รีเซต
ประวัติ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอก สุดอันตรายคนใหม่ ของ แมนซิตี้

ประวัติ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอก สุดอันตรายคนใหม่ ของ แมนซิตี้

ประวัติ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอก สุดอันตรายคนใหม่ ของ แมนซิตี้
BALLYSLAM
8 สิงหาคม 2565 ( 03:00 )
53.7K

ประวัติ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ดาวยิงคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ว่ากันว่าอีกไม่นานเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของโลกลูกหนัง

ข้อมูลนักเตะ

  • ชื่อเต็ม : เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์
  • เกิด : 21 กรกฎาคม 2000 ที่ลีดส์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร
  • อายุ : 22 ปี
  • สัญชาติ : นอร์เวย์
  • ส่วนสูง : 194 เซนติเมตร
  • ตำแหน่ง : กองหน้า
  • ต้นสังกัดปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เส้นทางลูกหนัง

เด็กชายเออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ หากดูชื่อ นามสกุล ใครที่เป็นแฟนบอลรุ่นเก๋าๆ ก็จะคุ้นๆ หน่อย เพราะนี่คือลูกชายสุดที่รักของ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ อดีตกองกลางชื่อดังของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นเอง

เจ้าหนูฮาแลนด์ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ เขาได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสรบริน ในลีกนอร์เวย์ และด้วยฝีเท้า พรสวรรค์ และรูปร่างที่สูงใหญ่เกินวัยเดียวกัน ทำให้เจ้าตัวได้เลื่อนไปเล่นรุ่นที่อายุมากกว่าตัวเองอยู่เสมอๆ

ฮาแลนด์ ฝึกซ้อม และลงเล่นอยู่ที่ประมาณหนึ่งปี จนกระทั่งในปี 2016 เจ้าตัวได้โอกาสขยับขึ้นไปเล่นชุดสำรองของสโมสร และเขาก็ต้องทำให้บรรดาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชต้องตะลึง เมื่อเขาจัดการยิงไปถึง 18 ประตู จากการลงเล่นเพียง 14 เกม เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สุดยอดอย่างมาก

จากนั้นไม่นาน กุนซือคนปัจจุบันในเวลานั้นของบริน ก็ถูกไล่ออก ทำให้สโมสรแต่งตั้งผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนขึ้นมาทำหน้าที่แทน และกุนซือคนใหม่ที่รู้ซึ้งถึงฝีเท้าของ เจ้าหนูฮาแลนด์ เป็นอย่างดี ได้ทำการดึงตัวเขาจากทีมสำรองขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ แม้ว่าเวลานั้นเขาจะมีอายุเพียง 15 ปี 9 เดือน เท่านั้น และเจ้าตัวก็ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่ครั้งแรก ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 นั่นเอง

ในช่วงแรกที่เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ บริน เจ้าตัวเล่นในตำแหน่งปีก ก่อนที่จะถูกปรับตำแหน่งให้มาเล่นกองหน้า ทว่าฟอร์มการเล่นก็ยังไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างมากนัก ลงเล่นไปทั้งหมด 16 เกมในลีก แต่ไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้ต่ลูกเดียว

แต่ด้วยฝีเท้า รูปร่างๆ ความทุ่มเทในการเล่น หรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้ฟอร์มการเล่นของ ฮาแลนด์ ไปเข้าตาของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เวลานั้นรับหน้าที่เป็นกุนซือของสโมสรโมลด์ ซึ่งในเวลาต่อมาทาง โมลด์ ก็ได้เข้าไปทาบทามตัว จนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 เจ้าตัวก็ได้ย้ายมาเซ็นสัญญาค้าแข้งกับสโมสรใหม่

เมื่อย้ายมาแล้ว ฮาแลนด์ ก็ใช้เวลาไม่นาน ก็ได้ลงสนามเกมแรก โดยเจ้าตัวได้ลงเล่นในศึกนอร์เวเจียนคัพ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2017 และเพียงนัดแรกเจ้าตัวก็จัดการยิงประตูแรกได้ทันที เท่านั้นไม่พอ ต่อมาในวันที่ 4 มิถุนายน 2017 เจ้าตัวก็สร้างความฮืออีกครั้ง เมื่อลงเล่นเกมแรกในลีก ในฐานะตัวสำรอง และสามารถยิงประตูได้อีกด้วย และลูกนั้นยังเป็นประตูชัยให้กับทีมอีกต่างหาก จากนั้นเป็นต้นมา เจ้าตัวก็ถูกส่งลงสนามเรื่อยๆ ในฐานะตัวจริงบ้าง ตัวสำรองบ้าง จนกระทั่งจบซีซั่นได้ลงเล่นไปทั้งหมด 20 นัด และยิงไปได้ 4 ประตู

ฤดูกาลถัดมาถือเป็นฤดูกาลแจ้งเกิดของ ฮาแลนด์ เลยก็ว่าได้ เมื่อเขากลายมาเป็ตัวหลักของสโมสร แม้จะมีอายุเพียง 18 ปี และในฤดูกาลนี้เองที่เขาได้สร้างสถิติอย่างมากมาย ทั้งการยิงคนเดียว 4 ประตูภายใน 21 นาทีแรกของเกม, การซัดแฮตทริก ภายในเวลา 11 นาที 2 วินาที หรือแม้กระทั่ง การยิงได้ 4 ประตูภายในเวลา 17 นาที 4 วินาที

ซึ่งเมื่อจบซีซั่นนี้ เขากลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดให้กับ โมลด์ ด้วยจำนวน 16 ประตู จากการลงเล่น 30 นัดจากทุกรายการ และเขายังได้รับตำแหน่งนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลีก อีกด้วย ซึ่งจากฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงนี้เอง ทำให้ไปเข้าตาของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก สโมสรยักษ์ใหญ่ลีกออสเตรีย และได้ทำการขอซื้อตัวไปร่วมทีมในเวลาต่อมา

ซึ่งจากที่นี่เอง ใครจะไปคิดว่า เจ้าหนูฮาแลนด์ ที่อายุเพียง 19 ปี ในเวลานั้น กำลังจะกลายเป็นนักเตะที่สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้กับทั้ง เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก และ วงการลูกหนังยุโรป

การย้ายมาล่าตาข่ายให้กับ ซัลซ์บวร์ก ดาวยิงวัยรุ่นอย่างเขาได้สร้างสถิติมากมาย โดยเมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม 2019 เขายิงแฮตทริกแรกให้กับสโมสรในออสเตรียนคัพ ในนัดที่เอาชนะคู่แข่ง 7–1 ต่อมาในวันที่ 10 สิงหาคม เขาทำแฮตทริกแรกในออสเตรียน บุนเดสลีกา ช่วยให้ทีมเอาชนะคู่แข่ง 5-2 ต่อมาเขาทำแฮตทริกที่ 3 ให้กับสโมสร เมื่อวันที่ 14 กันยายน ช่วยให้ทีมถล่มคู่แข่งไป 7–2

เท่านั้นไม่พอ วันที่ 17 กันยายน เขาลงเล่นครั้งแรกในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 และทำแฮตทริกที่ 4 ให้กับสโมสร ช่วยให้ ซัลซ์บวร์ก เอา ชนะเกงค์ ไปได้อีก

ความสุดยอดของเขายังไม่หมดแค่นั้น เมื่อมายิงได้อีกหนึ่งประตูในเกมพบ ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ ทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่ยิง 4 ประตูได้จากความพยายามยิงเข้ากรอบ 4 ครั้งในศึกแชมเปียนส์ลีก และยังมายิงอีก 2 ประตูใส่ นาโปลี ทำให้ ฮาแลนด์ กลายเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกที่ทำประตูครบทั้งสี่นัดแรกที่ลงเล่นในรายการนี้ และเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ทำสถิตินี้ได้หากนับรวมทุกอายุ

 

แค่นี้ว่าสุดยอดแล้ว ยังมีสุดยอดกว่า เมื่อเจ้าตัวมาบวกอีกหนึ่งประตูในแมตช์ที่ดวลกับ เกงค์ ทำให้เขาผงาดเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ต่อจาก อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, เซอร์เก เรบรอฟ, เนย์มาร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ทำประตูในรายการนี้ได้ถึง 5 นัดติดต่อกัน เรียกได้ว่าสุดยอดเกินวัยเลยจริงๆ

จากผลงานอันร้อนแรงนี้เอง ส่งผลให้ในเพียงฤดูกาลแรกกับ ซัลซ์บวร์ก เขาทำไปได้ถึง 4 แฮตทริก และกดไป 28 ประตู จากการลงเล่นไปเพียง 28 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งการยิงประตูแบบถล่มทลาย และสร้างสถิติมากมาย ทำให้เขาได้กลับมาเป็นที่สนใจของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีมอย่างมาก ซึ่งในขณะนั้นสื่อต่างๆ ก็ต่างพากันฟันธงแล้วว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ตัวไปร่วมทีมแน่นอน แต่สุดท้ายกลับพลิกล็อคเป็น "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังบุนเดสลีกา ที่ฉกตัวไปร่วมทีมแบบตกตะลึงทั้งวงการลูกหนัง ในช่วงท้ายเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมา

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ดอร์ทมุนด์ คว้าตัว ฮาแลนด์ มาร่วมทีมสำเร็จด้วยค่าตัวเพียง 20 ล้านยูโร ทั้งๆ ที่เขาตกเป็นเป้าหมายของหลายๆ ทีมทั่วยุโรป ซึ่งเจ้าตัวก็ให้เหตุผลว่าอยากมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และไม่อยากกดดันในการเล่นมากจนเกินไป จึงเลือกมาที่นี่

และการย้ายมาที่นี่ แฟนบอล "เสือเหลือง" ก็ไม่ต้องรอนานที่จะเห็นประตูแรกของเขา เมื่อ ฮาแลนด์ ได้ถูกส่งลงสนามเป็นเกมแรกในฐานะตัวสำรอง และใครจะไปเชื่อว่าเจ้าตัวจะลงมาแล้วซัดแฮตทริกทันที ในเกมที่ทีมทุบเอาชนะ เอาก์สบวร์ก ไปได้ 5-3 โดยใช้เวลาไปแค่เพียง 34 นาทีเพียงเท่านั้น

หลังจากนั้นเขาได้ลงเป็นนัดที่ 2 ในฐานะตัวสำรองอีกครั้ง และยังระเบิดฟอร์มฮอตยิงไปอีก 2 ประตู ในเกมที่ต้นสังกัดรเอาชนะ โคโลญจน์ 5-1 ทำให้เจ้าตัวใช้เวลาในสนามเพียง 59 นาที ในการทำ 5 ประตูดังกล่าว และยังกลายเป็นนักเตะคนแรกของ บุนเดสลีก้า ที่สามารถทำได้ถึง 5 ประตู จากการลงประเดิมสนาม 2 นัดแรก อีกด้วย

ใครว่าความสุดยอดจะหมดแค่นี้ เมื่อเจ้าตัวยังยิงต่อเนื่อง จนมาถึงแมตช์ที่ ดอร์ทมุนด์ บุกชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 2-0 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เขาก็มาบวกอีกหนึ่งลูก ทำให้ ฮาแลนด์ กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ถึง 9 ประตู ในการลงสนาม 6 นัดแรกให้ทีม

และเมื่อจบซีซั่นนี้ เขาก็ยิงให้ ดอร์ทมุนด์ ไปถึง 16 ประตู จากการลงเล่นในทุกรายการเพียง 18 นัดเท่านั้น และช่วยให้ต้นสังกัดจบฤดูกาลด้วยการคว้ารองแชมป์บุนเดสลีกา ได้อีกด้วย

ส่วนในฤดูกาล 2020-2021 นี้ ฮาแลนด์ ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมที่จะขาดไม่ได้แล้ว และเจ้าตัวยังยิงประตูอย่างถล่มทลาย ถึงเวลานี้เขาซัดไปแล้ว 31 ประตู จากการลงสนาม 29 นัดในทุกรายการ และช่วยให้ต้นสังกัดผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เรียบร้อย 

ล่าสุด ฮาแลนด์ ก็กลายเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ เมื่อสามารถทำประตูในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครบ 20 ลูก เร็วสุดตลอดกาลเรียบร้อย โดยใช้เวลาแค่ 14 เกมเท่านั้น

นอกจากนี้เขายังยิงครบ 100 ประตูในการค้าแข้งไปแล้ว โดยลงเล่นไปเพียง 146 นัด เท่านั้น

และล่าสุด ในฤดูกาล 2022-23 นี้ ฮาแลนด์ ก็จะเข้ามาเขย่าเวทีพรีเมียร์ลีกแล้ว เมื่อได้ย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ มาค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมลูกหนังชื่อดัง ด้วยค่าตัว 51 ล้านปอนด์ 

การย้ายมายัง "เรือใบสีฟ้า" ครั้งนี้ เรียกว่าเป็นก้าวสำคัญในการชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัวเลยก็ได้ เพราะมีหลายทีมที่ตามจีบเขาอยู่ ทว่าดาวยิงนอร์เวย์ก็ตัดสินใจเลือกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ซึ่งต้องมาดูกันว่า การมายังลีกที่ขึนชื่อว่าโหดและหินที่สุดในครั้งนี้ ฮาแลนด์ จะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแค่ไหน และจะสามารถสร้างสถิติอะไรให้แฟนบอลได้เห็นกันอีก 

ผลงานทีมชาติ

สำหรับทีมชาตินอร์เวย์แล้ว ฮาแลนด์ ก็มาตามสเต็ปของดาวยิงวัยรุ่นทั่วไป เมื่อเล่นมาตั้งแต่ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี, 16 ปี, 17 ปี, 18 ปี, และ 19 ปี ตามลำดับ จนกระทั่ง ปี 2019 เขาก็ถูกเรียกตัวขึ้นมาเล่นในทีมชาติชุดใหญ่ และได้ลงสนามเป็นแมตช์แรก ในวันที่ 5 กันยายน ในเกมที่ นอร์เวย์ เอาชนะ มอลตา ไป 2-0

ในปี 2019 นี้เอง ฮาแลนด์ ได้สร้างสุดยอดสถิติในการลงเล่นทีมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2019 ในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเขาสามารถยิงคนเดียวได้ถึง 9 ประตู ในแมตช์ที่ นอร์เวย์ เอาชนะ ฮอนดูรัส ไปได้ถึง 12-0 อีกด้วย

และจนถึงเวลานี้ ฮาแลนด์ ลงเล่นให้ทีมชาตินอร์เวย์ ชุดใหญ่ไปแล้ว 21 นัด และยิงไปแล้วถึง 20 ประตู ด้วยกัน

เกียรติประวัติ

โมลด์

  • นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2018

เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก

  • แชมป์ออสเตรียน บุนเดสลีกา 2018-2019
  • แชมป์ออสเตรียน คัพ 2018–2019
  • นักเตะยอดเยี่ยมออสเตรียน บุนเดสลีกา 2019

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

  • นักเตะยอดเยี่ยมบุนเดสลีกา เดือนมกราคม 2020
  • นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมบุนเดสลีกา เดือนมกราคม 2020
  • แชมป์เดเอฟเบ โพคาล 2021-22

ทีมชาตินอร์เวย์

  • ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2019 ในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
  • ดาวซัลโวยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2020-2021

-------------------------------------------------

ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ