รีเซต
วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมผู้ชายต้องได้รับ Vitamin D

วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมผู้ชายต้องได้รับ Vitamin D

วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมผู้ชายต้องได้รับ Vitamin D
TNP1459
14 กันยายน 2567 ( 19:32 )
81

       รู้หรือไม่ว่า วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมผู้ชายต้องได้รับ Vitamin D ซึ่งวิตามินดีถือเป็นวิตามินที่ใครหลายคนมักมองข้ามความสำคัญไป แต่แท้จริงแล้วมีความสำคัญเอามากๆ เลยทีเดียว  ไม่ว่าจะในด้านกระดูก กล้ามเนื้อ ระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวม


วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมผู้ชายต้องได้รับ Vitamin D


วิตามินดี (Vitamin D) คืออะไร

       วิตามินดี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีความสำคัญต่อร่างกายหลายอย่าง ทั้งในด้านกระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวม


ประเภทของวิตามินดี

        วิตามินดีมี 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

  • วิตามินดี 3 (cholecalciferol) เป็นวิตามินดีที่พบได้ในธรรมชาติ โดยร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดี 3 ได้จากการสัมผัสแสงแดด
  • วิตามินดี 2 (ergocalciferol) เป็นวิตามินดีที่สังเคราะห์ขึ้น พบได้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอาหารบางชนิด


ประโยชน์ของวิตามินดี

        วิตามินดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่างๆ ดังนี้

  • กระดูกและกล้ามเนื้อ วิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคกระดูกอ่อน กระดูกพรุน และโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อได้อีกด้วย

  • ระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินดีมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและการติดเชื้อต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • สุขภาพโดยรวม วิตามินดีมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งบางชนิด โรคเบาหวาน และโรคซึมเศร้า

 

วิตามินดีมีอะไรบ้าง และแหล่งวิตามินดี

        แหล่งวิตามินดีหลักสำหรับร่างกายคือแสงแดด ร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้จากแสงแดดที่ส่องผ่านผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ปริมาณวิตามินดีที่ร่างกายได้รับจากแสงแดดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณรังสียูวีในแสงแดด ฤดูกาล ปริมาณเสื้อผ้าที่สวมใส่ และความเข้มของสีผิว

        นอกจากแสงแดดแล้ว วิตามินดียังพบได้ในอาหารบางชนิด เช่น ปลาทะเล ไข่แดง เห็ด และนมเสริมวิตามินดีอีกด้วย

 

อาการเมื่อขาดวิตามินดี

หากร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ อาจมีอาการต่างๆ ดังนี้

  • อ่อนเพลีย
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • ปวดกระดูก
  • กระดูกพรุน
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ สูงขึ้น 


วิธีป้องกันไม่ให้ขาดวิตามินดี

  • ออกไปสัมผัสแสงแดดเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 15-30 นาที โดยให้ผิวที่ไม่ถูกแดดเป็นประจำสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • รับประทานอาหารที่มีวิตามินดี เช่น ปลาทะเล ไข่แดง เห็ด และนมเสริมวิตามินดี
  • หากมีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการรับประทานวิตามินดีเสริม


ปริมาณวิตามินดีที่แนะนำสำหรับแต่ละช่วงอายุมีดังนี้

  • อายุ 0-12 เดือน 400 IU (10 ไมโครกรัม)
  • อายุ 1-70 ปี 600 IU (15 ไมโครกรัม)
  • อายุ 70 ปีขึ้นไป 800 IU (20 ไมโครกรัม)

         อย่างไรก็ตาม ก่อนจะรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพราะสุขภาพร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกันนั่นเอง

โทษของวิตามินดี และข้อควรระวัง

        การรับประทานวิตามินดีเสริมมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนล้า ท้องร่วง ระดับแคลเซียมในเลือดสูง เป็นต้น จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีเสริมวิตามินดีที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด

บทความที่คุณอาจสนใจ

-------------------------------------------------

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ