หงส์แดงบุกฟัดหมาป่า! พรีวิวภาพรวม และสถานการณ์ พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 5
กลับมาระเบิดความมันส์กันอีกครั้ง ส่องโปรแกรมการฟาดแข้ง และสถานการณ์ของ ศึกพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 5 ที่จะลงทำศึกกันในสัปดาห์นี้
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 จะกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งเป็นนัดที่ 5 หลังจากหยุดพักการแข่งขัน เพื่อหลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาติไป 1 สัปดาห์ โดยมีโปรแกรมที่น่าสนใจหลากหลายคู่เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการติดตามทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงก่อนหน้านี้ ว่าจะยังคงสามารถรักษาผลงานไว้ได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ รวมทั้งทีมที่ยังทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจ ว่าจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้หรือไม่
ดังนั้น เรามาไล่ดูโปรแกรมการแข่งขันเกมนัดต่อไป พร้อมส่องสถานการณ์ของแต่ละทีมในลีกไปพร้อมกัน ว่าทีมต่างๆ จะต้องเจอกับงานยากหรือง่าย และมีโอกาสจะคว้าชัยได้มากน้อยเพียงใดในสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566
- 18.30 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2 , True 4K (400)
- 21.00 น. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ | พรีวิว : True Premier Football 1
- 21.00 น. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ไบรท์ตัน | พรีวิว : True Premier Football 2
- 21.00 น. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด | พรีวิว : True Premier Football 3
- 21.00 น. แอสตัน วิลล่า พบ คริสตัล พาเลซ | พรีวิว : True Premier Football 6
- 21.00 น. ฟูแล่ม พบ ลูตัน ทาวน์ | พรีวิว : ID Station (894) , True Premier Football 8
- 23.30 น. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบ เบรนท์ฟอร์ด | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2566
- 20.00 น. บอร์นมัธ พบ เชลซี | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
- 22.30 น. เอฟเวอร์ตัน พบ อาร์เซน่อล | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
คืนวันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566
- 01.45 น. น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ เบิร์นลี่ย์ | พรีวิว : ID Station (894) , True Premier Football 1 , True Premier Football 2
สำหรับสุดสัปดาห์นี้ ศึกพรีเมียร์ลีก จะกลับมาแข่งขันกันครบทั้ง 10 คู่ 10 สนาม โดยเริ่มประเดิมความมันส์กันแบบเต็มอิ่มจุใจในวันเสาร์ถึง 7 คู่ ตามด้วยเกมในวันอาทิตย์ 2 คู่ และปิดท้ายกันในคืนวันจันทร์อีก 1 คู่
ออกสตาร์ทกันด้วยเกมคู่แรกในช่วงเย็นวันเสาร์ เวลา 18.30 น. โดยทีมดังอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง หลังคว้าชัยมา 3 นัดรวด รั้งอันดับ 3 ของตาราง จะบุกไปเยือน "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมอันดับ 15 ที่มีเพียง 3 แต้ม ทั้งนี้ แม้อาจจะดูไม่ใช่งานยากสักเท่าใดนัก ทว่าทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นั้น จะยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ที่ยังติดโทษแบน โดยสุดท้ายแล้วทีมเยือนจะบุกคว้า 3 แต้ม เพื่อขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงแบบชั่วคราวได้หรือไม่ แฟนบอลต้องรอลุ้นไปพร้อมกัน
ถัดมาในช่วง 21.00 น. จะมีการแข่งขันถึง 5 คู่ แต่ไฮไลท์ที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นเกมของ 3 ทีมใหญ่ โดยเฉพาะ 2 สโมสรจากเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ต่างก็ต้องเจอกับศึกหนักไม่น้อย โดยทีมแชมป์เก่าและจ่าฝูงอย่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เดินหน้าคว้าชัยมา 4 นัดรวด จะต้องออกไปเยือน "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ที่มี 10 แต้ม ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดี และยังไม่แพ้ใครเช่นกัน
ขณะที่ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งบุกไปพ่าย ปืนใหญ่ แบบสุดเจ็บปวด จนหล่นมารั้งอันดับ 11 จะกลับมาเปิดโรงละครแห่งความฝันรับมือ "นกนางนวล" ไบรท์ตัน ทีมอันดับ 6 ที่ล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านอัด สาลิกาดง มา 3-1 โดยเกมนี้เจ้าถิ่นจำเป็นที่จะต้องคว้า 3 แต้มให้ได้สถานเดียว เพื่อเรียกความมั่นใจและดึงโมเมนตัมกลับมา แม้ว่าจะเป็นงานที่ท้าทายอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายให้กับ ไบรท์ตัน แบบไป-กลับ เมื่อซีซั่นก่อน นอกจากนั้นภายในทีมก็กำลังมีปัญหาเรื่องนักเตะมากมาย ทั้งรายของ แอนโทนี่ และ เจดอน ซานโช่ ทว่าแฟนๆ ก็มีลุ้นจะได้เห็นมิดฟิลด์ป้ายแดงอย่าง โซฟียาน อัมราบัต ประเดิมสนามให้ทีมในเกมนี้ หากเจ้าตัวฟิตสมบูรณ์ทันเวลา
ส่วนทีมดังแห่งกรุงลอนดอน ที่กำลังรั้งรองฝูงอย่าง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เรียกได้ว่าน่าจะเจองานเบากว่าใครเพื่อน เมื่อจะเปิดบ้านรับมือ "ดาบคู่" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 17 ที่ยังไร้ชัย และมีเพียงแต้มเดียวเท่านั้น จึงคาดว่ามีโอกาสค่อนข้างสูงที่ สเปอร์ส จะคว้า 3 แต้มได้แบบต่อเนื่อง เพื่อเกาะกลุ่มหัวตารางต่อไป
ก่อนที่เกมคู่ดึกในช่วง 23.30 น. จะเป็นคิวของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ผลงานกำลังน่าเป็นห่วง หลังแพ้มา 3 นัดรวด จนหล่นไปรั้งอันดับ 14 ซึ่งจะเปิดสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ "ผึ้งพิฆาต" เบรนท์ฟอร์ด ทีมอันดับ 8 ที่ยังไม่แพ้ใคร เกมนี้คงถึงเวลาที่เจ้าบ้านจะต้องเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาให้ได้ มิเช่นนั้นพวกเขาจะต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันไม่น้อย ก่อนที่จะทำศึกหนักในฟุตบอลยุโรป ช่วงกลางสัปดาห์หน้า
จากนั้นในวันอาทิตย์ จะเป็นโปรแกรมของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งเมืองหลวง ที่จะต้องยกพลออกไปเล่นนอกบ้าน โดยช่วง 20.00 น. "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่ฟอร์มยังไม่สู้ดี หลังล่าสุดเปิดบ้านพ่ายให้กับ เจ้าป่า 0-1 ทำให้มีเพียง 4 แต้ม รั้งอันดับ 12 ของตาราง จะบุกไปเยือน "เดอะ เชอร์รี่ส์" บอร์นมัธ ทีมอันดับ 16 ที่ยังไม่ชนะใคร เกมนี้ สิงห์บลูส์ จะกู้หน้าและเรียกศรัทธากลับมาได้หรือไม่ แฟนๆ คงต้องรอติดตาม
ขณะที่ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่กำลังคึกคักสุดๆ หลังเพิ่งโกงความตาย กลับมาคว้าชัยเหนือ ปีศาจแดง ได้แบบสุดดราม่า ทำให้มี 10 แต้ม รั้งอันดับ 5 จะออกไปดวลกับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 18 ที่เพิ่งมีเพียงแต้มเดียว และกำลังมองหาชัยชนะเป็นนัดแรก แต่สุดท้ายเจ้าบ้านหรือทีมเยือนจะได้เฮในเกมนี้ เหล่ากูนเนอร์ส และบรรดาเอฟเวอร์โตเนียน ไม่ควรพลาด
และปิดท้ายกันด้วยเกมคู่ดึกของคืนวันจันทร์ ในเวลา 01.45 น. "เจ้าป่า" น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่เพิ่งบุกล้มยักษ์อย่าง สิงห์บลูส์ ทำให้มี 6 แต้ม ขยับรั้งอันดับ 9 จะเปิดบ้านดวลกับ "เดอะ คลาเร็ตส์" เบิร์นลี่ย์ ทีมบ๊วยของตาราง ที่แพ้มา 3 นัดรวด และยังไม่มีแต้มเลยในฤดูกาลนี้
มาร่วมมันส์สะใจไปกับศึกพรีเมียร์ลีก ทุกคู่ ทุกสนาม พร้อมกันได้ที่ TrueID คอบอลตัวจริงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!
"เอกกี้รีพอร์ต"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชัดเจนครบถ้วน! วิธีการดูบอล แพ็กเกจ พรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID
- มันส์สะใจกว่าเดิม! พรีเมียร์ลีก 2023/24 ทรูไอดี มีอะไรใหม่ เอาใจคอบอล
- โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 2023/24 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก ลิ้งก์ดูบอลสด
-------------------------------------------------
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!
เคล็ดลับการรับชมพรีเมียร์ลีกให้มันส์จุใจในทุกช่องทาง คลิกเลย!
อัปเดตข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัปเดตข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก
