พวกเราทำได้!! 30 ปีที่รอคอย กับแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ ลิเวอร์พูล คู่ควร

หลังจากโดนล้อเลียนมานานวันนี้พวกเขายุติมันลงแล้ว ยุติแบบสง่าผ่าเผย
วันนี้เรื่องราว "แชมป์" ของลิเวอร์พูล โด่งดังไปทั่วโลก แชมป์ประวัติศาสตร์ที่ "เดอะ ค็อป" รอคอย ดันมาเกิดในยุคที่ "โซเชียล" ครองโลก
ความสำเร็จในครั้งนี้ความดีความชอบส่วนหนึ่งยกให้ FSG ที่เข้ามาครอบครองกิจการหงส์แดงและดึง เจอร์เก้น คล็อปป์ มาทำงานด้วยรูปแบบของตัวเขาเอง ขณะที่การบริหารเป็นไปแบบมีระบบแบบแผน
เริ่มจากกุนซือเยอรมันร้องขอเวลาในการสร้างทีมพวกเขาก็อดทนยินยอมให้เวลา ขณะที่การซื้อนักเตะหากจำเป็นต้องทุ่มพวกเขาก็พร้อมทำอย่างการคว้าเฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มาเสริมเกมรับด้วยค่าตัวสถิติกองหลังตอนนั้นก่อนโดนแม็คไกวส์ทำลาย หรือจะเป็น อลิสซง เบ็คเกอร์ ที่มาเฝ้าเสาพร้อมค่าตัวสถิติผู้รักษาประตูก่อนโดน เกป้า ทำลาย
อีกหนึ่งเครดิตก็ต้องยกให้ยอดกุนซือชาวเยอรมันวัย 53 ปีที่เข้ามาปรับแต่ง "หงส์แดง" ให้เป็นไปตามสไตล์ของเขา เล่นด้วยระบบ ไม่มีสตาร์ ไม่มีใครเด่น ดั่งจะเห็นได้จากสามประสาน SMF ที่ก่อนหน้านี้เป็นที่ถกเถียงว่าใครคือคนสำคัญที่ขาดไม่ได้สุดท้ายได้บทสรุปว่าพวกเขาสำคัญเท่ากันขาดใครไปสักคนเกมรุกลดประสิทธิภาพไปพอๆกัน
อีกหนึ่งเครดิตก็ต้องเป็นเหล่านักเตะที่ "กัปตันเฮนโด้" จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยอมรับว่าเมื่อคล็อปป์เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง พวกเขาซึ่งเป็นลูกทีมก็ทำทุกอย่างตามที่บอสพูด เชื่อฟังบอส และเชื่อมั่นในตัวบอส
แน่นอนว่าเมื่อโค้ชซื้อใจนักเตะ แล้วลูกทีมยอมทำตาม สิ่งที่ตามมาคือผลงานในสนาม ซึ่งถ้ามันดีต่อเนื่อง ความสำเร็จคือบทสรุป และ ลิเวอร์พูล ยุคคล็อปป์ คือตัวอย่างที่ชัดเจน
กุนซือเจ้าพ่อเฮฟวี่เมทัลชื่นชอบการทำทีมด้วยการเพรสซิ่ง ซึ่งของเขาคือ สไตล์ "เกเก้น เพรสซิ่ง" ช่วงแรกที่มาใหม่ๆนักเตะไม่คุ้นชินทำให้เหล่าสตาร์นัดกันบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว เรียกว่าทยอยกันเข้าโรงหมอเลยจนผลงานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่พอเริ่มปรับตัวได้สักระยะหนึ่งทุกอย่างเริ่มอยู่ตัว
สองปีหลังมานี้เราจะเห็นเลยว่าสไตล์การเพรสซิ่งวิ่งไม่มีหมดของคล็อปป์แผลงฤทธิ์ได้ตลอด แสดงให้เห็นเลยว่าความฟิตของแข้งหงส์เริ่มไปในทิศทางที่คล็อปป์ต้องการ ซึ่งสำหรับฟุตบอลแล้วสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญบางทีใจสั่งให้เล่นอย่างนี้แต่พละกำลังไม่มีก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด
ผลงานซีซั่นที่แล้วคือสิ่งที่บ่งบอกว่าคล็อปป์ชลงตัวกับลิเวอร์พูลแล้ว แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกและรองแชมป์พรีเมียร์ลีกที่แพ้แมนฯ ซิตี้แค่แต้มเดียว ก่อนมาการันตีชัดด้วยการคว้าแชมป์ซีซั่นนี้แบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น
อีกหนึ่งเครดิตคือเหล่าเดอะ ค็อป ที่คอยหนุนหลังทีมมาตลอดด้วยความหวังที่ว่าวันหนึ่งจะเป็นของเรา
นี่คือ "พลังแฝง" ที่มีอยู่ที่ทำให้ขุนพลลิเวอร์พูลวิ่งไม่มีหมด
และอีกหนึ่งเครดิตที่คล็อปป์ยกแชมป์ให้คือเหล่าตำนานของทีม พวกเขาสร้างลิเวอร์พูลให้เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ มีประวัติศาสตร์ แม้ยุคหลังจะไร้แชมป์ลีกแต่ก็มีแชมป์บอลถ้วยมาประดับตู้โชว์อยู่เสมอ
บอสใหญ่ชาวเยอรมันบอกว่าประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเขาสร้างไว้ทำให้เขายกมากระตุ้นลูกทีมได้อยู่บ่อยครั้ง
จะเห็นได้ว่าลิเวอร์พูลยุคนี้ประสบความสำเร็จด้วยระบบแบบแผนและเชื่อว่าพวกเขาจะยังคงยืนหยัดเป็นหัวแถมของพรีเมียร์ลีกได้อีกยาวนานหาก FSG ยังบริหารงานอยู่
คว้าแชมป์โดยที่ยังเหลืออีก 7 นัด
คว้าแชมป์โดยทิ้งห่าง 23 แต้ม (สุดท้ายจะเป็นกี่แต้มต้องลุ้นกัน)
คว้าแชมป์แบบมีสไตล์ ยิงกระจุย
30 ปีกับแชมป์ที่รอยคอยปิดฉากแบบเกือบสมบูรณ์แบบ
เสียอย่างเดียวไวรัสร้ายโควิด-19มาทำให้บรรยกาศฉลองแชมป์
เป็นการฉลองแชมป์ที่ไม่สุดเหวี่ยง
ลองนึกภาพดูวันที่"กัปตันเฮนโด้" ชูโทรีฟี่ใบใหญ่ผูกริบบิ้นสีแดงขึ้นเหนือหัว ถ้ามีเดอะ ค็อปเข้ามาฉลองด้วยในแอนฟิลด์บรรยากาศมันจะยอดเยี่ยมขนาดไหน
เอาแค่เสียงเชียร์ยามทีมลงเล่นมันยังดังสนั่นลั่นทุ่ง
แล้วฉลองแชมป์ที่รอคอยมา 30 ปีมันจะดังสนั่นขนาดไหนอาจจะลั่นข้ามสวนสาธารณไปถึงอีกสนามเลยก็ได้
แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : TNN
-------------------------------------------------
ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก ได้ฟรีทางช่อง ไอดี สเตชั่น ง่ายๆเพียงแค่สมัครสมาชิกทรูไอดีและล็อคอิน สมัครสมาชิกทรูไอดีได้ที่นี่ ก็สามารถดูบอลสดได้เลยทันที !!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
วันนี้ที่รอคอย! ชมภาพ "เดอะ ค็อป" เฉลิมฉลอง หลังลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
สุดเหวี่ยง!! แข้งหงส์ รวมตัวลุ้นผลเรือ-สิงห์ ก่อนฉลองแชมป์ (ชมคลิป)
– ดูฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่