่งใหญ่ของพวกเขา ด้วยการคว้าแชมป์รายการใหญ่ที่สุดของยุโรปได้สำเร็จ หลังทุบเอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คู่แข่งร่วมพรีเมียร์ลีก 2-0 ที่ สนามว่านต๋า เมโทร โปลิตาโน่ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ สมัยที่ 6 มาครองอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากที่รอคอยถ้วยนี้มาเป็นเวลายาวนานถึง 14 ปีด้วยกัน
เส้นทางการเป็นแชมป์ของ “หงส์แดง” ถือว่าเจอด่านหินมาตลอด เริ่มจากการเฉือน นาโปลี ที่มีแต้มเท่ากันในรอบแบ่งกลุ่ม เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบหวุดหวิด จากจำนวนประตูที่ทำได้มากกว่า ก่อนจะโค่นทีมแกร่งอย่าง บาเยิร์น มิวนิค, ปอร์โต้ และแซงเอาชนะ บาร์เซโลนา 4-3 ในรอบรองชนะเลิศ แบบสุดเหลือเชื่อ ทั้งที่นัดแรกแพ้มาก่อนแล้ว 0-3 ก่อนจะเข้ารอบชิงมาคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

> 13 มิถุนายน : โตรอนโต้ แร็ปเตอร์ ผงาดแชมป์ NBA ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีม และแคนาดา

(Photo by Lachlan Cunningham/Getty Images)

กลายเป็นทีมประวัติศาสตร์ของวงการ NBA ไปแล้ว เพราะไม่เคยมีใครเชื่อว่าทีมบาสเกตบอลจากแคนาดาทีมนี้ จะขึ้นไปครองตำแหน่งแชมป์ได้ เพราะทีมเพิ่งจะร่วมแข่งขันศึก NBA เมื่อฤดูกาล 1995-96 เท่านั้นเอง อีกทั้ง ยังเป็นทีมบาสจากแคนาดาทีมเดียวที่เหลืออยู่ใน NBA อีกด้วย
โดยในนัดชิงชนะเลิศ แร็ปเตอร์ ต้องเจอศึกหนักอย่าง โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ดีกรีแชมป์ 3 สมัย ในรอบ 4 ปี ทุกฝ่ายต่างฟันธงไปทางเดียวกัน แร็ปเตอร์ ไม่รอดแน่นอน แต่อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เมื่อ แร็ปเตอร์ จัดการหักปากกาเซียน พลิกเอาชนะ “แชมป์เก่า” ไป 4-2 เกม โดยเป็นการบุกไปชนะ วอร์ริเออร์ส ถึงบ้านได้ 3 เกม ซึ่งรวมถึงเกมที่ 6 ตัดสินแชมป์ ซึ่ง แร็ปเตอร์ เอาชนะไป 114-110 คะแนน คว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่

> 6 ตุลาคม : มาร์เกซ ซิวแชมป์โลก โมโตจีพี ที่ไทย หลังขับแซง กวาตาราโร รอบสุดท้าย

(Photo by Mirco Lazzari gp/Getty Images)

“เด็กระเบิด” มาร์ค มาร์เกซ สุดยอดนักบิดชาวสแปนิช แห่งทีม เรปโซล ฮอนด้า ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต้องผิดหวัง เมื่อประกาศศักดาคว้าแชมป์โลก โมโต จีพี ฤดูกาล 2019 และเป็นการครองแชมป์โลกสมัยที่ 8 ของตัวเองได้อย่างยิ่งใหญ่ อีกครั้ง
การแข่งขัน สนามที่ 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่เมืองไทย ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั่วโลก เพราะถ้า มาร์เกซ คว้าแชมป์ที่สนามนี้ได้ เขาก็จะคว้าแชมป์โลกปี 2019 ไปในทันที
และเจ้าของฉายา “เด็กระเบิด” ก็ไม่พลาด ควบรถคู่ใจไล่แซง ฟาบิโอ กวาตาราโร นักบิดดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ในโค้งสุดท้ายแบบหวุดหวิด ก่อนเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 แบบสะใจแฟนๆ กันทั้งสนาม เลยทีเดียว

> 12 ตุลาคม : คิปโชเก มนุษย์คนเดียวในโลกที่ทำลายกำแพง วิ่งมาราธอน จบก่อน 2 ชั่วโมง

(Photo by HERBERT NEUBAUER/APA/AFP via Getty Images)

ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย กลายเป็นเช้าแห่งประวัติศาสตร์อีกหนึ่งวันของวงการการวิ่ง เมื่อ เอเลียด คิปโชเก ยอดนักวิ่งชาวเคนยา เจ้าของสถิติโลกมาราธอนคนปัจจุบัน กลายเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถทำลายกำแพง วิ่งระยะมาราธอน จบในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้สำเร็จ ด้วยเวลา 1:59:40 ชั่วโมง
โดยการวิ่งของ คิปโชเก ในครั้งนี้อยู่ในโครงการของ INEOS 1:59 Challenge แต่อย่างไรก็ตาม สถิติที่ถูกทำลายลงนี้ ไม่ได้รับการรับรองเป็นสถิติโลกจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ หรือ ไอเอเอเอฟ เนื่องจากเป็นการวิ่งพิเศษ ไม่ได้เป็นการแข่งขันแบบเปิด และมีการหมุนเวียนนักวิ่งเพซเมคเกอร์สตลอดเส้นทาง ทำให้ไม่ได้การรับรอง
ถึงแม้ว่าสถิตินี้ไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการ แต่วินาทีที่ คิปโชเก วิ่งเข้าเส้นชัย ก็เป็นโมเมนต์ที่ทั่วโลกแทบหยุดหายใจ และก็ร่วมแสดงความดีใจที่มนุษย์ได้ก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดของตัวเองได้อีกครั้ง

> 26 ตุลาคม : ดราม่านัดสุดท้าย บุรีรัมย์ สะดุดเจ๊า /เชียงราย ปาดหน้าคว้าแชมป์ไทยลีก ครั้งแรก

เกมลูกหนังไทยลีก สถานการณ์ไปคล้ายกับ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นที่แล้ว เมื่อต้องตัดสินแชมป์ในนัดสุดท้ายเหมือนกัน แต่คราวนี้ผู้ไล่ตามอย่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กลับเป็นผู้สมหวัง คว้าแชมป์ไทยลีก 2019 อย่างยิ่งใหญ่ เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร
โดยสถานการณ์ก่อนลงสนามนัดสุดท้าย บุรีรัมย์ มีแต้มนำอันดับสอง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่ถึง 2 แต้ม ขอแค่ชนะก็จะแชมป์ ทันที หรือถ้าเสมอ แล้ว เชียงราย เสมอหรือแพ้ ก็จะคว้าแชมป์เช่นเดียวกัน ทำให้โอกาสของ “ปราสาทสายฟ้า” เปิดกว้างกว่าอย่างมาก
และผลก็น่าจะออกมาเป็นแบบนั้น เมื่อ บุรีรัมย์ ยิงขึ้นนำ 1-0 ก่อน ส่วนคู่ เชียงราย ก็ขึ้นนำ สุพรรณบุรี ขึ้นนำเหมือนกัน แต่ถ้าผลออกมา ชนะด้วยกันทั้งคู่ “ปราสาสายฟ้า” ก็จะคว้าแชมป์เหมือนเดิม
แต่แล้วก็เหมือนบทหนังที่เขียนไว้ เมื่อ เชียงใหม่ เอฟซี ซึ่งตกชั้นแน่นอนแล้ว กลับมาตีเสมอ บุรีรัมย์ 1-1 ในช่วงท้ายเกม ทำให้เวลานี้ บุรีรัมย์ และ เชียงราย มีแต้มเท่ากัน แต่ถ้าจบแบบนี้ เชียงราย จะคว้าแชมป์เพราะเฮดทูเฮด ที่เจอกันดีกว่า และสุดท้ายก็หมดเวลาการแข่งขัน กลายเป็น สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์ไปอย่างยิ่งใหญ่ หลังเอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 5-2 ส่วน บุรีรัมย์ พลาดแชมป์ไปแบบน่าเจ็บใจ

> 7 ธันวาคม : ธีราทร สร้างประวัติศาสตร์ นักเตะไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ เจลีก

(Photo by Masashi Hara/Getty Images)

“โก๋อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายทีมชาติไทย กลายเป็นนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถไปคว้าแชมป์ศึกลูกหนังเจ ลีก กับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ได้สำเร็จ เมื่อเปิดบ้านเอาชนะ เอฟซี โตเกียว คู่แข่งที่กำลังแย่งแชมป์กันอยู่ 3-0 คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ในนัดสุดท้าย
โดยในแมตช์นั้น ธีราทร โชว์ฟอร์มได้สุดสะเด่ามาก เมื่อเป็นคนยิงประตูขึ้นนำ 1-0 ให้กับ มารินอส และยังทำอีก 1 แอสซิสต์ ในเกมนี้อีกด้วย จนช่วยทีมเก็บชัยชนะ และผงาดคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ของสโมสร หลังจากเคยได้มาในปี 1995, 2003 และ 2004
ซึ่งทั้งซีซั่น ธีราทร ลงสนามให้ มารินอส ไป 25 นัด ยิงได้ 3 ประตู และทำไป 4 แอสซิสต์ จนล่าสุดถูก มารินอส บรรลุข้อตกลงซื้อขาด จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการแล้ว หลังก่อนหน้านี้ยังเป็นแค่นักเตะในสัญญายืมตัวเท่านั้น

> 21 ธันวาคม : หงส์แดง คว้าแชมป์สโมสรโลก ทำสถิติสอย 3 แชมป์ในรอบปฏิทินปีเดียวกัน

(Photo by Marcio Machado/Eurasia Sport Images/Getty Images)

ปิดท้ายปี 2019 ด้วยฟุตบอลรายการชิงแชมป์สโมสรโลก โดยในปีนี้ เป็นทาง ลิเวอร์พูล ตัวแทนจากโซนยุโรป ที่คงความสุดยอดเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง เฉือนเอาชนะ ฟลาเมงโก้ 1-0 จากประตูชัยของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ดาวยิงทีมชาติบราซิล ในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 99 ซึ่งจากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ “หงส์แดง” คว้าแชมป์สโมสรโลกเป็นครั้งแรกของสโมสร หลังจากเคยพลาดหวังมาแล้วถึง 3 ครั้ง
ลิเวอร์พูล ยังสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ คือ เป็นสโมสรแรกของวงการฟุตบอลอังกฤษที่คว้า 3 แชมป์ใหญ่รายการระดับนานาชาติ ในรอบปฏิทินเดียวกัน ทั้งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ชิงแชมป์สโมสรโลก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ อีกด้วย

ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก ได้ฟรีทางช่อง ไอดี สเตชั่น ง่ายๆเพียงแค่ล็อคอิน หรือ ดูวิธีสมัครสมาชิกทรูไอดีได้ที่นี่

เชียร์เพลิน ได้ทรูพอยท์
เพียงเชียร์ทีมที่คุณชอบ ให้เป็นทีมที่ชนะ ลุ้นรับฟรี 30 ทรูพอยท์! คลิ๊ก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

6 สุดยอดคอนเทนต์ ที่สุดแห่งปี TrueID Trend 2019

5 ที่สุดแห่งวงการลูกหนังไทย 2019

– ดูฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่

ยอดนิยมในตอนนี้