เละเป็นโจ๊ก! 4 ประเด็นร้อน หลังเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนยู ยับเยิน 7-0

TNN ช่อง16

6 มีนาคม 2566 ( 13:00 )

850

เจาะ 4 ประเด็นร้อน จากเกมแดงเดือดที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถล่ม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแบบไม่ไว้หน้าถึง 7-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา

เกมดังกล่าว เจ้าบ้านได้ประตูจาก โคดี้ กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ คนละ 2 ประตู และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ อีก 1 ประตู ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง แข่งขันไป 25 นัด มี 42 คะแนน ห่างจากทีมอันดับ 4 อย่าง สเปอร์ส เพียง 3 คะแนน และแข่งน้อยกว่า 1 นัด

ลิเวอร์พูล VS แมนยู 7-0 (คลิปไฮไลท์) : หงส์ยิงจนเหนื่อย ไล่ขยี้ผีหมดสภาพ

โดยในเกมนี้มีอยู่หลากหลายประเด็นให้ได้พูดคุยกันหลังเกม และนี่คือ 4 ประเด็นร้อนที่เราได้เห็นกัน

ประเด็นแรก : เกมรุกของ ยูไนเต็ด

ก่อนเกมจะเริ่มหลายคนได้คาดการณ์ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องเป็นฝ่ายครองเกม และบุกโจมตี ลิเวอร์พูล เนื่องจากโมเมนตัมทีมของพวกเขากำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด และนักเตะที่ถูกจับตามองในเกมนี้ก็คงหนีไม่พ้นนั้นคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด

แต่แล้วเกมนี้ต้องเรียกได้ว่า แทบจะประกาศตามหาคนหายได้เลย ในช่วงครึ่งแรก แรชฟอร์ด มีสถิติที่น่าผิดหวังมาก เขาได้สัมผัสบอลเพียง 14 ครั้ง เรียกได้ว่าน้อยที่สุดในทีมเลยก็ว่าได้ และเกมรุกของปีศาจแดง ก็ดูจะทำอะไรไม่ได้มาก รวมไปถึง แอนโทนี่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ในช่วงครึ่งแรก พวกเขามีโอกาสยิงประตู 4 ครั้ง และเขากรอบไปถึง 3 ครั้ง แต่ครึ่งหลัง พวกเขามีโอกาสยิง 0 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่น่าตกใจสำหรับทีมที่กำลังเก็บชัยชนะได้เป็นกอบเป็นกำก่อนหน้านี้

ประเด็นที่สอง : ที่นี่คือ "แอนฟิลด์"

ต้องยกเครดิตให้กับ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีม, นักเตะในสนาม และแฟนบอลในสนาม พวกเขาสามารถจัดการกับ ยูไนเต็ด ได้อย่างอยู่หมัด แนวรุกตัวจริงทั้งสามคน ประกอบไปด้วย โคดี้ กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ต่างก็ยิงคนละ 2 ประตู รวมไปถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ แนวรุกตัวสำรอง ก็สามารถลงมายิงประตูปิดท้ายได้ ถือว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา แม้ว่าฟอร์มการเล่นก่อนหน้านี้จะดูเงียบไปมาก สำหรับทัพหงส์แดง แต่ที่นี่คือ "แอนฟิลด์" และการเจอกับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ

ประเด็นที่สาม : แทคติกของ เทน ฮาก

เกมนี้ เอริค เทน ฮาก เลือกใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสู่สนาม และแทคติกของเขา ก็ใช้ได้ดีกับการเจอทีมใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า เขามักจะให้ผู้เล่นเล่นในระบบ 4-1-4-1 โดยมี คาเซมิโร่ ยืนเป็นกลางรับตัวเดียว และให้ผู้เล่นกองกลางขึ้นไปสนับสนุนในพื้นที่แดนหน้า

แต่ทว่าเกมนี้ กองกลางของ ยูไนเต็ด ดูแล้วน่าผิดหวัง ไม่สามารถเอาชนะกลางของ ลิเวอร์พูล ได้ และจะเห็นได้ชัดว่า แบ็กทั้งสองฝั่งของ ลิเวอร์พูล เล่นงาน ยูไนเต็ด ได้อย่างอยู่หมัด โดยเกมนี้แอบเห็นจุดบกพร่องของ ปีกยูไนเต็ดอย่าง แอนโทนี่ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่หลายจังหวะไม่ได้ลงมาช่วยเกมรับมากเท่าที่ควร จนทำให้ทีมต้องพบกับความพ่ายแพ้อีกด้วย

ประเด็นที่สี่ : แข้งผีถอดใจ หลังโดนยิงไปเยอะ

หากใครได้ดูเกมนี้ จะเห็นได้ว่า นักเตะยูไนเต็ด หลายคนต่างพากันถอดใจ และเล่นโดยการใช้อารมณ์เป็นส่วนใหญ่ในช่วงท้ายเกม และเมื่อสกอร์โดนนำห่างไปถึง 5-0, 6-0 คนที่โดนตำหนิเยอะที่สุด คงจะเป็นทางด้านของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมในเกมนี้

โดย แกรี่ เนวิลล์ อดีตแข้งผีแดง ก็เป็นหนึ่งคนที่ออกมาวิจารณ์ บรูโน่ ในช่วงครึ่งหลังว่า ทำตัวน่าละลายที่สุดและไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ และนักเตะอีกคนที่โดนโจมตีในเรื่องนี้ คือ ลุค ชอว์ ที่ไปเดือดใส่ ดาร์วิน นูนเญซ จนทำให้โดนใบเหลืองจากการเข้าปะทะ และมีจังหวะแถมใส่ นั่นเอง