รีเซต
Seiko Prospex 'Pogue' Solar Chronograph ตำนานนาฬิกาอวกาศที่หวนกลับมาอีกครั้ง

Seiko Prospex 'Pogue' Solar Chronograph ตำนานนาฬิกาอวกาศที่หวนกลับมาอีกครั้ง

Seiko Prospex 'Pogue' Solar Chronograph ตำนานนาฬิกาอวกาศที่หวนกลับมาอีกครั้ง
TNP1459
6 กรกฎาคม 2567 ( 13:19 )
4.1K

        ในโลกของนาฬิกา มีเรื่องราวมากมายที่น่าประทับใจ แต่มีไม่กี่เรื่องที่สามารถสร้างความตื่นเต้นได้เท่ากับการเดินทางสู่อวกาศ วันนี้ Seiko ได้นำพาเราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาอันน่าทึ่งนั้นอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Prospex Speedtimer 'Pogue' Solar Chronograph 1969 Re-interpretation นาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานแห่งการสำรวจอวกาศ


ย้อนรอยประวัติศาสตร์

        ก่อนที่เราจะดื่มด่ำกับรายละเอียดของนาฬิกาเรือนนี้ เรามาย้อนกลับไปในปี 1969 กันสักหน่อย ซึ่งเป็นปีที่ Seiko สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเปิดตัว Speedtimer นาฬิกาโครโนกราฟไขลานอัตโนมัติเรือนแรกของโลก แต่เรื่องราวที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นเกิดขึ้นในทศวรรษถัดมา เมื่อนักบินอวกาศ Colonel William Pogue ได้นำนาฬิกา Seiko Chronograph รุ่น 6139-6002 ขึ้นไปในภารกิจ Skylab ก็ได้ทำให้มันกลายเป็นนาฬิกาโครโนกราฟอัตโนมัติเรือนแรกในอวกาศ และได้รับฉายา "Pogue" ตามชื่อของผู้สวมใส่นับแต่นั้นมา

      ด้วยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่นี้ Seiko จึงตัดสินใจนำ 'Pogue' กลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น แต่ยังคงเสน่ห์ของต้นฉบับไว้อย่างครบถ้วน Prospex Speedtimer 'Pogue' Solar Chronograph รูปลักษณ์ใหม่นี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการรำลึกถึงอดีต แต่ยังเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับการออกแบบที่เป็นอมตะอีกด้วย

 


ดีไซน์ที่โดดเด่น

         เมื่อมองเห็น Speedtimer 'Pogue' รุ่นใหม่นี้ สิ่งแรกที่จะสะดุดตาคุณคือหน้าปัดสีเหลืองสดใสที่อยู่ภายใต้กระจกแซฟไฟร์โค้ง สีเหลืองนี้ไม่ใช่แค่สีสันธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและการผจญภัย เป็นสีที่บอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางสู่อวกาศอันไกลโพ้น

         ส่วนเข็มวินาทีและเข็มนาทีย่อยที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเป็นสีแดงสด ตัดกับพื้นหลังสีเหลือง ช่วยให้อ่านเวลาได้ง่ายและชัดเจน แม้ในสภาวะแสงน้อย สื่อว่านี่ไม่ใช่แค่การออกแบบเพื่อความสวยงาม แต่เป็นการคำนึงถึงการใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่นเดียวกับที่นักบินอวกาศต้องเผชิญด้วย

        ด้านขอบตัวเรือนอลูมิเนียมสีน้ำเงินและแดงไม่เพียงแต่สร้างความโดดเด่นทางสุนทรียภาพ แต่ยังมาพร้อมกับสเกล tachymeter ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถคำนวณความเร็วได้อย่างรวดเร็ว ฟังก์ชันนี้อาจไม่จำเป็นสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปก็จริง แต่มันเป็นส่วนสำคัญของมรดกทางประวัติศาสตร์ของนาฬิกาเรือนนี้ที่ช่วยเติมเต็มความพิเศษได้อย่างลงตัว

 


ความสว่างในความมืด

        Seiko ไม่ได้มองข้ามความสำคัญของการอ่านเวลาในที่มืด ตัวเลขและเครื่องหมายบอกชั่วโมงทั้ง 12 จุดถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสง Lumibrite ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Seiko ที่ให้แสงสว่างยาวนานและสม่ำเสมอ แม้ในความมืดสนิท คุณก็จะสามารถอ่านเวลาได้อย่างชัดเจน เสมือนกับว่าคุณกำลังลอยอยู่ในอวกาศที่มืดมิด แต่ยังสามารถมองเห็นดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับนั่นเอง

 


เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ

        แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนนาฬิกาวินเทจ แต่ภายในของ Speedtimer 'Pogue' รุ่นใหม่นี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย แม้จะเป็นที่ถกเถียงว่าทำไมจึงไม่ใช้ระบบไขลานอัตโนมัติเหมือนต้นฉบับดั้งเดิม แต่การเลือกใช้กลไก V192 Solar Chronograph ก็ช่วยให้สามารถคงรูปลักษณ์ของขอบตัวเรือนแบบ tachymeter ได้ใกล้เคียงกับรุ่นดั้งเดิมมากที่สุดเช่นกัน  โดยเป็นระบบควอตซ์ที่ใช้พลังงานแสงในการชาร์จ ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติหรือแสงประดิษฐ์ นาฬิกาเรือนนี้ก็สามารถดูดซับพลังงานเพื่อทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

        ส่วนความแม่นยำที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการสำรวจอวกาศ ทาง Seiko ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน เพราะกลไกนี้มีความแม่นยำถึง +/- 15 วินาทีต่อเดือน ซึ่งถือว่าดีเยี่ยมสำหรับนาฬิกาในระดับราคานี้ นอกจากนี้ ยังสามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 6 เดือนเมื่อชาร์จเต็ม ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่านาฬิกาจะหยุดเดินในยามวิกฤต

 


การใช้งานในชีวิตจริง

        แม้ว่า Speedtimer 'Pogue' จะได้รับแรงบันดาลใจจากการสำรวจอวกาศ แต่มันก็ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนโลกด้วยเช่นกัน ด้วยขนาดตัวเรือน 41.1 มม. ทำให้นาฬิกาเรือนนี้สวมใส่สบายสำหรับข้อมือหลากหลายขนาด วัสดุสแตนเลสสตีลให้ความแข็งแรงทนทาน และความสามารถในการกันน้ำลึก 100 เมตร ทำให้คุณสามารถสวมใส่นาฬิกาเรือนนี้ได้ในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำหรือดำน้ำตื้น

        สายนาฬิกาสแตนเลสสตีลแบบสามห่วงไม่เพียงแต่ดูสวยงาม แต่ยังให้ความแข็งแรงและความสบายในการสวมใส่ การออกแบบนี้ช่วยให้นาฬิกาดูเข้ากับทั้งชุดลำลองและชุดทำงาน ทำให้ Speedtimer 'Pogue' เป็นนาฬิกาที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน

สรุป

        Seiko Prospex Speedtimer 'Pogue' Solar Chronograph เป็นการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบัน ระหว่างนวัตกรรมและการออกแบบที่เป็นอมตะ ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศได้เป็นเจ้าของชิ้นส่วนของตำนานได้อย่างน่าสนใจทีเดียว เพราะมันไม่เพียงแต่บอกเวลา แต่ยังเล่าเรื่องราวของการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติด้วยนั่นเอง

        นาฬิกา Seiko Prospex Speedtimer 'Pogue' Solar Chronograph จะวางจำหน่ายในวันที่ 5 กรกฎาคมในราคา £600 หรือประมาณ 28,005 บาท (ราคาโดยประมาณไม่รวมภาษี) โดยสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ที่ Seikoboutique.co.uk

 


บทความที่คุณอาจสนใจ

-------------------------------------------------

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ