รีเซต
ออกกำลังกายตอนท้องว่าง VS หลังอาหาร เทคนิคไหน "เผาผลาญไขมัน" ได้ดีกว่า

ออกกำลังกายตอนท้องว่าง VS หลังอาหาร เทคนิคไหน "เผาผลาญไขมัน" ได้ดีกว่า

ออกกำลังกายตอนท้องว่าง VS หลังอาหาร เทคนิคไหน "เผาผลาญไขมัน" ได้ดีกว่า
WeenayA
6 ตุลาคม 2568 ( 08:00 )
27

     สายออกกำลังกายอาจเคยได้ยินคำถามที่ว่า ควรออกกำลังกายตอนท้องว่าง หรือออกกำลังกายหลังอาหารดี หรือเคยได้ทดลองด้วยตัวเองแต่ไม่แน่ใจว่าแบบไหนถูกต้อง หรือได้ผลดีต่อการสร้างกล้ามของคุณ วันนี้ TrueID Sport จะมาไขข้อข้องใจในเรื่องนี้ให้คุณได้ทราบกัน

 

ออกกำลังกายตอนท้องว่าง VS หลังอาหาร เทคนิคไหน
"เผาผลาญไขมัน" ได้ดีกว่า

 

     การออกกำลังกายตอนท้องว่าง กับการออกกำลังกายหลังหาการมีข้อดีและข้อเสีย หรือรายละเอียดที่ต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธี และโปรแกรมในการออกกำลังกายของคุณในวันนั้นๆ ด้วย 

การออกกำลังกายตอนท้องว่าง (Fasted Cardio) เหมาะกับใคร

  • คนที่เน้นการเผาผลาญไขมัน:การออกกำลังกายขณะไกลโคเจนต่ำ (หลังอดอาหารข้ามคืน) มีประโยชน์ต่อการเพิ่มการเผาผลาญไขมัน โดยเฉพาะการออกกำลังกายความเข้มข้นต่ำ-ปานกลาง เพราะร่างกายจะใช้ไขมันเป็นพลังงานหลักมากขึ้น

  • คนที่ให้ความสำคัญกับความสะดวก: เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายทันทีที่ตื่นนอน  หรือผู้ที่ไม่มีเวลาทานอาหาร รอให้ย่อย นอกจากนี้ยังดีสำหรับผู้ที่มักท้องอืด เป็นตะคริวเมื่อทานอาหารก่อนออกกำลังกาย

  • คนที่ออกกำลังกายความเข้มข้นต่ำถึงปานกลาง: การออกกำลังกายท้องว่างเหมาะที่สุดสำหรับ คาร์ดิโอความเข้มข้นต่ำต่อเนื่องเช่น 30–60 นาที เนื่องจากใช้กลูโคสน้อยกว่า และลดความเสี่ยงประสิทธิภาพตกต่ำ/สูญเสียมวลกล้ามเนื้อกว่าการออกกำลังกายที่หนักหน่วง

ไม่เหมาะกับใคร

  • นักกีฬา/เป้าหมายสมรรถภาพสูง : ผู้ที่เน้น HIIT, ฝึกความแข็งแรงหนัก ๆ หรือกิจกรรมความทนทานสูง (วิ่ง/ปั่นทางไกล) เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้ต้องการคาร์โบไฮเดรตพร้อมใช้และพลังงานสูง

  • ผู้มีปัญหาสุขภาพ : ผู้เป็นโรคเบาหวาน หรือต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเคร่งครัด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

  • ผู้ที่เน้นสร้างกล้ามเนื้อ : เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่กล้ามเนื้อจะถูกสลาย ทำให้เป็นอุปสรรคต่อเป้าหมาย Hypertrophy (การสร้างกล้ามเนื้อ)



การออกกำลังกายหลังอาหาร (Fed Training)  เหมาะกับใคร

1. ผู้เน้นประสิทธิภาพและการสร้างกล้ามเนื้อ

  • ฝึกความแข็งแรง/สร้างกล้ามเนื้อ (Hypertrophy): คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนก่อนออกกำลังกายเป็นเชื้อเพลิงสำคัญสำหรับการยกหนัก/ฝึกหนัก คาร์โบไฮเดรตเติมไกลโคเจน ส่วนโปรตีนช่วยซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อ
  • ความเข้มข้นสูง (HIIT, สปรินต์): กิจกรรมที่ต้องใช้กลูโคสเป็นพลังงานหลัก การทานอาหารล่วงหน้าช่วยให้มีพลังงานสูงสุด เพื่อรักษาประสิทธิภาพตลอดการออกกำลังกาย

2. นักกีฬาประเภทความทนทาน (Endurance)

นักวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำทางไกล ต้องการพลังงานสม่ำเสมอ มื้ออาหารก่อนออกกำลังกายป้องกันอาการ "หมดแรง" และให้พละกำลังต่อเนื่องสำหรับการออกกำลังกายที่นานเกินหนึ่งชั่วโมง

3.ผู้ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

  • จัดการระดับน้ำตาล: การออกกำลังกายหลังมื้ออาหารไม่นานช่วยให้กล้ามเนื้อดึงกลูโคสที่เข้าสู่กระแสเลือดไปใช้อย่างรวดเร็ว จึงช่วยลดการพุ่งสูงขึ้นของระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้เสี่ยงหรือเป็นเบาหวานประเภท 2

4. ผู้ออกกำลังกายช่วงบ่าย/เย็น

  • เติมพลังงานสู้ความล้า: หากออกกำลังกายในช่วงหลังของวัน การทานอาหารที่สมดุล (คาร์บ/โปรตีน) 1–3 ชั่วโมงก่อนเข้ายิมจะช่วยต้านความเหนื่อยล้าช่วงบ่าย และช่วยให้แสดงศักยภาพได้เต็มที่

 

เทียบข้อดี-ข้อเสีย การออกกำลังกายขณะท้องว่าง

ข้อดีข้อเสีย
ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียกล้ามเนื้อ
การออกกำลังกายขณะท้องว่าง สามารถเพิ่มสัดส่วนการเผาผลาญไขมันได้ โดยเฉพาะเมื่อทำคาร์ดิโอความหนักเบาถึงปานกลาง (เนื่องจากมีอินซูลินและพลังงานสำรองน้อย)ถ้าร่างกายใช้พลังงานหมด (โดยเฉพาะในการออกกำลังกายที่หนักหรือนานเกินไป) ร่างกายอาจเริ่มดึงโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานแทน ซึ่งเป็นผลเสียต่อการสร้างกล้ามเนื้อ
ช่วยให้ระบบเผาผลาญปรับตัวได้ดีขึ้นแรงตก อ่อนแรง ทำให้ทำกิจกรรมได้ไม่เต็มที่
วิธีนี้อาจช่วยให้ระบบเผาผลาญยืดหยุ่นขึ้น (Metabolic Flexibility) ในการสลับใช้คาร์โบไฮเดรตและไขมันเป็นพลังงาน และช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อไม่มีพลังงานพร้อมใช้ คุณจะรู้สึกอ่อนเพลีย ความอึดลดลง และไม่สามารถออกกำลังกายหนัก/ยกน้ำหนักได้เต็มที่ ซึ่งลดประสิทธิภาพในการวิ่งจับเวลาหรือการฝึกหนัก
สะดวกสบายและไม่อึดอัดเสี่ยงต่ออาการวิงเวียน คลื่นไส้
ช่วยให้ ประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องเตรียมหรือรอให้อาหารย่อยก่อน และอาจทำให้รู้สึก สบายท้องกว่าเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายตอนที่ท้องมีอาหารอยู่ระดับน้ำตาลในเลือดที่ต่ำ อาจทำให้เกิดอาการ หัวหมุน วิงเวียน คลื่นไส้ หรือ ตัวสั่น ซึ่งทั้งหมดนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้
อาจช่วยให้ปริมาณแคลอรี่ที่กินรวมทั้งวันลดลงผลลัพธ์การลดไขมันที่ยัง ไม่แน่ชัด
การออกกำลังกายขณะท้องว่างอาจช่วยให้ปริมาณแคลอรี่รวมที่คุณกินเข้าไปใน 24 ชั่วโมงต่อมา ลดน้อยลงแม้จะเผาผลาญไขมันมากขึ้นระหว่างออกกำลังกาย แต่ในระยะยาว การออกกำลังกายแบบท้องว่างไม่แตกต่างอย่างชัดเจนในการลดน้ำหนัก/ไขมันรวม เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายหลังมื้ออาหาร เนื่องจากปัจจัยหลักคือการขาดดุลแคลอรี่ (แคลอรี่ที่ใช้ออกไป > กินเข้าไป)

 

เทียบข้อดี-ข้อเสีย การออกกำลังกายหลังรับประทานอาหาร

ข้อดีข้อเสีย
ประสิทธิภาพและพลังงานที่เพิ่มขึ้นอาการไม่สบายทางเดินอาหาร
การกินอาหารก่อนออกกำลังกายจะให้ กลูโคสและไกลโคเจนพร้อมใช้ ทำให้คุณมีแรงผลักดันตัวเองได้หนักขึ้น และออกกำลังกายที่หนัก/นานได้ต่อเนื่อง จึงเหมาะกับคนที่เน้นสร้างกล้ามเนื้อและทำลายสถิติด้านประสิทธิภาพการออกกำลังกายเร็วเกินไปหลังกินมื้อใหญ่ อาจทำให้เลือดถูกดึงจากกระเพาะไปยังกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ตะคริว ท้องอืด คลื่นไส้
หรือกรดไหลย้อน
ช่วยในการเสริมสร้างและฟื้นฟู ซ่อมแซม กล้ามเนื้อต้องเผื่อเวลา ในการย่อยอาหาร ก่อนออกกำลังกาย
การมีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย จะช่วยป้องกันกล้ามเนื้อสลายตัว และเร่งการฟื้นตัว/ซ่อมแซมกล้ามเนื้อให้เร็วขึ้นต้องเผื่อเวลาให้ร่างกายย่อยอาหารอย่างเพียงพอปกติ 30 นาทีสำหรับของว่างเบา ๆ และ 2–3 ชั่วโมงสำหรับมื้อใหญ่ เพื่อป้องกันอาการไม่สบายท้อง
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้นอาจเผาผลาญไขมันน้อยลงในระหว่างออกกำลังกาย
สำหรับผู้ที่ต้องคุมระดับน้ำตาลในเลือด การออกกำลังกายหลังมื้ออาหารไม่นาน จะช่วยลดและควบคุมระดับน้ำตาลที่พุ่งสูงขึ้นหลังกินข้าวได้เนื่องจากมีพลังงานพร้อมใช้ ร่างกายจึงจะใช้คาร์โบไฮเดรตเป็นเชื้อเพลิงหลัก ทำให้คุณเผาผลาญไขมันคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยลง เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายขณะท้องว่าง

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

 

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี