รีเซต
Sports Profile : ประวัติ แฮร์รี่ เคน เครื่องจักรสังหารของสเปอร์สและทีมชาติอังกฤษ

Sports Profile : ประวัติ แฮร์รี่ เคน เครื่องจักรสังหารของสเปอร์สและทีมชาติอังกฤษ

Sports Profile : ประวัติ แฮร์รี่ เคน เครื่องจักรสังหารของสเปอร์สและทีมชาติอังกฤษ
KiTTiSaK
20 ธันวาคม 2563 ( 09:00 )
1.9K
1

ประวัติและข้อมูลล่าสุดของ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงจอมถล่มประตูของท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และสุดยอดกองหน้าอันดับหนึ่งของทีมชาติอังกฤษในเวลานี้


ข้อมูลนักเตะ 

ชื่อเต็ม : แฮร์รี่ เอ็ดเวิร์ด เคน 

เกิด : 28 กรกฏาคม 1993 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

อายุ : 27 ปี

สัญชาติ : อังกฤษ

ตำแหน่ง : กองหน้า 

ส่วนสูง : 188 เซนติเมตร

เส้นทางลูกหนัง

แฮร์รี่ เคน เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่น ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส ตอนอายุ 6 ขวบ โดยมี สเปอร์ส เป็นทีมโปรดตั้งแต่เด็ก เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่ต่างเป็นแฟนบอลไก่เดือยทอง พร้อมกับมี เท็ดดี้ เชอริงแฮม ตำนานกองหน้าสเปอร์ส เป็นนักเตะไอดอล

อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นแฟนบอลสเปอร์ส แต่ เคน กลับได้ไปอยู่ในอคาเดมี่ของทีมคู่ปรับอย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ตอนอายุ 8 ขวบ แต่อยู่ได้เพียงปีเดียว เคน ก็ถูกปล่อยตัวออกมา เนื่องจากถูกมองว่า สภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แถมรูปร่างยังเจ้าเนื้อไปนิดนึง 

จากนั้น เคน กลับไปยัง ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส อีกครั้ง จนอายุ 11 ปีเขาได้ไปทดสอบฝีเท้ากับ วัตฟอร์ด และทำผลงานได้ดีในเกมที่ วัตฟอร์ด ลงสนามพบกับ สเปอร์ส ซึ่งสตาฟฟ์ของทีมไก่เดือยทองเห็นแววบางอย่าง จึงรีบดึง เคน เข้ามาสู่ทีมอคาเดมี่ของตัวเองทันที 

เมื่อเข้ามาสู่อคาเดมี่ของสเปอร์ส เคนค่อยๆพัฒนาตัวเองขึ้นมา ทั้งเรื่องทักษะเชิงลูกหนังและสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ จนได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ เมื่อเดือนก.ค.2010 ก่อนจะถูกปล่อยยืมไปเก็บประสบการณ์กับ เลย์ตัน โอเรียนท์ ในลีกวัน เมื่อฤดูกาล 2010-2011 ซึ่ง เคน ทำผลงานใช้ได้ ด้วยการยิงจาก 5 ประตูจาก 18 นัด 

ต่อมา ซีซั่น 2011-2012 เคนได้ลงสนามให้ สเปอร์ส เป็นนัดแรกในเกมยูโรป้าลีก พบกับ ฮาร์ทส์ เมื่อเดือนส.ค. 2011 ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าว เคนได้ลงเล่นเกมยูโรป้าลีก ถึง 6 นัด และยิงได้ 1 ประตูในเกมที่ชนะ แชมร็อค โรเวอร์ส 4-0 แต่ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง เคนถูกปล่อยยืมอีกครั้ง โดยไปเล่นให้กับ มิลล์วอลล์ ในลีกแชมเปี้ยนชิพ และซัดไป 9 ลูกจาก 27 นัดในทุกรายการ

ฤดูกาลต่อมา 2012-13 เคยถูกปล่อยยืมไปเสริมกระดูกกับ 2 สโมสร คือ นอริช ซิตี้ และ เลสเตอร์ ซิตี้ จนกระทั่งซีซั่น 2013-2014 สเปอร์สเริ่มใช้งาน เคน อย่างเต็มตัว และได้ลงสนามเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกให้กับ สเปอร์ส เป็นนัดแรกในเกมที่ถล่ม ซันเดอร์แลนด์ 5-1 เมื่อเดือนเม.ย. 2014 ก่อนจะทำผลงานในฤดูกาลดังกล่าวด้วยการยิง 4 ประตูจาก 19 นัดในทุกรายการ


มาถึงฤดูกาล 2014-2015 สเปอร์สได้แม่ทัพคนใหม่คือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ถูกดึงตัวมาจากเซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เนื่องจาก โปเช็ตติโน่ ไว้วางใจและให้โอกาส เคน ลงสนามอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นฤดูกาลแจ้งเกิด
ระเบิดฟอร์มของ เคน ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมในวัย 21 ปีเท่านั้น โดย เคน กระหน่ำไปถึง 31 ประตูในทุกรายการ พร้อมคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PFA) ไปครองแบบไร้ข้อกังขา

หลังจากนั้น เคน แปลงร่างเป็น “เครื่องจักรสังหาร” ซึ่งผลิตประตูให้กับสเปอร์สได้ถล่มทลายทุกฤดูกาล โดยคว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัยซ้อน ในฤดูกาล 2015-2016 และ 2016-2017 หลังจากกดไปซีซั่นละ 25 และ 29 ประตูตามลำดับ

 

ต่อมาฤดูกาล 2017-2018 ฟอร์มของ เคน ยิ่งพีกขึ้นไปอีก โดยสามารถทำสารพัดสถิติได้มากมาย เช่นการยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้มากที่สุดในปีปฏิทิน โดยซัดไป 39 ลูกตลอดปี 2017 ทำลายสถิติของ อลัน เชียเรอร์ ซึ่งทำไว้ 36 ลูกตั้งแต่ปี 1995

นอกจากนี้ เคน ยังยิงประตูในทุกรายการทั้งสโมสรและทีมชาติ ได้รวมถึง 56 ประตู ครองสถิติยิงมากที่สุดของยุโรปในปีปฏิทิน 2017 ซึ่งถือเป็นนักเตะคนแรกที่สอดแทรกขึ้นมาครองสถิตินี้ได้ หลังจากก่อนหน้านี้ ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผลัดกันครองสถิติกันอยู่สองคน โดยคนสุดท้ายที่ทำสถิตินี้ได้นอกเหนือจาก เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ก็คือ ดาบิด บียา ซึ่งยิงให้ บาเลนเซีย และทีมชาติสเปน รวม 43 ประตูในปี 2009

และจนถึงวินาทีนี้ เคน ก็ยังคงทำหน้าที่เพชฌฆาตให้กับทีมไก่เดือยทองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยตั้งแต่ฤดูกาล 2014-2015 เป็นต้นมา เคน กะซวกตาข่ายคู่แข่งได้เกิน 20 ประตูทุกฤดูกาล ทำให้ที่ผ่านมา สุดยอดหัวหอกเลือดผู้ดีรายนี้ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

ขณะเดียวกัน ผู้คนในวงการฟุตบอลหลายคนมองว่า เคน น่าจะลองย้ายไปหาความท้าทายใหม่ และไขว่คว้าเกียรติยศให้กับอาชีพนักเตะของตัวเอง เนื่องจากที่ผ่านมานั้น ไม่ว่า เคน จะยิงประตูได้ถล่มทลายขนาดไหน แต่เขาก็ยังไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์สำคัญใดๆกับ สเปอร์ส ได้เลยแม้แต่รายการเดียว โดยโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดคือการเป็นรองแชมป์ลีกคัพ 2014-2015 และรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018-2019 เท่านั้น

ผลงานทีมชาติ

แฮร์รี่ เคน เริ่มติดทีมชาติอังกฤษจากชุดยู-17 ก่อนจะไล่ขึ้นมาเรื่อยๆทั้ง ยู-19, ยู-20 และ ยู-21 จนก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2015 ในยุคของกุนซือ รอย ฮอดจ์สัน

เคน ได้ลงรับใช้ทีม “สิงโตคำราม” ครั้งแรกในเกมยูโร 2016 รอบคัดเลือก ที่พบกับ ลิธัวเนีย เมื่อเดือนมีนาคม 2015 โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทน เวย์น รูนี่ย์ ในครึ่งหลัง และใช้เวลาอยู่ในสนามแค่ 80 วินาที ก็สามารถพังประตูได้ทันที และช่วยให้อังกฤษคว้าชัยขาดลอย 4-0

สำหรับ เคน เป็นหนึ่งในขุนพลนักเตะเมืองผู้ดีในทัวร์นาเมนต์สำคัญ เริ่มจากยูโร 2016 รอบสุดท้าย แต่อังกฤษโชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง โดยพลาดท่าพ่ายต่อ ไอซ์แลนด์ 1-2 จอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย และ เคน ก็ยิงประตูไม่ได้เลยในรายการนี้

จากนั้นทีมชาติอังกฤษคว้าตั๋วไปลุยรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่ง เคน ยังคงเป็นหัวหอกตัวความหวัง พร้อมกับสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมสิงโตคำราม ก่อนจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถซัดแฮตทริกได้ในเกมที่ถล่ม ปานามา 6-1 และเป็นนักเตะอังกฤษคนที่ 3 ที่สามารถทำแฮตทริกได้ในศึกฟุตบอลโลกต่อจาก เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ปี 1966  และ แกรี่ ลินิเกอร์ ปี 1986

สำหรับศึกเวิลด์คัพ 2018 ทีมชาติอังกฤษทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะพ่าย โครเอเชีย ในช่วงต่อเวลา 1-2 แต่ เคน ผงาดครองตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยหัวหอกจากสเปอร์สยิงได้ทั้งสิ้น 6 ประตู ซึ่งเป็นนักเตะอังกฤษคนแรกในรอบ 32 ปีที่คว้าดาวซัลโวฟุตบอลโลกมาครองได้สำเร็จ

เกียรติประวัติ

สเปอร์ส : 

  • รองแชมป์ลีกคัพ : 2014-2015
  • รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018-2019
  • ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีจาก PFA 2014-2015
  • ทีมแห่งปีของ PFA 2014-2015, 2015-2016 , 2016-2017 , 2017- 2018
  • นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร 2014-2015
  • ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2015-2016 , 2016-2017

ทีมชาติอังกฤษ :

  • ผู้เล่นยอดเยี่ยมทีมชาติอังกฤษ : 2017 , 2018
  • ดาวซัลโวฟุตบอลโลก : 2018
  • ทีมยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก : 2018

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> Sports Profile : ประวัติ ปอล ป็อกบา ซูเปอร์สตาร์ ค่าตัวแพงสุดในเกาะอังกฤษ

ยอดนิยมในตอนนี้