รีเซต
เปิดสูตร Carnivore Diet ทำไมถึงเหมาะกับผู้ชายสร้างกล้าม และลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอด

เปิดสูตร Carnivore Diet ทำไมถึงเหมาะกับผู้ชายสร้างกล้าม และลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอด

เปิดสูตร Carnivore Diet ทำไมถึงเหมาะกับผู้ชายสร้างกล้าม และลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอด
WeenayA
7 กรกฎาคม 2568 ( 08:00 )
19

     ผู้ชายสายสุขภาพย่อมเคยได้ยิน Carnivore Diet หรือ คาร์นิโวร์ไดเอท กำลังเป็นที่พูดถึงในกลุ่มคนรักสุขภาพที่มองหาวิธีการกินที่แตกต่างออกไป แผนการกินสุดเข้มงวดนี้เน้นการบริโภค ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 100% และตัดขาดอาหารจากพืชทุกชนิดโดยสิ้นเชิง แล้วการกินแบบนี้จะสร้างกล้าม แล้วช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร TrueID Sport จะพาคุณไปเจาะลึกว่า Carnivore Diet คืออะไร มีข้อดี-ข้อจำกัดอย่างไร และเหมาะกับคุณหรือไม่

 

เปิดสูตร Carnivore Diet
ทำไมถึงเหมาะกับผู้ชายสร้างกล้าม และลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอด

 

Carnivore Diet คืออะไร

     Carnivore Diet หรือ คาร์นิโวร์ไดเอท คือแผนการกินที่เข้มงวดมากๆ จะกินแค่เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เท่านั้น และไม่กินอาหารที่มาจากพืชทุกชนิดเลย ซึ่งเหมือนคีโตไดเอทขั้นสุดยอด ที่ตั้งใจจะให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะ "คีโตซิส" (Ketosis) ซึ่งจะเผาผลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรตที่ถูกจำกัดอย่างหนัก
     คีโตซิส คือภาวะที่ร่างกายของคุณเปลี่ยนมาใช้ ไขมันเป็นพลังงานหลักแทนคาร์โบไฮเดรต ปกติแล้ว ร่างกายของเราจะใช้กลูโคสที่ได้จากคาร์โบไฮเดรต เป็นเชื้อเพลิงหลัก แต่เมื่อคุณกินคาร์โบไฮเดรตน้อยมากๆ เป็นเวลานาน ร่างกายจะเริ่มสลายไขมันที่เก็บสะสมไว้ เพื่อสร้างสารที่เรียกว่า "คีโตน" (Ketones) ขึ้นมา ด้วยกระบวนการนี้จะทำให้ร่างกายใช้ "ไขมัน" เปลี่ยนเป็นคีโตนเป็นพลังงานแทน

Carnivore Diet มีประโยชน์อย่างไร

  • ช่วยให้น้ำหนักลด
    เมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิส จากการไม่กินคาร์โบไฮเดรตเลย ร่างกายจะเปลี่ยนไปใช้ไขมันเป็นพลังงานหลัก ทำให้เผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น อีกทั้งอาหารที่มีโปรตีนและไขมันสูงทำให้รู้สึกอิ่มไวและอิ่มนานขึ้น เลยอาจทำให้กินน้อยลงโดยรวมและทำให้ลดความอยากกินของหวานหรืออาหารแปรรูป

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
    การงดคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดหมายความว่าน้ำตาลในเลือดจะไม่พุ่งสูง ซึ่งดีเป็นพิเศษสำหรับคนเป็นเบาหวานหรือมีภาวะดื้ออินซูลิน 

  • ลดการอักเสบ
    การงดอาหารจากพืชทั้งหมดช่วยลดการอักเสบเรื้อรังในร่างกายได้ ในบางกรณีหรือในกลุ่มผู้ ที่มีภาวะแพ้ภูมิตัวเอง หรือปัญหาเกี่ยวกับลำไส้

  • สมองปลอดโปร่งและมีสมาธิมากขึ้น
    คีโตนที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเป็นแหล่งพลังงานที่สม่ำเสมอสำหรับสมอง ทำให้รู้สึกไม่ค่อยเพลียหรือสมองล้าส่งผลให้สมาธิดีขึ้น

  • ระบบย่อยอาหารดีขึ้น
    สำหรับคนที่มีอาการแพ้สารบางอย่างในพืช เช่น เล็กติน, ออกซาเลต, กลูเตน การงดอาหารจากพืชทั้งหมดอาจช่วยลดอาการท้องอืด แก๊ส หรือความไม่สบายท้องได้

  • วางแผนการกินง่ายขึ้น
    ด้วยการกินที่จำกัดมากๆ หมายความว่ามีตัวเลือกอาหารน้อยลง ทำให้การวางแผนและเตรียมอาหารง่ายขึ้น ไม่ต้องคิดเยอะ


Carnivore Diet กินอย่างไร

1. รายการอาหารที่ "กินได้"

  • เนื้อสัตว์
    เนื้อวัว: สันใน, สันนอก, เนื้อบด (80/20 หรือติดมันกว่า), ทีโบน
    เนื้อหมู: หมูสามชั้น, เบคอน (ต้องไม่ผ่านการบ่มและไม่เติมน้ำตาล), หมูสับ, ซี่โครง, สันคอ
    เนื้อแกะ: สันใน, ขาแกะ, เนื้อแกะบด
    สัตว์ปีก: ไก่ (เน้นส่วนที่มีไขมัน เช่น น่อง, ปีก, สะโพก), เป็ด, ไก่งวง (นิยมส่วนเนื้อสีเข้ม)
    เครื่องในสัตว์ : ตับ (วัว, ไก่, หมู) หัวใจ, ไต, สมอง, ลิ้น, ตับอ่อน

  • ปลาและอาหารทะเล
    ปลาไขมันสูง: แซลมอน, ปลาแมคเคอเรล, ปลาซาร์ดีน, ปลาเทราต์ 
    ปลาเนื้อขาว: ปลากะพง, ปลานิล
    หอยและสัตว์ทะเลมีเปลือก: กุ้ง, ปู, กุ้งมังกร, หอยเชลล์, หอยนางรม

  • ไข่ไก่

  • ไขมันจากสัตว์
    ไขมันวัว (Tallow), น้ำมันหมู (Lard), ไขมันเป็ด, น้ำมันเบคอน เนย, เนยใส (Ghee)

  • ผลิตภัณฑ์นม
    ครีมข้น (Heavy cream), ชีสแข็ง (เช่น เชดดาร์, พาร์เมซาน), เนย, เนยใส คาร์นิโวร์สายเคร่งหลายคนจะเลี่ยงนมทุกชนิด

  • เครื่องปรุงรส
    เกลือ (จำเป็นมากสำหรับอิเล็กโทรไลต์ โดยเฉพาะช่วงปรับตัว)
    พริกไทย (บางคนจะเลี่ยงเพราะเป็นพืช แต่หลายคนก็กิน) เครื่องเทศอื่นๆ ที่ไม่มีคาร์โบไฮเดรต แต่สายเคร่งจะใช้น้อยที่สุด

  • เครื่องดื่ม
    น้ำเปล่า เป็นเครื่องดื่มหลัก
    น้ำสต็อกกระดูก (Bone broth) (แนะนำอย่างยิ่งสำหรับอิเล็กโทรไลต์และสารอาหาร)
    บางคนอาจดื่มกาแฟดำหรือชาได้ แต่ในทางเทคนิคแล้วสิ่งเหล่านี้มาจากพืช และผู้ที่กินเคร่งๆ มักจะงด


2. รายการอาหารที่ "ห้าม" กินเด็ดขาด

  • ผลไม้ทุกชนิด แอปเปิล, กล้วย, เบอร์รี่, ส้ม ฯลฯ
  • ผักทุกชนิด ผักใบเขียว, ผักหัว, พืชตระกูลกะหล่ำ, พริก, มะเขือเทศ ฯลฯ
  • ธัญพืชทุกชนิด ข้าวสาลี, ข้าว, ข้าวโอ๊ต, ข้าวโพด, คีนัว ฯลฯ
  • พืชตระกูลถั่ว ถั่วชนิดต่างๆ, ถั่วเลนทิล, ถั่วลิสง
  • ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืชทุกชนิด อัลมอนด์, วอลนัท, เมล็ดเจีย, เมล็ดแฟลกซ์ ฯลฯ
  • น้ำตาลและสารให้ความหวานเทียมทุกชนิด น้ำผึ้ง, เมเปิลไซรัป, สตีเวีย, อิริทริทอล ฯลฯ
  • น้ำมันพืชทุกชนิด น้ำมันพืชทั่วไป, น้ำมันมะกอก, น้ำมันอะโวคาโด, น้ำมันมะพร้าว ฯลฯ
  • อาหารแปรรูป ที่มีส่วนผสมที่ไม่ใช่สัตว์ หรือมีสารเติมแต่ง
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

3. วิธีการเริ่มต้นสำหรับมือใหม่

  • หักดิบ: บางคนก็เริ่มกินทันที โดยตัดอาหารจากพืชออกไปทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการ "ไข้คีโตอ่อนเพลีย, ปวดหัว, ปัญหาการย่อย ในช่วงแรกที่ร่างกายปรับตัว แต่มักจะหายไปภายในไม่กี่วันถึงสองสัปดาห์

  • ค่อยๆ ปรับ: บางคนชอบที่จะค่อยๆ เปลี่ยน โดยอาจจะเริ่มจากการงดธัญพืชและถั่วก่อน แล้วค่อยงดผลไม้ จากนั้นงดผักที่ไม่ใช่แป้ง ค่อยๆ จำกัดอาหารให้เหลือแต่ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ การทำแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ราบรื่นขึ้น

  • เน้นเนื้อสัตว์ติดมัน
    เนื่องจากคุณจะงดคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจึงต้องการไขมันเป็นพลังงาน อย่ากลัวที่จะกินเนื้อส่วนที่ติดมันเยอะๆ ซึ่งจะช่วยให้อิ่มท้องด้วย แต่ให้พยายามรักษาสัดส่วนไขมันต่อโปรตีนให้เหมาะสม

  • กินให้อิ่ม
    โดยทั่วไป Carnivore Diet ไม่มีการนับแคลอรี่ กินได้จนกว่าจะรู้สึกอิ่มและพอใจ เนื่องจากโปรตีนและไขมันช่วยให้อิ่มนาน คุณอาจจะกินน้อยมื้อลง แต่แต่ละมื้อใหญ่ขึ้น เช่น 2-3 มื้อต่อวัน หรือบางคนกินแค่วันละมื้อเดียว

  • ดื่มน้ำและรักษาสมดุลอิเล็กโทรไลต์
    ดื่มน้ำให้มากๆ เมื่อร่างกายขับน้ำที่สะสมไว้จากการงดคาร์โบไฮเดรตออกไป คุณก็จะสูญเสียอิเล็กโทรไลต์ด้วย ให้เติมเกลือเพิ่มในอาหาร และพิจารณาดื่มน้ำสต็อกกระดูกเพื่อเติมโซเดียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม บางคนอาจกินอาหารเสริมอิเล็กโทรไลต์ด้วย

  • ลองกินเครื่องในสัตว์
    เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากขึ้น ลองใส่เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ เป็นประจำถ้าไม่ชอบรสชาติ อาจเริ่มจากปริมาณน้อยๆ ผสมกับเนื้อบด หรือลองกินเป็นตับบด

  • ฟังเสียงร่างกายตัวเอง
    สังเกตว่ารู้สึกอย่างไร การย่อยอาหารอาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงแรก เช่น ท้องผูกหรือท้องเสีย เนื่องจากจุลินทรีย์ในลำไส้กำลังปรับตัวกับการไม่มีใยอาหาร ระดับพลังงาน อารมณ์ และการนอนหลับก็อาจเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน

  • เลือกคุณภาพของอาหาร
    แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์จากสัตว์คุณภาพสูง เช่น เนื้อวัวกินหญ้า ไก่และไข่เลี้ยงปล่อย ปลาจับจากธรรมชาติ ทำให้สามารถเลี่ยงเคมีและสารปนเปื้อนได้ดีกว่า


ตัวอย่างการกิน 1 วันแบบ Carnivore Diet

  • มื้อเช้า: ไข่คนทอดในเนย กับเบคอนหรือเนื้อสเต๊กชิ้นเล็กๆ
  • มื้อกลางวัน: แฮมเบอร์เกอร์เนื้อบดชิ้นใหญ่ (80/20) กับชีสแข็งหนึ่งแผ่น (ถ้ากินได้) หรือแค่โรยเกลือ
  • มื้อเย็น: สเต๊กริบอายทอดในไขมันวัว อาจมีตับวัวเล็กน้อย
  • ของว่าง (ถ้าต้องการ): เนื้อเจอร์กี้ (เนื้ออบแห้งเช็คส่วนผสมว่าไม่มีน้ำตาล), ไข่ต้ม, ชีสแข็งชิ้นเล็กๆ
  • ตลอดทั้งวัน: น้ำเปล่า, น้ำสต็อกกระดูก


ข้อดี-ข้อเสียของการกิน Carnivore Diet

     อย่างไรก็ตามข้อควรระวังสำคัญ Carnivore Diet ยังขาดงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือในระยะยาว อาจทำให้เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามินซี, ใยอาหาร และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคบางชนิด ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

ข้อดีของการกิน Carnivore Diet

     น้ำหนักลดเนื่องจากโปรตีน-ไขมันสูงทำให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิสเร่งการเผาผลาญไขมัน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดการที่ไม่กินคาร์โบไฮเดรตเลย ทำให้น้ำตาลไม่พุ่งสูง
     ช่วยลดสารระคายเคืองจากพืช บรรเทาอาการภูมิแพ้ตัวเองหรือการอักเสบเรื้อรัง พลังงานคงที่จากคีโตนช่วยลดสมองล้า เพิ่มสมาธิและปรับอารมณ์ สำหรับบางคน การงดพืชช่วยลดอาการท้องอืดและปัญหาการย่อยอื่นๆ

ข้อเสียของการกิน Carnivore Diet

  • เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารรุนแรง: การงดพืชทุกชนิดทำให้ขาดวิตามินซี, ใยอาหาร, และแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร เช่น โรคลักปิดลักเปิด
  • ปัญหาการย่อย: การขาดใยอาหารอาจทำให้ท้องผูกหรือท้องเสีย และส่งผลเสียต่อความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้
  • เพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: การกินไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูงมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ มะเร็งบางชนิด และทำให้ไตทำงานหนัก
  • ทำตามได้ยาก: เป็นการกินที่จำกัดมาก ทำให้รักษาระยะยาวได้ยาก และน้ำหนักอาจกลับมาเพิ่มเมื่อหยุด
  • ขาดหลักฐานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์: ประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นเพียงคำบอกเล่า ยังไม่มีงานวิจัยระยะยาวที่น่าเชื่อถือมายืนยันผลกระทบต่อสุขภาพ


     หากคุณกำลังวางแผนที่จะทำ Carnivore Diet ไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนเสมอเพื่อประเมินสุขภาพของคุณ และให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี