วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมผู้ชายต้องได้รับ Vitamin D
รู้หรือไม่ว่า วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมผู้ชายต้องได้รับ Vitamin D ซึ่งวิตามินดีถือเป็นวิตามินที่ใครหลายคนมักมองข้ามความสำคัญไป แต่แท้จริงแล้วมีความสำคัญเอามากๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะในด้านกระดูก กล้ามเนื้อ ระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวม
วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมผู้ชายต้องได้รับ Vitamin D
ลูกค้า True ใช้ทรูพอยท์ 0 คะแนน รับบริการนวดกดจุดรักษาออฟฟิศซินโดรม
ในราคา 990.- (จากปกติราคาปกติ 1,200.-) วันนี้ถึง 31 ธ.ค.2567
วิตามินดี (Vitamin D) คืออะไร
วิตามินดี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีความสำคัญต่อร่างกายหลายอย่าง ทั้งในด้านกระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวม
ประเภทของวิตามินดี
วิตามินดีมี 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- วิตามินดี 3 (cholecalciferol) เป็นวิตามินดีที่พบได้ในธรรมชาติ โดยร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดี 3 ได้จากการสัมผัสแสงแดด
- วิตามินดี 2 (ergocalciferol) เป็นวิตามินดีที่สังเคราะห์ขึ้น พบได้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอาหารบางชนิด
ประโยชน์ของวิตามินดี
วิตามินดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่างๆ ดังนี้
- กระดูกและกล้ามเนื้อ วิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคกระดูกอ่อน กระดูกพรุน และโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
- ระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินดีมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและการติดเชื้อต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สุขภาพโดยรวม วิตามินดีมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งบางชนิด โรคเบาหวาน และโรคซึมเศร้า
วิตามินดีมีอะไรบ้าง และแหล่งวิตามินดี
แหล่งวิตามินดีหลักสำหรับร่างกายคือแสงแดด ร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้จากแสงแดดที่ส่องผ่านผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ปริมาณวิตามินดีที่ร่างกายได้รับจากแสงแดดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณรังสียูวีในแสงแดด ฤดูกาล ปริมาณเสื้อผ้าที่สวมใส่ และความเข้มของสีผิว
นอกจากแสงแดดแล้ว วิตามินดียังพบได้ในอาหารบางชนิด เช่น ปลาทะเล ไข่แดง เห็ด และนมเสริมวิตามินดีอีกด้วย
อาการเมื่อขาดวิตามินดี
หากร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ อาจมีอาการต่างๆ ดังนี้
- อ่อนเพลีย
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ปวดกระดูก
- กระดูกพรุน
- ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ สูงขึ้น
วิธีป้องกันไม่ให้ขาดวิตามินดี
- ออกไปสัมผัสแสงแดดเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 15-30 นาที โดยให้ผิวที่ไม่ถูกแดดเป็นประจำสัมผัสแสงแดดโดยตรง
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินดี เช่น ปลาทะเล ไข่แดง เห็ด และนมเสริมวิตามินดี
- หากมีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการรับประทานวิตามินดีเสริม
ปริมาณวิตามินดีที่แนะนำสำหรับแต่ละช่วงอายุมีดังนี้
- อายุ 0-12 เดือน 400 IU (10 ไมโครกรัม)
- อายุ 1-70 ปี 600 IU (15 ไมโครกรัม)
- อายุ 70 ปีขึ้นไป 800 IU (20 ไมโครกรัม)
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพราะสุขภาพร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกันนั่นเอง
โทษของวิตามินดี และข้อควรระวัง
การรับประทานวิตามินดีเสริมมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนล้า ท้องร่วง ระดับแคลเซียมในเลือดสูง เป็นต้น จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีเสริมวิตามินดีที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด
บทความที่คุณอาจสนใจ
- เดินลดความอ้วน เดินลดไขมัน ผู้ชาย ต้องเดินวันละกี่นาที ลดน้ำหนักได้จริง
- ลดความอ้วน ไม่ควรกินอะไร อาหารที่ไม่ควรกินตอนลดน้ำหนัก ของอร่อยที่ทำให้ผู้ชายอ้วน
- อาหารลดพุงมื้อเย็น แบบไทยๆ สำหรับผู้ชาย โปรตีนสูง ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดน้ำหนัก อร่อยไม่อ้วน
- กินอะไรลดพุงได้ อาหารลดพุงเร่งด่วน ลดพุงทำไง ผู้ชาย อ้วนลงพุงต้องกิน
- 9 สาเหตุของผู้ชายที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ เพราะอะไร มีวิธีแก้อย่างไร
-------------------------------------------------