
Seiko Prospex Speedtimer “Edo Purple” รุ่นลิมิเต็ด ฉลองศึก World Athletics Championships 2025 ที่โตเกียว

เวลาที่เริ่มต้นด้วยเสียงปืนปล่อยตัว มักถูกลืมในเสี้ยววินาทีถัดมา...แต่คงไม่ใช่กับ Seiko Prospex Speedtimer “Edo Purple” SSC955 เรือนเวลาสุดลิมิเต็ดที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาแค่เพื่อจับเวลาเท่านั้น แต่ยังเพื่อต้อนรับโอกาสพิเศษของ “โตเกียว” ในฐานะเมืองเจ้าภาพการแข่งขัน World Athletics Championships 2025 เรือนเวลาพิเศษรุ่นนี้จึงไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อโชว์กลไกหรือนวัตกรรมเพียงอย่างเดียว แต่มันตั้งใจจะเล่าเรื่องอันน่าจดจำของโตเกียว เมืองที่สวย สงบ และมีแรงส่งบางอย่างที่มองไม่เห็น แต่รับรู้ได้ ผ่านหน้าปัดสีม่วง “Edo-Murasaki” หรือ ม่วงเอโดะ สีดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เคยใช้ย้อมผ้าในสมัยโตเกียวยังชื่อว่าเอโดะ และวันนี้กลับมาในรูปแบบใหม่บนหน้าปัดของเรือนเวลาที่พร้อมจะจับจังหวะสำคัญของโลกอีกครั้ง
สีม่วงเอโดะ สีแห่งโตเกียวที่ไม่ใช่แค่สวย แต่สะท้อนตัวตน
หน้าปัดของรุ่นนี้โดดเด่นด้วยสี “Edo-Murasaki” หรือม่วงเอโดะ สีดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนาน เป็นโทนสีที่เกิดจากการย้อมผ้าด้วยพืชพื้นเมืองสมัยที่โตเกียวยังใช้ชื่อว่า “เอโดะ” ไม่เพียงเป็นสีที่แสดงถึงรากวัฒนธรรม แต่ยังได้รับเลือกให้เป็นสีประจำการแข่งขันในปีนี้อีกด้วย หน้าปัดสีม่วงอมน้ำเงินแบบใส ๆ คล้ายผลึกแก้ว ดูทันสมัยและคลาสสิกในเวลาเดียวกัน การจับคู่กับหน้าปัดย่อยแบบ Tricompax สีดำ 3 วง ทำให้เกิดคอนทราสต์ที่ลงตัว เพิ่มความคมชัดในการอ่านเวลา และยังสร้างมิติให้หน้าปัดดูมีความลึกและเคลื่อนไหวแม้ขณะหยุดนิ่ง
พลังงานแสงอาทิตย์กับความแม่นยำที่เชื่อถือได้
Seiko Prospex Speedtimer “Edo Purple” รุ่นนี้ใช้กลไก Solar Calibre V192 ซึ่งชาร์จพลังงานจากแสงธรรมชาติและแสงไฟฟ้าได้ทั้งหมด เมื่อชาร์จเต็มสามารถสำรองพลังงานได้ถึง 6 เดือน และมีความเที่ยงตรงสูงระดับ +/-15 วินาทีต่อเดือน ด้วยกลไกที่ไม่ต้องง้อการไขลาน รุ่นนี้จึงเหมาะมากสำหรับผู้ชายที่ต้องการนาฬิกาที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะใส่ไปทำงาน ออกกำลังกาย หรือเดินทางท่องเที่ยว นอกจากนี้ ตัวเรือนยังมีความทนทานสูงจากการเคลือบแข็ง (Hard coating) กันรอยขีดข่วนได้ดี กันน้ำลึกถึง 100 เมตร และมาพร้อมกระจกคริสตัลแบบโค้งเคลือบสารกันแสงสะท้อนด้านใน อ่านเวลาได้ชัดแม้ในแสงจ้า
ออกแบบให้ใช้จริง ไม่ใช่แค่ดูดี
ขนาดตัวเรือน 39 มม. หนา 13.3 มม. และความยาวตัวเรือน 45.5 มม. ถือเป็นมิติที่เหมาะสมสำหรับข้อมือผู้ชายส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ชอบนาฬิกาแนวสปอร์ตแบบพอดีข้อมือ ไม่ใหญ่จนเกินไป สายและตัวล็อกเป็นสแตนเลสสตีลแบบสามทบพร้อมปุ่มกดปลดล็อก ช่วยให้สวมใส่สะดวกสบาย แข็งแรง และมั่นใจในทุกกิจกรรม ที่ด้านหลังตัวเรือนจะพบกับโลโก้ World Athletics Championships Tokyo 2025 และหมายเลขประจำเรือนที่แสดงถึงความเป็นรุ่นลิมิเต็ด (Limited Edition จำนวน 6,000 เรือนทั่วโลก)
ฟังก์ชันครบ พร้อมสำหรับทุกจังหวะชีวิต
นอกจากระบบจับเวลาแบบโครโนกราฟที่วัดได้ละเอียดถึง 1/5 วินาที และรองรับการจับเวลาสูงสุด 60 นาทีแล้ว ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง เช่น
- เข็ม 24 ชั่วโมง
- แสดงวันที่
- เข็มวินาทีแยก
- ฟังก์ชันกันการชาร์จเกิน
- แสดงระดับพลังงาน
- ต้านทานสนามแม่เหล็ก 4,800 A/m
ไม่ต้องเป็นนักกีฬา ไม่ต้องไปโตเกียว แค่คุณเข้าใจจังหวะของตัวเอง... ก็อาจถึงเวลาเพิ่มเรือนนี้ไว้ในชีวิตแล้ว
บทความที่คุณอาจสนใจ