รีเซต
เปิดประวัติ.! ไค ฮาแวร์ตซ์ หนึ่งในความหวังของวงการฟุตบอลเยอรมัน

เปิดประวัติ.! ไค ฮาแวร์ตซ์ หนึ่งในความหวังของวงการฟุตบอลเยอรมัน

เปิดประวัติ.! ไค ฮาแวร์ตซ์ หนึ่งในความหวังของวงการฟุตบอลเยอรมัน
TenAkapol
8 มีนาคม 2566 ( 17:30 )
1.7K

มาทำความรู้จักประวัติของ ไค ฮาแวร์ตซ์ กองหน้าของ  เชลซี ที่ถูกคาดหวังให้เป็นตัวทำเกมในอนาคตไกลให้กับทีม อีกทั้งยังเป็นความหวังของทีมชาติเยอรมนี อีกด้วย 

ประวัติ ไค ฮาแวร์ตซ์ หนึ่งในความหวังของวงการฟุตบอลเยอรมัน

ในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้นั้น ไค ฮาแวร์ตซ์ คือชื่อที่แฟนบอลชาวเยอรมันตั้งความคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติเยอรมนีในอนาคตได้ หลังจากเขาฉายแววเด่นได้ตั้งแต่ตอนที่ยังอายุน้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเขาเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากพอตัว และไม่รู้ว่าเขาจะเอาประสบการณ์ที่สั่งสมเอาไว้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้หรือไม่

ข้อมูลส่วนตัว ไค ฮาแวร์ตซ์

  • ชื่อเต็ม : ไค ลูคัส ฮาแวร์ตซ์
  • เกิด : 11 มิถุนายน 1999, เมืองอาเช่น ประเทศเยอรมนี
  • อายุ : 23 ปี
  • ส่วนสูง : 193 เซนติเมตร
  • ตำแหน่ง : กองหน้า

เส้นทางลูกหนัง

ฮาแวร์ตซ์ เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง โดยคุณพ่อของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนคุณแม่มีอาชีพเป็นทนาย ซึ่งดูเผินๆ แล้วนั้นหลายคนอาจจะคิดว่าในวัยเด็ก ฮาแวร์ตซ์ ไม่น่าจะมีต้นตออะไรที่ทำให้เขาหลงใหลเกมฟุตบอลได้

อย่างไรก็ตามการที่ ริชาร์ด คุณลุงของเขาเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน รวมถึงเคยเป็นโค้ชให้ทีมฟุตบอลด้วย ทำให้เขาถ่ายทอดความชื่นชอบในเกมฟุตบอลไปสู่คนอื่นๆ ในครอบครัว นอกจากนี้ คุณพ่อของ ฮาแวร์ตซ์ เคยเล่นฟุตบอลเหมือนกันแต่เป็นในระดับสมัครเล่น

ด้วยความที่คุณลุงของ ฮาแวร์ตซ์ เป็นคนเลี้ยงดูเขาซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ ฮาแวร์ตซ์ หลงรักกีฬาฟุตบอลมากกว่าคนอื่นๆ เป็นพิเศษ แถมบ้านของตระกูล ฮาแวร์ทซ์ ยังอยู่ใกล้กับสนามฟุตบอลของทีมท้องถิ่นด้วย ทำให้ความรักในกีฬาฟุตบอลของเจ้าหนู ไค มีมากขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ ฮาแวร์ทซ์ มักจะเดินจากบ้านไปเล่นฟุตบอลแถวบ้านของตัวเองแทบทุกวันโดยที่มีคุณลุงคอยให้คำชี้แนะ และบางครั้งเขาได้เล่นที่สวนของครอบครัวด้วย จนพออายุได้ 4 ขวบ ฮาแวร์ทซ์ เริ่มเล่นให้ อเลมาเนีย มาเรียดอร์ฟ ทีมในย่านท้องถิ่น ซึ่งเป็นทีมที่คุณลุงของ ฮาแวร์ทซ์ เคยเป็นประธานให้อยู่หลายปี

ครอบครัวของ ฮาแวร์ทซ์ เริ่มติดต่อกับทีมต่างๆ ในตอนที่เจ้าตัวมีอายุ 9 ขวบ เพื่อที่จะได้เป็นการปูทางให้เขามีอนาคตในอาชีพการค้าแข้งได้ จนพอเขาอายุได้ 10 ขวบ ฮาแวร์ทซ์ ได้ไปอยู่กับอะคาเดมี่ของ อเลมาเนีย อาเช่น ทีมที่ใหญ่ที่สุดในย่านนั้น แต่เขาได้อยู่กับที่นั่นแค่ปีเดียวเนื่องจากฝีเท้าที่โดดเด่นไปเข้าตา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

ที่จริงมันไม่แปลกที่ "ห้างขายยา" จะทึ่งกับฟอร์มของเขา เพราะครั้งหนึ่งทีมรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปีของ อเลมาเนีย อาเช่น เคยดวลกับทีมรุ่นเดียวกันของ เลเวอร์คูเซ่น และวันนั้น ฮาแวร์ทซ์ ทำแฮตทริกได้จนช่วยให้ทีมของเขาชนะไปแบบขาดลอย 8-3 เลยทีเดียว โดยวันนั้นเขาได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีกต่างหาก

ฮาแวร์ทซ์ ได้ไปอยู่กับอะคาเดมี่ของ เลเวอร์คูเซ่น ตอนอายุได้ 11 ขวบ และเขาพัฒนาฝีเท้ามาได้เรื่อยๆ โดยในปี 2016 เจ้าตัวเคยทำได้ถึง 18 ประตูจาก 26 นัดจนทำให้ทีมเยาวชนของ เลเวอร์คูเซ่น ได้แชมป์ระดับประเทศในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี

วันที่ 15 ตุลาคม 2016 ฮาแวร์ทซ์ ได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น โดยเขาลงเป็นตัวสำรองในเกมลีกที่ทีมแพ้ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-2 แต่ตอนนั้นมันทำให้เขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ประเดิมสนามในเกมลีกกับ เลเวอร์คูเซ่น เลย ด้วยวัย17 ปีกับ 126 วัน โดยสถิตินั้นมาโดนทำลายในอีกราว 4 ปีต่อมา

ฮาแวร์ทซ์ มีส่วนร่วมในหน้าประวัติศาสตร์ของ บุนเดสลีกา ด้วย หลังจากเขาผ่านบอลให้ คาริม เบลลาราบี้ ทำประตูได้เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ปี 2017 และนั่นถือเป็นประตูที่ 50,000 ของศึกบุนเดสลีกา พอดี และในวันที่ 2 เมษายนของปีเดียวกันเขาทำประตูแรกให้กับทีมชุดใหญ่ได้ โดยเป็นเกมลีกที่เสมอ เฟาเอฟแอล โวล์ฟส์บวร์ก 3-3 ทำให้เขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงในลีกให้กับ เลเวอร์คูเซ่น ได้ ด้วยวัยเพียง 17 ปี ซึ่งในซีซั่น 2016-17 เขาได้ลงเล่นไป 24 นัดในลีก พร้อมกับยิงได้ 4 ลูก

หลังจากนั้น ฮาแวร์ทซ์ ยังได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อถึงวันที่ 14 เมษายน 2018 เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ บุนเดสลีกา ที่ลงเล่นในลีกถึงหลัก 50 นัด โดยตอนนั้นเขามีอายุแค่ 18 ปีกับ 307 วัน ซึ่งสุดท้ายแล้วซีซั่น 2017-18 เขายิงในลีกไป 3 ลูกจากการลงเล่น 30 เกม

ฤดูกาล 2018-19 ถือเป็นซีซั่นที่ ฮาแวร์ทซ์ สร้างชื่อให้กับตัวเองมากขึ้นไปอีก เพราะเขายิงในลีกได้ถึง 17 ลูกจากการลงเล่น 34 นัด ทำให้เขาถือเป็นดาวรุ่งที่ทำประตูใน บุนเดสลีกา ต่อ 1 ฤดูกาลได้เยอะที่สุด ซึ่งระหว่างทางเขายังเป็นนักเตะคนแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1967-68 ที่ยิงใน บุนเดสลีกา ได้อย่างน้อย 13 ลูกภายในฤดูกาลเดียวด้วย ส่งผลให้เขามีชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะเยอรมันยอดเยี่ยมแห่งปีของฤดูกาลนั้น และเจ้าตัวได้รับเสียงโหวตเป็นที่ 2

ในซีซั่น 2019-20 ฮาแวร์ทซ์ ยังสร้างสถิติให้ตัวเองเพิ่มได้อีก นั่นคือเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นใน บุนเดสลีกา แตะหลัก 100 เกม ก่อนที่เขาจะปิดฤดูกาลนั้นด้วยผลงาน 12 ประตูจากการลงเล่นในลีก 30 นัด พร้อมกับเป็นที่หมายตาของหลายทีม

สุดท้ายแล้วก็เป็น เชลซี ที่ดึงตัว ฮาแวร์ทซ์ ไปร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์ 2020 หลังพวกเขายอมจ่ายเงินโดยรวมถึง 71 ล้านปอนด์ จนทำให้ ฮาแวร์ทซ์ เป็นแข้งที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของ เชลซี และเขาได้ประเดิมสนามกับทีมในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-1 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2020

ในวันที่ 23 กันยายน ของปีเดียวกัน ฮาแวร์ทซ์ สร้างความฮือฮาด้วยการทำแฮตทริกในเกม อีเอฟแอล คัพ นัดที่ เชลซี ถล่ม บาร์นส์ลี่ย์ 6-0 โดยมันเป็นแฮตทริกแรกในอาชีพการเล่นของเขาด้วย และสุดท้ายเขามีส่วนช่วยให้ทีมได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่ซีซั่นแรกของตัวเองกับ เชลซี ด้วยการทำประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศที่ เชลซี ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 โดยนั่นเป็นประตูแรกของเขาในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน ซึ่งโดยรวมแล้วในฤดูกาล 2020-21 เขาทำไป 9 ประตูจากการลงเล่นในทุกรายการ 45 นัด

ในฤดูกาล 2021-22 ฮาแวร์ทซ์ ยังได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเขาได้ทั้งแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และศึกชิงแชมป์สโมสรโลกร่วมกับทีม โดยรายการหลังเขาเป็นคนทำประตูชัยได้ด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วในซีซั่น 2021-22 เขาทำไปได้ 14 ประตูจากการลงเล่น 47 นัดในทุกรายการ

พอถึงซีซั่น 2022-23 ฮาแวร์ทซ์ ยังได้ลงเล่นอยู่บ่อยๆ แต่ศักยภาพการทำประตูของเขาไม่โดดเด่นเท่าที่ควรจนส่งผลให้ทีมมีผลงานดร็อปลงตามไปด้วย แต่หลายคนยังเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งแข้งวัย 23 ปีจะกลับมาฉายแสงได้

ผลงานทีมชาติ

หลังจากเล่นในระดับทีมเยาวชนมาพักใหญ่ ฮาแวร์ทซ์ ถูกเรียกติดทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2018 และเขาได้ประเดิมสนามกับทีมในวันที่ 9 กันยายน ปีเดียวกัน โดยเป็นเกมอุ่นเครื่องที่ เยอรมนี ชนะ เปรู 2-1

ฮาแวร์ทซ์ ยังถูกเรียกติดทีมเพิ่มอีกหลายครั้ง และเป็นส่วนหนึ่งของ "อินทรีเหล็ก" ทั้งในศึก ยูโร 2020 และ ฟุตบอลโลก 2022 โดยในรายการหลังเขาเคยทำไป 2 ประตูในเกมที่ชนะ คอสตาริก้า 4-2 ด้วย แต่สุดท้าย เยอรมนี ตกรอบแบ่งกลุ่ม

เกียรติประวัติ

เชลซี

  • ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2020-21
  • ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2021
  • ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก : 2021

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

 

ยอดนิยมในตอนนี้

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี