
วิธีลดพุงโดยไม่ต้องออกกำลังกายหนัก ฉบับผู้ชายวัยงานทำได้จริง
ผู้ชายวัยทำงานหลายคนรู้ดีว่าการมีพุงไม่ได้เกิดจากการกินอย่างเดียว แต่มันคือผลสะสมจากความเครียด การนั่งทำงานนาน และเวลาที่ไม่เคยลงตัวให้ดูแลตัวเองแบบจริงจัง แต่ข่าวดีคือ การลดพุงไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนักเสมอไป และหลายครั้งวิธีที่ง่ายกว่าและยั่งยืนกว่ากลับได้ผลจริงมากกว่าออกแรงจนหมดแรง ลองมาดูวิธีลดพุงผู้ชายที่ทำได้ทันทีในชีวิตประจำวัน เหมาะกับคนทำงานที่อยากได้ท้องแบนขึ้นแบบไม่ทรมานตัวเอง
ทำไมพุงถึงลดยากกว่าส่วนอื่น เข้าใจไว้ก่อนแล้วจะง่ายขึ้น
ผู้ชายสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องง่ายกว่าผู้หญิง เพราะระดับฮอร์โมนและพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่งทำงานวันละหลายชั่วโมง เครียดจากงานจนกินเพลิน ดื่มแอลกอฮอล์หลังเลิกงาน และนอนดึกจนร่างกายเผาผลาญผิดจังหวะ
ไขมันหน้าท้องจึงมักเป็นชนิดที่เรียกว่า ไขมันในช่องท้อง ซึ่งทำให้พุงป่องและยังเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ ความดัน และเบาหวาน แต่ข้อดีคือไขมันในช่องท้องตอบสนองต่อการปรับพฤติกรรมได้ไวมาก คุณอาจเริ่มเห็นผลภายในช่วงประมาณหนึ่งถึงสองสัปดาห์ถ้าทำถูกทางและทำต่อเนื่อง แล้วต้องปรับอย่างไรบ้าง มาทำตาม 5 ขั้นตอนต่อไปนี้กันได้เลย
1. ลดแค่น้ำตาลอย่างเดียว พุงก็ยุบได้มาก
ถ้าออกกำลังกายไม่ไหว ให้เริ่มที่การคุมชนิดของอาหารแทน สิ่งที่ทำให้พุงป่องที่สุดไม่ใช่ไขมันอย่างเดียว แต่คือน้ำตาลและแป้งขัดขาว เพราะร่างกายจะเก็บส่วนเกินไว้ที่ช่องท้องก่อน
ลองลดสิ่งเหล่านี้ลงในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำหวาน กาแฟใส่น้ำเชื่อม ขนมปังขาว ข้าวขาว ขนม และของกินเล่นกรุบกรอบต่างๆ แล้วแทนที่ด้วยข้าวกล้องเล็กน้อย กาแฟดำหรืออเมริกาโน่ไม่หวาน และของว่างเป็นถั่ว หรือผลไม้รสเปรี้ยวเล็กน้อย
นี่คือจุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดของการลดไขมันหน้าท้องสำหรับผู้ชายวัยทำงาน เพราะไม่ต้องใช้แรง ไม่ต้องใช้เวลาเพิ่ม เพียงแค่เลือกอาหารให้ฉลาดขึ้นเท่านั้น ก็พุงยุบลงเป็นนิ้วได้ไม่ยาก
2. เดินวันละ 6,000-8,000 ก้าว ได้ผลกว่าการออกกำลังกายหนักแต่ไม่สม่ำเสมอ
หลายคนเข้าใจผิดว่าการลดพุงต้องวิ่ง ต้องคาร์ดิโอหนัก แต่แนวคิดใหม่ด้านสุขภาพบอกตรงกันว่า การขยับตัวระดับเบาถึงปานกลางแบบสม่ำเสมอให้ผลดีกับการลดไขมัน มากกว่าการออกกำลังกายหนักเป็นครั้งคราว
และการเดินก็เป็นวิธีที่ดี เพราะช่วยเร่งระบบเผาผลาญ ลดฮอร์โมนความเครียด ควบคุมความอยากอาหาร และช่วยเผาผลาญไขมันบริเวณหน้าท้องได้ดีมาก
ทริกง่ายๆ สำหรับมนุษย์ออฟฟิศคือ เดินคุยโทรศัพท์แทนการนั่ง เดินขึ้นลงบันไดวันละไม่กี่นาที เดินรอบออฟฟิศหรือรอบบ้านก่อนอาบน้ำ
หากตั้งเป้าอย่างน้อยวันละ 6,000 ก้าวก็เริ่มเห็นผลได้แล้ว และถ้าทำได้ถึงระดับประมาณ 8,000 ก้าวขึ้นไปต่อวัน ต่อเนื่องสองถึงสี่สัปดาห์ จะเริ่มรู้สึกว่าพุงแฟบลงและร่างกายเบาขึ้นอย่างชัดเจน
3. นอนก่อนเที่ยงคืน คือยาลดพุงที่มองไม่เห็น
ผู้ชายที่นอนดึกมักลดพุงยาก เพราะฮอร์โมนเผาผลาญทำงานผิดเวลา ร่างกายจะหิวของหวานและของกินเล่นตอนดึกมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว แถมยังทำให้ไม่มีแรงขยับตัวในวันถัดไปอีก
แค่ปรับเรื่องการนอน คุณจะรู้สึกว่าพุงยุบง่ายขึ้น ไม่อยากกินจุบจิบตอนกลางคืน มีแรงทำงานและขยับตัวมากขึ้น และร่างกายดึงพลังงานจากไขมันแทนการใช้กล้ามเนื้อมากกว่าเดิม
แนวทางง่ายๆ คือ พยายามวางมือจากมือถืออย่างน้อย 30 นาทีก่อนนอน ตั้งเป้านอนก่อนเวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่งถึงห้าทุ่มครึ่งให้ได้สัปดาห์ละห้าวัน และจัดห้องให้มืด อุณหภูมิไม่ร้อนจนเกินไป นี่คือวิธีลดพุงที่ไม่ต้องออกกำลังกายเลย แต่ได้ผลจริงสำหรับคนที่นอนดึกเป็นประจำ
4. โปรตีนคืออาวุธลับของผู้ชายที่อยากให้พุงยุบ
โปรตีนช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากของหวาน และช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญโดยรวมในร่างกาย
สิ่งง่ายๆ ที่ทำได้ เช่น เพิ่มไข่ต้มหนึ่งฟองในมื้อเช้า เลือกกินอกไก่ ปลา หรือเต้าหู้แทนอาหารทอดๆ มันๆ หรือดื่มเครื่องดื่มโปรตีนหลังเลิกงานแทนการหาขนมหวานหรือของทอด
เป้าหมายโดยทั่วไปคือกินโปรตีนให้ได้ประมาณ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าหนักเจ็ดสิบกิโลกรัม ก็ควรกินโปรตีนให้ได้วันละประมาณ 70 กรัม เมื่อร่างกายได้รับโปรตีนเพียงพอ มวลกล้ามเนื้อจะไม่ลดลงง่าย ระบบเผาผลาญจะทำงานดีขึ้น และร่างกายจะเริ่มดึงพลังงานจากไขมันสะสมที่หน้าท้องมากขึ้น
แต่ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หากต้องการลดน้ำหนัก ควรคำนวณจากน้ำหนักตัวที่ควรจะเป็น (Ideal Body Weight: IBW) หรือมวลกายปราศจากไขมัน (Fat-Free Mass: FFM) แทนการใช้น้ำหนักจริงทั้งหมด เพื่อให้ได้ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสม
5. ลดแอลกอฮอล์ลงครึ่งหนึ่ง พุงจะยุบเร็วกว่าที่คิด
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากให้พลังงานสูง โดยเฉพาะเบียร์และเครื่องดื่มผสมรสหวานๆ ร่างกายยังมีแนวโน้มที่จะหยุดเผาผลาญไขมันชั่วคราวเมื่อมีแอลกอฮอล์ในเลือด ทำให้ไขมันหน้าท้องถูกเก็บสะสมเพิ่มขึ้น
คุณไม่จำเป็นต้องเลิกดื่มทันที เพียงแค่ลดปริมาณลงครึ่งหนึ่งจากที่เคยดื่ม เลือกเครื่องดื่มที่ผสมน้ำอัดลมหวานๆ น้อยลง หรือเปลี่ยนเป็นผสมโซดาแทน และพยายามเลี่ยงกับแกล้มแบบทอดหรือมันจัด
ถ้าทำได้ต่อเนื่องอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ คุณจะเริ่มสังเกตได้ว่าพุงไม่แน่นเท่าเดิมและร่างกายดูเบาขึ้น แม้จะยังไม่ได้ออกกำลังกายหนักเลยก็ตาม
บทความที่คุณอาจสนใจ
- วิธี Hack ร่างกายผู้ชายสายสร้างกล้าม ดูแลตัวเองอย่างไรสร้างกล้ามได้ไว
- เวลาน้อยก็หุ่นดีได้ วิธีออกกำลังกายสำหรับผู้ชายเวลาน้อย
- รวมท่าปั้นหัวไหล่ผู้ชายเวลาน้อย ภายใน 15 นาที ไหล่สวยได้แม้ไม่มีเวลา
- วิธีกินตาม TDEE สำหรับผู้ชายอยากปั้นกล้าม กินอย่างไรให้ได้ผล
- Warm up กับ Cool down ต่างกันอย่างไรทำไมสำคัญต่อการสร้างกล้าม
- วิธีเลือกดัมเบลสำหรับผู้ชายให้เหมาะกับการออกกำลังกาย
- รวมท่าออกกำลังกาย Dumbbell Complex เวลาน้อยได้ผลมาก
- รวมท่าฝึกแกนกลางลำตัว แบบไม่หนัก ได้กล้ามสวยแก้ปวดหลัง ทำตามง่าย
- สาเหตุที่ออกกำลังกายหนักแต่ไม่มีกล้าม เปลี่ยนวิธีนี้กล้ามขึ้นแน่

