รีเซต
เปิดประวัติ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์พลังไดนาโมแห่ง ทรู แบงค็อก

เปิดประวัติ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์พลังไดนาโมแห่ง ทรู แบงค็อก

เปิดประวัติ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์พลังไดนาโมแห่ง ทรู แบงค็อก
bally4455
23 พฤษภาคม 2566 ( 18:00 )
515

เปิดประวัติและทำความรู้จัก "นิว" ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์จอมขยันของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย

ข้อมูลส่วนตัว 

  • ชื่อ-สกุล : ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 
  • ชื่อเล่น : นิว
  • เกิด : 1 กันยายน 2536 ที่จ.สุพรรณบุรี
  • อายุ : 29 ปี 
  • สัญชาติ : ไทย 
  • ตำแหน่ง : กองกลาง 
  • ส่วนสูง : 178 เซนติเมตร 
  • ต้นสังกัดปัจจุบัน : ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

เส้นทางลูกหนัง

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เป็นลูกชายของ ไพโรจน์ พ่วงจันทร์ อดีตกองหลังทีมชาติไทย นั่นทำให้ "เจ้านิว" ชื่นชอบและได้ซึบซับฟุตบอลจากคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก จนได้เข้าสู่รั้วของโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานครตอนอายุประมาณ 11 ขวบ และได้ย้ายต่อไปยังโรงเรียนสตรีวิทยา 2 พร้อมกับติดทีมเยาวชนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Thitiphan Puangjan (@new_thitiphan)

 

จากนั้น ฐิติพันธ์ ได้เซ็นสัญญากับสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ตอนอายุ 17 ปี ก่อนจะถูกปล่อยยืมให้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับ "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี เอฟซี และทำผลงานได้โดดเด่น จนทำให้ เมืองทอง ดึงตัวกลับมาและดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ซึ่ง ฐิติพันธ์ ได้ฉลองแชมป์ไทยลีกกับทีมกิเลนผยองในฤดูกาล 2012

ต่อมาในปี 2016 ฐิติพันธ์ หิ้วสตั๊ดขึ้นเหนือไปเล่นให้กับ "กว่างโซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด และได้สัมผัสแชมป์เอฟเอคัพ 2017 ก่อนจะชีพจรลงเท้าอีกครั้งด้วยการย้ายไปสวมยูนิฟอร์มของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปี 2018 ด้วยค่าตัวสูงถึง 30 ล้านบาท แต่ในฤดูกาลนั้น ทัพ "เดอะ แรบบิท" ทำผลงานน่าผิดหวังจนต้องตกชั้นไปเล่นในไทยลีก 2 

แม้ผลงานกับสโมสรจะไม่ค่อยดีนัก แต่ระหว่างนั้น "เจ้านิว" โชว์ฟอร์มยอดเยี่มกับทีมชาติไทยในศึกเอเชียนคัพ จนผลงานไปเข้าตาสโมสรในเจลีก ญี่ปุ่น และถูกดึงตัวไปเล่นให้กับ โออิตะ ตรินิตะ ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่น 2019 พร้อมกับทำผลงานลงเล่น 25 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 1 ประตู

หลังกลับมาจากเจลีก บีจี ปทุมได้เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาสู่ไทยลีกอีกครั้ง และ ฐิติพันธ์ มีส่วนสำคัญช่วยให้ บีจี ปทุม ผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก 2020-21 ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับ "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และเซ็นสัญญาแบบถาวรในเวลาต่อมา

ภายใต้สีเสื้อของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ฐิติพันธ์โชว์ฟอร์มเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมมาโดยตลอด โดยเฉพาะฤดูกาล 2022-23 ที่ผ่านมา "เจ้านิว" ลงสนามไปถึง 32 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 4 ประตู พร้อมกับช่วยให้ทีมแข้งเทพคว้าตำแหน่ง "รองแชมป์" คว้าสิทธิไปลุยรอบแบ่งกลุ่ม ศึกฟุตบอลเอฟเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 2010 

นอกจากนี้ ฐิติพันธ์ ยังมีโอกาสพาทีมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แรกของสโมสร โดย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เตรียมลงสนามนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลถ้วยช้าง เอฟเอ คัพ พบกับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สนามทรู สเตเดียม ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม เวลา 18.00 น.

ตลอดการค้าแข้งกับสโมสรในไทย ฐิติพันธ์สามารถคว้าถ้วยแชมป์ติดมือได้เสมอ ไม่ว่าจะเล่นให้กับเมืองทอง, เชียงราย หรือ บีจี ปทุม ดังนั้นแฟนบอลแข้งเทพต้องมาลุ้นกันต่อว่า มิดฟิลด์จอมขยันผู้มี "สตีเวน เจอร์ราร์ด" เป็นไอดอล จะประสบความสำเร็จได้ฉลองแชมป์แรกกับทรู แบงค็อก ได้หรือไม่ในนัดชิงเอฟเอคัพกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 

ผลงานกับทีมชาติไทย

ฐิติพันธ์ ติดทีมชาติไทยชุดเยาวชนไล่เรียงตามลำดับรุ่นอายุมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาสร้างชื่อกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เมื่อตอนเล่นทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ลุยศึกฟุตบอลยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ซึ่งทัพช้างศึกเฉือนชนะเกาหลีใต้ 1-0 โดย "เจ้านิว" เป็นฮีโร่ซัดประตูชัยด้วยลูกยิงไกลเต็มข้อจากระยะกว่า 30 หลา ส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างหมดจดหยดย้อยคะแนนเต็มร้อยต้องให้ร้อยห้าสิบ

ต่อมา ฐิติพันธ์ ได้รับโอกาสจาก "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ และได้ลงสนามให้กับทัพช้างศึกเป็นครั้งแรกด้วยวัย 19 ปี เมื่อเดือนมีนาคม 2013 ในเกมเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก ซึ่งบุกไปพ่าย เลบานอน 2-5 โดย 2 ประตูของทีมชาติไทยในเกมดังกล่าวเป็นผลงานของเจ้านิวทั้ง 2 ลูก

หลังจากนั้น ฐิติพันธ์ มีชื่ออยู่ในสารบบทีมชาติไทยมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งถึงยุคปัจจุบันที่มี มาโน่ โพลกิ้ง นั่งเก้าอี้กุนซือ ขณะที่ความสำเร็จกับทีมชาติไทยนั้น ฐิติพันธ์คว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัยในปี 2013 และ 2015, แชมป์ยู-19 ชิงแชมป์อาเซียน ปี 2011, แชมป์คิงส์คัพ 2017 และแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้