False 9 คืออะไร แล้วทำไมจะถูกนำมาใช้กับทีมชาติไทย
เรียกว่าเป็นกำลังเป็นที่ฮือฮาอยู่ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ การประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติไทยครบ 23 คน
โดยสิ่งที่เป็นหัวข้อและกำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ คือการที่ อากิระ นิชิโนะ เลือกที่จะเรียกนักเตะในตำแหน่งกองหน้าเพียง 2 คน เท่านั้น ได้แก่ ศุภชัย ใจเด็ด และ ชนานันท์ ป้อมปุบผา โดยไร้ชื่อ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และ “AK9” อดิศักดิ์ ไกรษร ทำให้มีการพูดถึงอย่างกว้างขวางของแฟนบอลโดยเฉพาะบนโลก Social หรือแผนการเล่นของทีมชาติไทยในครั้งนี้
อากิระ นิชิโนะ เลือกที่จะใช้แผนการเล่นแบบ False 9 แต่เราเชื่อว่าหลายคนคงอาจจะสงสัยว่าอะไรคือ False 9 ดังนั้นวันนี้เราเลยจึงเอาเรื่องของระบบนี้มาเล่าให้ฟังกัน
เริ่มกันก่อนว่า False 9 คืออะไร อย่างที่รู้กันในโลกฟุตบอลว่า ตำแหน่งหมายเลข 9 นั้นจะเป็นตำแหน่งของกองหน้าตัวเป้า (Traditional Nine) ที่คอยยิงประตู พวกเค้ามีหน้าที่เพียงแค่จบสกอร์ด้วยส่วนต่างๆ ของร่างกายให้เป็นประตู ด้วยศักยภาพร่างกาย หรือ Sense ในการทำประตูของพวกเค้าเอง
ยกตัวอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่มีการจบสกอร์ที่เฉียบคม สามารถยิงได้จากทุกจุดในกรอบเขตโทษ และสัญชาติญาณกองหน้าที่สูง หรือ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ที่ทั้งเกมแทบไม่ต้องทำอะไร แต่อาศัยเพียงสัญชาติญาณกองหน้าในการอาศัยจังหวะในการเข้าทำประตูในกรอบเขตโทษเท่านั้น
แต่สำหรับ False 9 หรือถ้าแปลเป็นไทย ก็คือ กองหน้าหมายเลข 9 ตัวหลอก เป็นเหมือนตำแหน่งที่อยู่ตรงกันข้ามกับกองหน้าตัวเป้า ในตำแหน่งนี้นั้นตัวนักเตะจะได้รับมอบหมายหน้าที่ในการเล่นที่แตกต่างจากกองหน้าตัวเป้าอยู่มาก ทั้ง การคอยเชื่อมเกมกับผู้เล่นคนอื่น, การคอยโยกตำแหน่งตัวเองไปทั้งด้านซ้ายและขวา
ซึ่งในตำแหน่งนี้จะเห็นได้ว่าผู้เล่นที่ได้รับมอบหมายจะต้องมีทักษะการเล่นที่มากกว่ากองหน้าตัวเป้าปกติ ทั้งในด้าน Sense บอล ที่คอยขยับฉีกการประกบกองหลัง เพื่อทำให้ตำแหน่งการ Marking ของกองหลังสับสนและมีช่องว่างในการบุก, การมองภาพรวมเกมบุกของทีมว่าถ้าสร้างพื้นที่ว่างของกองหลัง จะมีผู้เล่นคนอื่นคอยโจมตีไปที่จุดนั้นไหม, ทักษะการเล่นบอลและต่อบอลแบบเท้าต่อเท้าเพื่อสร้างความได้เปรียบและกดดันกองกลางอีกฝั่ง
ซึ่งจากตรงนี้จะเห็นได้เลยว่ากองหน้าประเภท False 9 ไม่ได้เน้นการทำประตูด้วยตัวเอง แต่คอยบงการเกมในภาพรวมและคอยสร้างช่องว่างของเกมรับ เพื่อให้ผู้เล่นอย่างปีกหรือกองกลางตัวรุกโจมตีเข้าไปในพื้นที่อันตรายของอีกฝั่ง ส่วนแผน False 9 ถูกพัฒนาขึ้นมาได้อย่างไร มันคงต้องย้อนรอยไปในช่วงของ Johan cruyff นักเตะเทวดาของเนเธอร์แลนด์ ที่เริ่มต้นปรัชญารูปแบบการเล่น “Total Football” ที่บอกไว้ว่านักเตะแต่ละคนต้องสามารถทำได้หลายอย่าง และเมื่อ โยฮัน ครัฟฟ์ ได้มาคุมทีม Barcelona เค้าก็ได้ถ่ายทอดปรัชญา Total Football ให้กับนักเตะและยังฝังรากลงไปในแก่นของสโมสร
ซึ่งแน่นอน Pep Guardiola นักเตะลูกหม้อของสโมรก็ได้รับสืบทอดปรัชญานี้มาไม่มากก็น้อย เมื่อเค้าได้โอกาศคุมทีม บาร์เซโลน่า เค้าได้มองว่าการใช้กองหน้าตัวเป้า ยังไม่ตอบโจทย์วิธีการคุมทีมของเค้า แม้เค้าจะคว้าแชมป์มากมายจากการใช้ระบบ 4-3-3 ในช่วงแรก แต่ตัว เป๊ป กวาดิโอร่า ต้องการอิทธิพลในแดนกลางของทีม การเอาชนะในแดนกลาง และทำให้ไม่ทีมคู่แข่งไม่สามารถตั้งเกมรุกได้ ทำให้เค้าคิดกลยุทธ์ขึ้นมาว่าจะต้องมีจำนวนกองกลางที่มากกว่า คู่แข่ง ทำให้เริ่มกำเนิดตำแหน่งใหม่ในเกมฟุตบอลอย่าง False 9 ขึ้นมา
โดยเค้ามองไปที่เด็กหนุ่มที่เล่นในตำแหน่งปีกขวา ณ ขณะนั้น อย่าง Lionel Messi ที่มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ดี ความเร็วที่สูง เป็นตัวเลือกแรก เหตุผลที่ เป๊ป กวาดิโอร่า เลือกที่จะใช้ เมสซี่เป็น False 9 ในแผนของเค้า เพราะว่า Messi มี Sense การเล่นบอลที่ยอดเยี่ยม ทั้งในการจ่ายบอลและการยิงประตู รวมไปถึงจุดสำคัญที่สุดคือเข้าใจการเล่นของอีก 3 มิดฟิลด์มือฉมังในทีม อย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ อันเดรียส อินเนสต้า และ ซาบี้ โดยเกมรุกจะเริ่มจากการที่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ที่คอยกำหนดจังหวะของทีม คายบอลให้ สองมิดฟิลด์เริ่มชิงพื้นที่ในแดนกลางสนาม และเริ่มกดดันแผงกองกลางของอีกทีมด้วยการใช้ เมสซี่ และปีกสองข้างอย่าง ดาบิด บีญ่า และ เปโดร โดยเฉพาะ Messi ที่จะเคลื่อนตัวไปรับและส่งบอลแทบจะทุกจุดในพื้นที่ทำการ ทำให้เกิดช่องว่างในแผงเกมรับ ทำให้มิดฟิลด์ อย่าง อันเดรียส อิเนียสต้า และ ซาบี หรือ ดาบิด บีญ่า เข้าโจมตี และในบางครั้งตัว เมสซี่เองก็สามารถสร้างพื้นที่ให้กับเกมบุกของทีมด้วยการเลี้ยงกินตัวผู้เล่นอีกฝั่ง หรือการจ่ายบอลที่คมกริบเข้าไปในพื้นที่อันตราย
ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าตำแหน่ง False 9 ต้องใช้ผู้เล่นที่มีความสามารถมากมายหลายด้านที่สูงกว่าคู่แข่ง และแทบจะเรียกว่าเป็นตำแหน่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อ เมสซี่ เลย แต่ก็ยังมีหลายทีมที่เอาไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม อาทิ ทีมชาติเยอรมันที่เลือกใช้ โทมัส มุลเลอร์ ในชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 หรือ ลิเวอร์พูลที่เลือกใช้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ในชุดแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกปี 2018/19
ซึ่งจากการคาดเดาการจัดแผนทีมชาติไทยในชุดของ อากิระ นิชิโนะ ถ้ามีการใช้แผนการเล่น False 9 แล้วละก็ ในตำแหน่ง False 9 คงเป็นใครไม่ได้นอกจากการใช้ “เจ้าเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในยุคสมัยของประเทศไทยแล้ว โดยตัวเค้ามีรูปแบบการเล่นและการพัฒนาฝีเท้าคล้ายๆ ลีโอเนล เมสซี่ ตั้งแต่การเริ่มต้นการค้าแข้งและสร้างชื่อในตำแหน่งปีกขวา และเริ่มถูกขยับมาเล่นในตำแหน่งกลางรุกบ่อยครั้ง ซึ่งในการค้าแข้งใน J-League กับทีม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ก็เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก ที่ขยับโยกตำแหน่ง ซ้าย ขวา อยู่บ่อยครั้ง ยิ่งรวมกับจุดเด่นในการเลี้ยงบอลด้วยเท้าที่สูง ทักษะการเล่นที่มาก การจ่ายบอลแบบ Key Pass ที่อันตรายบ่อยครั้ง และ Sense บอลที่สามารถเล่นกับเพื่อนร่วมทีมที่โดดเด่น ดังในยุคสมัยบอล “ติ๊กต๊อก” ของ โค้ช ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ก็บอกได้เลยว่าในประเทศไทยตอนนี้ คงไม่มีใครเหมาะกับตำแหน่ง
“Der Kaizer”
ดูฟรี ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ทุกสัปดาห์ ทาง ID Station คลิก!! และถ้าชมเต็มๆ สามารถสมัครแพ็กเกจดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกง่าย ๆ ทางนี้