รีเซต
ริค แฟลร์ : สุดยอดนักมวยปล้ำตลอดกาลที่แลกมากับชีวิตครอบครัวที่กลายเป็นโศกนาฏกรรม | Main Stand

ริค แฟลร์ : สุดยอดนักมวยปล้ำตลอดกาลที่แลกมากับชีวิตครอบครัวที่กลายเป็นโศกนาฏกรรม | Main Stand

ริค แฟลร์ : สุดยอดนักมวยปล้ำตลอดกาลที่แลกมากับชีวิตครอบครัวที่กลายเป็นโศกนาฏกรรม | Main Stand
เมนสแตนด์
17 กันยายน 2565 ( 23:15 )
575
1

หากคุณเป็นแฟนมวยปล้ำ คุณต้องเคยได้ยินชื่อของ "ริค แฟลร์" สุดยอดนักมวยปล้ำที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดของวงการ ด้วยดีกรีแชมป์โลก 16 สมัย และนักมวยปล้ำแห่งปีมากที่สุดตลอดกาล 


 

ตลอดระยะเวลาหลายสิบปี ริค แฟลร์ ฝากอะไรไว้มากมายกับวงการมวยปล้ำ ทั้งหยาดเหงื่อ แรงกาย ไปจนถึงหยดเลือดที่เขาเสียสละให้กับเวทีสี่เหลี่ยมที่เขารัก จนคู่ควรกับตำแหน่งสุดยอดตลอดกาลของวงการมวยปล้ำ

แต่ความยิ่งใหญ่ที่ได้มาก็มีสิ่งที่ ริค แฟลร์ ต้องสูญเสียไป นั่นคือชีวิตครอบครัวที่พังทลาย จนนำไปสู่เรื่องน่าเศร้าที่กลายเป็นตราบาปตลอดชีวิตของเขา

Main Stand ขอนำทุกท่านไปพบกับเรื่องราวของ ริค แฟลร์ นักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ที่เสียสละได้ทุกอย่างแม้กระทั่งครอบครัว

 

จากชายที่ยอมแพ้ สู่ชายที่ไม่แพ้

ริค แฟลร์ คือตำนานที่ไม่มีวันตายของวงการมวยปล้ำ แต่ครั้งหนึ่งเขาเป็นเพียงแค่เด็กที่เกิดในครอบครัวที่ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงบุตรชายที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน ทำให้พวกเขามอบสิทธิ์อุปการะเลี้ยงดูเด็กคนนี้ ให้กับตระกูลเฟลียร์ สองสามี-ภรรยาอาชีพทันตแพทย์ และตั้งชื่อเด็กชายคนนี้ว่า ริค เฟลียร์


Photo : groovyhistory.com

เนื่องจากมีคุณพ่อและคุณแม่ทำอาชีพหมอฟัน ทำให้ ริค เฟลียร์ มีความฝันที่อยากจะเป็นทันตแพทย์อีกคนในครอบครัว เขาเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน เป็นที่รักของพ่อแม่ จนตัวเขาเข้าศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ พร้อม ๆ กับเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัยไปด้วย 

ทว่าด้วยเลือดฮอร์โมนที่ร้อนรุ่มในวัยหนุ่มบวกกับชีวิตเสรีในมหาวิทยาลัย กลับเปลี่ยนให้เขากลายเป็นหนุ่มที่ชอบทะเลาะวิวาทสร้างเรื่องต่อยตีจนต้องขึ้นโรงพักอยู่เป็นประจำ

คุณพ่อและคุณแม่ของเขาต้องผิดหวังกับพฤติกรรมที่ไม่รู้จักโตของริคอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งจากการเป็นนักศึกษาแพทย์ ริคดรอปจากการเรียนไปเป็นบอดี้การ์ดรับจ้างและคนคุมบาร์ ด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัวจึงห่างเหินออกไปเรื่อย ๆ และมันก็กลายเป็นแผลใจตั้งแต่ในวัยเด็กของเขาโดยไม่รู้ตัว 

อย่างไรก็ตามชีวิตของ ริค เฟลียร์ อันเลื่อนลอยไร้จุดหมายอยู่ในบาร์ได้จบลงอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะเพื่อนของริคได้เอ่ยปากชวนให้เขาไปฝึกมวยปล้ำที่เป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

สิ่งที่ทำให้หนุ่มจากรัฐเทนเนสซีสนใจในการฝึกมวยปล้ำ เนื่องจากเพื่อนของเขากำลังจะไปฝึกกับ เวิร์น แกจ์น (Verne Gagne) นักมวยปล้ำระดับตำนานในยุค 50s และ 60s ซึ่งดึงดูดความสนใจมากพอให้ริคเก็บข้าวของไปลองกับกีฬามวยปล้ำดูสักตั้ง


Photo : wwe.com

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือเขาเกือบตาย การฝึกของ เวิร์น แกจ์น หนักแบบเลือดตาแทบกระเด็น ฝึกทั้งวัน 6 วันต่อสัปดาห์ไม่มีหยุดพัก ทั้งการฝึกเด้งเชือกจนกว่าหลังของเด็กฝึกจะเป็นรอยแผลของการเด้งเชือก, ฝึกเทกบัมป์ (การฝึกรับแรงจากการโดนฟาด) จนกว่าเนื้อตัวจะช้ำเขียวไปทั่วร่าง, รวมถึงการแบกของ ไปจนถึงการใช้มือเพื่อเดินขึ้น-ลงบันไดทั้งวันทั้งคืน 

ไม่ต้องบอกก็เข้าใจได้ว่าการฝึกที่โหดเอาตายขนาดนี้คนจำนวนมากย่อมทนไม่ไหว หนึ่งในนั้นคือ ริค เฟลียร์ เขาหนีออกจากแคมป์ของแกจ์นไปหลบตั้งหลักอยู่ที่บาร์ใกล้ ๆ แต่ยอดนักมวยปล้ำระดับตำนานมีวิธีที่จะทำให้เด็กหนุ่มคนนี้เปลี่ยนใจ

"นายจะไปไหน" เวิร์น แกจ์น บุกไปถาม ริค เฟลียร์ ที่อยู่ในบาร์อย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะได้รับคำตอบที่ไม่ถูกใจว่า "ผมยอมแพ้" 

เหตุการณที่ตามมาคือ เวิร์น แกจ์น ตบ ริค เฟลียร์ ลงไปกองกับพื้น พร้อมกับกล่าวว่า "เก็บของกลับไปที่แคมป์ซะ ฉันไม่ให้นายยอมแพ้ เพราะนายไม่ใช่คนขี้แพ้" 

เพียงแค่ประโยคเดียวก็เปลี่ยนผู้ชายที่ชื่อ ริค เฟลียร์ ไปตลอดกาล ทำให้เขาตั้งใจฝึกซ้อมอย่างถึงที่สุด เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเขาไม่ใช่คนขี้แพ้ และเขาจะต้องเป็นนักมวยปล้ำอาชีพให้ได้ ต้องเป็นคนที่สุดยอดที่ก้าวขึ้นสู่สังเวียน

ด้วยความมุมานะ ริค เฟลียร์ จบจากโรงเรียนลูกผู้ชายของ เวิร์น แกจ์น แล้วได้เปิดตัวในฐานะนักมวยปล้ำที่ชื่อ "ริค แฟลร์" เขาออกหาประสบการณ์ด้วยการเดินทางไปปล้ำทั่วสหรัฐอเมริกา รวมถึงต่างแดน เช่น ญี่ปุ่น จนเขากลายเป็นนักมวยปล้ำสายอัดหนัก (Brawler) ที่น่าจับตาที่สุดในสหรัฐอเมริกา 

อย่างไรก็ตามในปลายปี 1975 ริค แฟลร์ ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกจนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ด้วยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขาทำให้หมอบอกกับนักมวยปล้ำหนุ่มว่า "เขาต้องเปลี่ยนสไตล์การปล้ำ" จะมาอัดหนักใช้ร่างกายแลกเลือดเหมือนในอดีตไม่ได้อีกแล้ว เพราะถ้าจะทำแบบเดิมก็ควรเลิกปล้ำไปเสียดีกว่า หากไม่อยากให้เกิดเรื่องเศร้าบนเวทีขึ้น 


Photo : www.midatlanticgateway.com

ริค แฟลร์ รู้ตัวดีตั้งแต่วันที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายขี้แพ้ เขาไม่ยอมเลิกปล้ำ และเปลี่ยนมาปล้ำสไตล์เทคนิคเพื่อลดการปะทะ ซึ่งในวงการมวยปล้ำหากนักมวยปล้ำเปลี่ยนสไตล์การปล้ำ เขาก็ต้องเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ของตัวเองให้เข้ากับแนวทางใหม่บนสังเวียน

ด้วยเหตุนี้ ริค แฟลร์ จึงทิ้งคาแร็กเตอร์เดิมของเขาที่เป็นนักเลงจอมกระทบคน แล้วไปยืมกิมมิค "Nature Boy" ของนักมวยปล้ำระดับตำนานอย่าง บัดดี้ โรเจอร์ มาใช้ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของนักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

 

สุดยอดตลอดกาล 

กิมมิค Nature Boy แต่เดิมของ บัดดี้ โรเจอร์ คือนักมวยปล้ำผู้ทรงสง่าราศี เก่งกาจด้วยฝีมือการปล้ำที่เหนือใคร และที่สำคัญที่สุดคือเป็นจอมโอ้อวด จอมดูถูกคู่ต่อสู้ของตัวเอง ที่พร้อมจะจัดการทุกคนที่ไม่ยอมรับว่าด้อยกว่าเขาบนสังเวียน

การนำกิมมิค Nature Boy มาใช้ไม่ใช่เพราะริค แฟลร์ อยากจะดูดีเหมือนตำนานนักมวยปล้ำรุ่นพี่ แต่เขายอดเยี่ยมไม่แพ้บัดดี้ โรเจอร์ จากเดิมที่เป็นนักมวยปล้ำตัวใหญ่มากกว่า 300 ปอนด์ (มากกว่า 136 กิโลกรัม) เขาลดน้ำหนักตัวเองลงจนกลายเป็นนักมวยปล้ำหุ่นดี หล่อเหลา ผมสีบลอนด์เต็มไปด้วยความสง่างาม 

แต่นั่นไม่ใช่จุดเด่นที่ดีที่สุดของ ริค แฟลร์ เพราะสิ่งที่ทำให้เขาเหนือกว่าคนอื่นคือฝีมือการปล้ำที่ยอดเยี่ยมทั้งที่เป็นนักมวยปล้ำสายอัดหนักมาก่อน แต่ภายในระยะเวลาอันสั้น ริค แฟลร์ ก็กลายเป็นนักมวยปล้ำที่เทคนิคดีที่สุดคนหนึ่งของยุคสมัย นั่นเป็นเพราะเขาทุ่มเททุกอย่างไปกับการฝึกฝน เพื่อให้คนดูยอมรับว่าเขาคือของจริง 

ด้วยภาพลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมบวกกับฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ ริค แฟลร์ ไต่เต้าขึ้นสู่ระดับท็อปอย่างรวดเร็ว ทั้งการคว้าเข็มขัด NWA United States Heavyweight เปิดศึกกับนักมวยปล้ำมากมาย ซึ่งในเวลาต่อมาล้วนเป็นตำนานของวงการ ทั้ง ริคกี้ สตรีมโบท, ร็อดดี้ ไพเพอร์, จิมมี่ สนุกก้า, เกรก วาเลนไทน์ และที่สำคัญที่สุด การต่อสู้กับ The Nature Boy คนเก่า อย่าง บัดดี้ โรเจอร์ ก่อนจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการเป็นแชมป์โลกของ NWA ในปี 1981

ท่ามกลางการปฏิวัติวงการมวยปล้ำของ วินซ์ แม็คแมน จากสมาคม WWF (WWE ในปัจจุบัน) ที่ต้องการเปลี่่ยนมวยปล้ำจากกีฬาการต่อสู้แบบเต็มตัวให้กลายเป็น สปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ พร้อมกับสร้างคาแร็กเตอร์ตื่นตาเหนือมนุษย์ประหนึ่งออกมาจากหนังสือการ์ตูน … ริค แฟลร์ คือขั้วตรงข้ามทุกอย่าง และเขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมวยปล้ำในฐานะกีฬา หรือ Professional Wrestling มาจนถึงปัจจุบัน

ขณะที่ WWF ขายคาแร็กเตอร์นักมวยปล้ำที่มากับแสงสีเสียงตระการตาโดยไม่ได้ใส่ใจคุณภาพของการปล้ำ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ริค แฟลร์ สำหรับผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมอบแมตช์คุณภาพให้กับแฟน ๆ ทุกคนที่ซื้อตั๋วเข้ามาดู ริค แฟลร์ จะต้องได้รับความประทับใจกลับไป ไม่มีใครที่จะเดินออกจากสนามด้วยความผิดหวังหรือกล้าพูดว่า "ฉันเสียเงินมาดู ริค แฟลร์ ทำไม ?" 

"ผมคิดว่าทุกคนต้องการมีฮีโร่เป็นของตัวเอง ผมก็มีฮีโร่ของผมเหมือนกัน" ทริปเปิล เอช นักมวยปล้ำรุ่นน้อง กล่าวชื่นชม ริค แฟลร์ ในฐานะต้นแบบของการเป็นนักมวยปล้ำในดวงใจของเขา 

ถึงจะไม่ใช่ สปอร์ต เอนเตอร์เทนเนอร์ เหมือนนักมวยปล้ำ WWF ที่มีคาแร็กเตอร์จัดจ้านเหนือมนุษย์ แต่ ริค แฟลร์ ก็สามารถสร้างคาแร็กเตอร์ให้กับตัวเองได้ในฐานะชายหนุ่มสุดหรูหรา เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ต, นั่งรถลีมูซีน, ใส่สูทราคาหลายหมื่น ใส่นาฬิกา Rolex ราคาแพง พร้อมกับมีสร้อยทองเต็มคอ ที่รายล้อมไปด้วยสาว ๆ ไม่ซ้ำหน้า 

แต่ความต่างของคาแร็กเตอร์นักมวยปล้ำจาก WWF คือกิมมิคของ ริค แฟลร์ เป็นตัวตนจริง ๆ ของเขา ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา, สร้อยทอง, ชุดสูทราคาแพง, รถลีมูซีน ไปจนถึงเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เขาซื้อเองทั้งหมด ริค แฟลร์ ไม่ได้สร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาใช้บนเวที 

"ริค แฟลร์" เป็นตัวตนจริง ๆ ของเขาทั้งในและนอกสนาม เขาคือซูเปอร์สตาร์ตัวจริงโดยไม่มีการปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น คำว่า "การแสดง" ใช้ไม่ได้กับ ริค แฟลร์ เพราะทุกครั้งที่ผู้คนเห็นเขานั่นคือตัวตนของเขาอย่างแท้จริง

"ผมโตมาพร้อมกับการดู ริค แฟลร์ เขาคือแรงบันดาลใจของผมนะ ผมบอกเลยว่ามีศิลปินฮิปฮอปเยอะมากที่มีเขาเป็นแรงบันดาลใจ เพราะใคร ๆ ก็อยากเป็นเหมือน ริค แฟลร์" 

"เราอยากจะเป็นผู้ชายที่ร้อนแรงแบบนั้น เป็นที่รักของสาว ๆ เป็นคนที่หรูหรา พวกเราอยากเป็นแบบนั้นมาตลอด เขาคือส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเรา นี่คือเหตุผลที่เรารักและชื่นชมเขา" สนูป ด็อกก์ แรปเปอร์ชื่อดัง กล่าวยกย่อง ริค แฟลร์ ในฐานะฮีโร่ในดวงใจ 

ริค แฟลร์ คือชายที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านของการเป็นนักมวยปล้ำ ฝีมือ, คาแร็กเตอร์, ความเป็นธรรมชาติ และเสน่ห์ที่ล้นเหลือ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะประสบความสำเร็จมหาศาลในฐานะนักมวยปล้ำ

นับตั้งแต่ได้แชมป์โลกครั้งแรกเมื่อปี 1981 ใครจะเชื่อว่าเขาจะได้แชมป์รวมกันถึง 16 สมัยเป็นอย่างน้อย หลังจากนั้น และแม้ว่า WWE หรือคนส่วนใหญ่จะรับรองเขาในฐานะแชมป์โลก 16 สมัย แต่ความเป็นจริงแล้ว ริค แฟลร์ คือแชมป์โลก 21 สมัย และไม่มีนักมวยปล้ำคนไหนบนโลกเคยคว้าแชมป์มากเท่านี้มาก่อน 

"ริค แฟลร์ ก็เหมือน ไมเคิล จอร์แดน … ผมหมายถึงเขาคือสุดยอด และจะเป็นสุดยอดตลอดไป" รอรี่ คาร์พ ผู้กำกับสารคดีชีวิตของ ริค แฟลร์ กล่าว 

ริค แฟลร์ คว้ารางวัลนักมวยปล้ำแห่งปีจาก WON Awards รางวัลที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลกมวยปล้ำติดต่อกัน 5 สมัย ในช่วงปี 1982 ถึง 1986 รวมถึงคว้ารางวัลนี้ได้อีกในปี 1989, 1990 และ 1992 รวมเป็น 8 สมัย ไม่มีนักมวยปล้ำคนไหนที่คว้ารางวัลได้มากขนาดนี้ 

ความสมบูรณ์แบบในฐานะนักมวยปล้ำทำให้ ริค แฟลร์ เป็นสุดยอดแห่งยุคสมัย แต่สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลคือการยอมให้นักมวยปล้ำคนอื่นได้มาเฉิดฉายเหนือตัวเขายามที่ต้องต่อสู้กัน 

ริค แฟลร์ ไม่เคยกลัวที่จะดูแย่ ดูอ่อน ดูกระจอกบนสังเวียนมวยปล้ำ หากมันจะทำให้คู่ต่อสู้ของเขาดูแข็งแกร่งและกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการ ทั้งที่มีนักมวยปล้ำจำนวนมากที่จะไม่ยอมแพ้ให้กับเด็กรุ่นใหม่ โดยไม่ยอมให้ตัวเองดูอ่อนแอเพื่อป้องกันการเสียความนิยม 

แต่ ริค แฟลร์ ไม่เคยสนใจเรื่องนั้น เขาพร้อมที่จะแพ้ให้ใครก็ได้ หากมันส่งผลดีกับนักมวยปล้ำคนอื่นรวมถึงสมาคมที่เขาสังกัด และหากเป็นการทำให้แฟน ๆ มีความสุขกับแมตช์ที่เขาปล้ำ เขาก็พร้อมจะรับความพ่ายแพ้ไว้ด้วยความเต็มใจ

"ริคมีความสามารถที่จะทำให้นักมวยปล้ำทุกคนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์" สติง นักมวยปล้ำรุ่นน้องและเพื่อนซี้ในชีวิตจริงกล่าวถึง ริค แฟลร์

"ตอนนั้นริคคือซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ผมเป็นแค่เด็กหน้าใหม่ เป็นนักมวยปล้ำเห่ย ๆ … ผมดีใจมากที่เขาเลือกผมให้เป็นคนที่เขาเลือกจะฝากอนาคตไว้" สติง กล่าว 

จนถึงทุกวันนี้เราได้เห็นมรดกมากมายที่ ริค แฟลร์ ทิ้งไว้ให้กับวงการมวยปล้ำ แม้แต่เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่เคยดูเขาปล้ำก็ยังต้องเคยได้ยินชื่อของเขา เพราะนี่คือสุดยอดตลอดกาลที่เคยฝากผลงานไว้บนสังเวียนมวยปล้ำ และจะไม่มีใครที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าชายผู้นี้อีกแล้ว

"คนชอบเปรียบเทียบกันระหว่างผมกับริคว่าใครคือสุดยอดนักมวยปล้ำตลอดกาล ซึ่งผมดีใจนะ แต่พูดตามตรง ถ้าเป็นผมผมก็เลือก ริค แฟลร์" ฮัลค์ โฮแกน สุดยอดนักมวยปล้ำร่วมยุคของ ริค แฟลร์ กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของนักมวยปล้ำรายนี้ 

"ถ้าคุณมองถึงสิ่งที่เขาทุ่มเทและเลือดทุกหยดที่เขามอบให้วงการนี้ เขาคือคนที่ยกระดับวงการในแง่ของความทุ่มเทให้กับการเป็นนักมวยปล้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครจะทำได้ในระดับที่ ริค แฟลร์ เคยทำ"

"ริค แฟลร์ คือฮีโร่ของผม ดังนั้นถ้าผมจะเลือกนักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ผมเลือก ริค แฟลร์" โฮแกน กล่าว 

 

สิ่งที่ต้องเสียไป

ริค แฟลร์ คือนักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่และเป็นอมตะมากที่สุดในโลก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ริค แฟลร์ ยังคงเป็นชายที่ชื่อว่า ริค เฟลียร์ อยู่เสมอสำหรับใครหลายคน และมันไม่ใช่สิ่งที่เขาภูมิใจเท่าไหร่นัก

เพราะในขณะที่ ริค แฟลร์ เป็นสุดยอดชายชาตรีที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนมากมาย ริค เฟลียร์ กลับไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวด้วยซ้ำ เนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่ไม่เคยที่จะยอมรับในสิ่งที่ริคทำ ต่อให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำที่โด่งดังขนาดไหนก็ตาม มันก็ไม่เคยเอาชนะใจพวกเขาได้เลย

ด้วยเหตุนี้ ริค เฟลียร์ จึงเกลียดตัวตนของตัวเองและแปรเปลี่ยนเป็น ริค แฟลร์ โดยสมบูรณ์ จนกลายเป็นเหตุผลหลักที่ผู้ชายคนนี้กลายเป็น ริค แฟลร์ ทั้งในและนอกสนาม ซึ่งถึงจะส่งผลที่ดีมากกับ ริค แฟลร์ ในฐานะนักมวยปล้ำ แต่มันไม่ได้ได้ส่งผลดีกับ ริค เฟลียร์ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเลย

"ริคไม่เคยรักตัวเขาเอง ในฐานะ ริค เฟลียร์ เลย" ชอน ไมเคิลส์ กล่าวถึงนักมวยปล้ำรุ่นพี่คนสนิท เพราะแม้ว่า ริค แฟลร์ จะทุ่มเททุกอย่างให้กับวงการมวยปล้ำและทำให้ทุกคนที่รักในกีฬานี้เคารพในสิ่งที่เขาทำ แต่นักมวยปล้ำก็คือคนปกติทั่วไปที่มีทั้งชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวที่ต้องแยกจากงาน เพียงแต่ ริค แฟลร์ ทุ่มเททุกอย่างของชีวิตให้กับการเป็น ริค แฟลร์ จนลืมชีวิตจริงอีกด้านไปหมดสิ้น

ชีวิตที่ ริค แฟลร์ ทิ้งไปอย่างไม่ใยดีในอดีตคือชีวิตครอบครัว ขณะที่เขาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อมอบความสุขให้กับแฟนมวยปล้ำ เขาแทบไม่มีเวลาให้กับภรรยาและลูก ๆ ของตัวเองเลย นาน ๆ ครั้งเขาถึงจะได้กลับบ้าน พร้อมกับซื้อของเล่นจำนวนมากไปให้ลูกของเขา ด้วยความหวังว่ามันจะแทนที่ความอบอุ่นที่ขาดหายไป เนื่องจากเขาไม่สามารถมอบเวลาให้กับครอบครัวได้เหมือนกับคนอื่น ๆ

"ฉันไม่เคยอยากเป็นนักมวยปล้ำ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อยิ่งใหญ่แค่ไหนกับวงการนี้ … แต่ฉันก็รักเขามาก เพราะพ่อไม่เคยเสียใจในสิ่งที่เขาเป็น" ชาร์ล็อตต์ แฟลร์ ลูกสาวของ ริค แฟลร์ กล่าว


Photo : whatculture.com

แม้จะไม่เคยมีเวลาให้ลูก ๆ แต่ทุกคนก็รักในตัวตนของ ริค แฟลร์ เสมอ โดยเฉพาะลูกชายทั้งสองคนอย่าง เดวิด และ รีด ก็ต่างมีความฝันเดียวกัน นั่นคืออยากเป็นสุดยอดนักมวยปล้ำแบบเดียวกับพ่อ

เดวิด คือคนที่เดินเข้าสู่เส้นทางก่อน เขาเปิดตัวกับสมาคม WCW ในปี 1999 ในฐานะ เดวิด แฟลร์ และประสบความสำเร็จบนหน้าฉากอย่างรวดเร็ว ด้วยการคว้าเข็มขัดแชมป์หลายเส้นกับ WCW

แต่หลังฉากไม่ได้เป็นแบบนั้น เดวิด แฟลร์ ไม่มีอะไรเหมือน ริค แฟลร์ แม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะฝีมือการปล้ำที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว ทำให้เดวิดเป็นที่เกลียดชังของแฟนมวยปล้ำด้วยข้อหาที่ทำให้ชื่อของ "แฟลร์" เสื่อมเสีย

ขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้น ริค แฟลร์ ก็มีส่วนเช่นกัน นั่นคือการรักลูกไม่ถูกทาง เพราะในตอนนั้น เดวิด แฟลร์ ฝึกปล้ำมวยปล้ำจริงจังได้เพียงแค่ปีเดียว ซึ่งยังไม่พร้อมที่จะได้รับบทเด่นกับสมาคมมวยปล้ำระดับโลกอย่างแน่นอน

แต่ ริค แฟลร์ ก็อยากจะผลักดันลูกของตัวเองให้เต็มที่ เขาจึงใช้อำนาจที่มีใน WCW ส่งให้เดวิดมีบทเด่น ๆ ซึ่งผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาหวัง เพราะแฟน ๆ เกลียด เดวิด แฟลร์ มากจนทำให้อนาคตนักมวยปล้ำของเขาจบลงตั้งแต่เริ่ม

ความหวังดีของริคกลายเป็นเรื่องเลวร้าย ชีวิตการปล้ำของ เดวิด แฟลร์ กับสมาคมใหญ่จบลงตั้งแต่ปี 2003 เพียง 4 ปีหลังจากเริ่มปล้ำ อีกทั้งต้องรีไทร์จากวงการก่อน ริค แฟลร์ เสียอีก

"ริค กับเดวิด มีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างตึงเครียดนะ คือพวกเขารักกันแหละ แต่ทุกครั้งที่ผมคุยกับริคเรื่องเดวิด ผมรู้เลยว่าพวกเขาไม่สนิทกัน" รอรี่ คาร์พ ผู้กำกับสารคดีชีวิตของ ริค แฟลร์ กล่าว 

แม้ว่า เดวิด แฟลร์ จะล้มเหลวในการเดินตามรอยพ่อ จนความสัมพันธ์ของพวกเขาพังทลาย ริคยังมีผู้สืบทอดอีกคน นั่นคือ รีด แฟลร์ น้องชายต่างแม่ของเดวิด และเป็นคนที่ ริค แฟลร์ จริงจังหวังจะปั้นลูกชายคนนี้ให้เป็นสุดยอดนักมวยปล้ำแบบตัวเขา 


Photo : www.sportskeeda.com

แต่เนื่องจาก รีด แฟลร์ เริ่มต้นการเป็นนักมวยปล้ำในช่วงที่ ริค แฟลร์ ใกล้จะเลิกปล้ำ เขาจึงได้มีเวลากลับมาอยู่ร่วมกับลูกชายคนนี้มากเป็นพิเศษ จนกลายมาเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองคน ไม่ว่ารีดจะไปปล้ำที่ไหน ริค แฟลร์ ก็จะตามไปให้กำลังใจลูกชายของเขาตลอด

อย่างไรก็ตาม รีด แฟลร์ ก็มีปัญหาส่วนตัวของเขาอยู่ นั่นคือในช่วงวัยหนุ่มเขาติดทั้งเหล้าติดทั้งยา ที่เป็นที่พึ่งในช่วงที่ครอบครัวไม่ได้มีเวลาให้เขาเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะ ริค แฟลร์ ชายผู้เป็นทุกอย่างสำหรับเขา แต่พ่อของเขาไม่ได้อยู่บ้านเลย เพราะต้องเดินทางไปทำงานทั่วโลกในฐานะนักมวยปล้ำ

แม้แต่ในช่วงที่ รีด แฟลร์ หันมาเป็นนักมวยปล้ำอย่างจริงจัง เขาก็ยังตัดปัญหานี้ไม่ขาด จนทำให้เขาไม่สามารถเซ็นสัญญากับ WWE เพราะประวัติการเล่นยาที่ไม่ขาวสะอาดของเขา ขณะที่การพยายามล็อบบี้ของ ริค แฟลร์ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรในเรื่องนี้ได้

รีด แฟลร์ มีปัญหาอยู่ในใจ ทุกคนสามารถรับรู้ได้ แต่ไม่มีใครยอมยื่นมือเข้าไปช่วยเขา จนสุดท้ายในค่ำคืนของวันที่ 29 มีนาคม 2013 รีด แฟลร์ ได้ส่งข้อความหาพ่อของเขาว่า 

"พ่อ ครอบครัวของเราจะเป็นยังไงถ้าไม่มีพ่อ เราทุกคนที่นี่ต้องการพ่อนะ" 

ในค่ำคืนวันเดียวกันนั้นเอง รีด แฟลร์ เสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด เขาจากโลกใบนี้ไปด้วยวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น


Photo : www.essentiallysports.com

การจากไปของลูกชายก่อนวัยอันควรทำร้าย ริค แฟลร์ อย่างมาก เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าถ้าเขามีเวลาให้ลูกชายคนนี้มากกว่านี้ ถ้าคอยอยู่เป็นเพื่อนให้คำปรึกษาคอยช่วยเหลือยามที่ทุกใจ รีดคงไม่พบจุดจบแบบที่เกิดขึ้น

"เรื่องของลูกชายผม คือเรื่องที่หนักที่สุดในชีวิต … ตอนนั้นผมดื่มแต่เหล้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น … ทุกวันนี้ผมก็ยังเจ็บปวดอยู่" 

"ตอนนั้นหมอบอกผมว่าต้องพารีดไปเลิกยาให้หายขาด แต่ผมไม่เคยทำเพราะกลัวว่าจะรับความจริงไม่ได้ (ว่าลูกตัวเองติดยา) และมันเป็นสิ่งที่ผมต้องอยู่กับมันให้ได้ในตอนนี้" ริค แฟลร์ กล่าว 

แม้ว่าชีวิตของ ริค แฟลร์ หรือผู้ชายที่ชื่อ ริค เฟลียร์ จะต้องพบกับจุดที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต แต่เขาก็ได้พบกับฟ้าหลังฝน เนื่องจาก แอชลีย์ เฟลียร์ ลูกสาวของริค ตัดสินใจจะสืบทอดเจตนารมณ์ของรีดน้องชายของเธอ กับการเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ และ แอชลีย์ เฟลียร์ ก็กลายเป็น ชาร์ลอตต์ แฟลร์ หนึ่งในนักมวยปล้ำหญิงที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของโลกมวยปล้ำ ผู้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดตัวจริงของ ริค แฟลร์ 

"เธอคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมเลย … ทั้งที่เธอไม่ได้เป็นนักมวยปล้ำเพราะผมหรือเพื่อผมแม้แต่นิดเดียว เธอทำเพราะอยากให้รีดภูมิใจ และสำหรับผมเธอคือนักมวยปล้ำหญิงที่ดีที่สุดตลอดกาล" ริค แฟลร์ กล่าวถึงลูกสาวสุดที่รักของเขา 

ในขณะที่ชีวิตของ ริค แฟลร์ เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ ชีวิตของ ริค เฟลียร์ กลับเต็มไปด้วยบาดแผลและคราบน้ำตา แต่อย่างที่ ชาร์ลอตต์ แฟลร์ ได้บอกไว้ว่าพ่อของเธอไม่เคยเสียใจแม้แต่นิดเดียวที่ได้เลือกในเส้นทางที่ตัวเองเลือกไป

"สำหรับผม อย่างน้อยถ้าสุดท้ายผมทำให้ทุกคนจดจำได้ว่า 'ริค แฟลร์' คือนักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ผมว่าแค่นั้นมันก็คุ้มแล้วกับทุกอย่างที่ผมทำไป" ริค แฟลร์ กล่าวประโยคนี้ 

และไม่มีประโยคไหนที่จะนิยามถึงผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะในฐานะ ริค แฟลร์ หรือ ริค เฟลียร์ ได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว

 

แหล่งอ้างอิง

สารคดี Nature Boy 
https://www.sportskeeda.com/wwe/the-tragic-life-and-times-of-ric-flair-ss
https://www.livingmgz.com/glamour/how-ric-flair-went-from-being-abducted-to-idolized/9.html?br_t=ch&fab=1
https://bleacherreport.com/articles/1033786-the-story-of-professional-wrestlings-imperfect-man-the-nature-boy-ric-flair
https://www.thesportster.com/wrestling/ric-flair-best-promos-ever/
https://www.highsnobiety.com/p/ric-flair-rap-hip-hop-references/
https://www.complex.com/sports/how-legendary-ric-flair-became-hip-hops-favorite-wrestler
https://www.sescoops.com/2020/12/hulk-hogan-explains-why-ric-flair-is-his-hero-the-greatest-of-all-time/
https://www.givemesport.com/1125681-sting-reflects-on-how-ric-flair-gave-him-his-big-break-in-wrestling
https://www.essentiallysports.com/aew-news-aew-superstar-sting-claims-his-favourite-matches-were-against-ric-flair/
https://www.espn.com/wwe/story/_/id/20862153/wwe-pulling-back-curtain-see-real-woman-charlotte-flair-queen-wwe
https://www.wrestlingnewsplus.com/painful-death-ric-flair-on-last-thing-he-was-told-by-son-reid-prior-to-death/
https://www.sportskeeda.com/wwe/news-it-really-difficult-even-today-ric-flair-opens-son-s-untimely-death

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ