
เปิดประวัติสนาม Autodromo Nazionale Monza วิหารแห่งความเร็ว และสถิติที่น่าสนใจ

ก่อนเข้าสู่สนามที่ 16 ของ Formula 1 ใน Italian Grand Prix TrueID Sport จะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสนาม Monza หรือ Autodromo Nazionale Monza กันว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร แล้วทำไมสนามนี้จึงได้ฉายาว่า “วิหารแห่งความเร็ว” รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มอรรถรส ก่อนที่จะรับชมการแข่งขันในสนามนี้
shutterstock/AB_Production
เปิดประวัติสนาม Autodromo Nazionale Monza
วิหารแห่งความเร็ว และสถิติที่น่าสนใจ
สนาม Autodromo Nazionale Monza สร้างขึ้นเมื่อใด
สนาม Autodromo Nazionale Monza สร้างขึ้นในปี 1922 ตั้งอยู่ในอุทยานของพระราชวังวิลล่า รีอาเล (Villa Reale) ในเมืองมอนซา ประเทศอิตาลี เป็นสนามแข่งรถที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะที่มีอายุเก่าแก่เป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นแห่งแรกในยุโรป
เหตุในการสร้างเกิดจาก Automobile Club of Milan (สโมสรรถยนต์แห่งมิลาน) ได้ตัดสินใจก่อสร้างสนามแข่งรถ เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีของสโมสร โดยให้บริษัท SIAS (Sports and Increased Automobiles Company) ทำการก่อสร้าง
ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก อัลเฟรโด รอสเซลลี (Alfredo Rosselli) และสร้างโดยบริษัทที่มีวิศวกร ปีเอโร ปูริเชลลี (Piero Puricelli) เป็นหัวหน้า ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 110 วัน และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ โดยมีวินเชนโซ แลนเซีย ผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ Lancia ร่วมวางศิลาฤกษ์ สนามแห่งนี้ถือเป็นสนามแข่งถาวรแห่งที่ 3 ของโลก รองจากสนามอินเดียแนโพลิสในสหรัฐอเมริกา (1909) และสนามบรูกแลนดส์ในอังกฤษ (1907) ซึ่งสนามบรูกแลนดส์ได้ปิดตัวลงอย่างถาวรในปี 1945
ลักษณะของสนาม Autodromo Nazionale Monza ในยุคแรก
สนามประกอบด้วยวงแหวนสองวงที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ โดยวิ่งสลับรอบไปมาระหว่างวงหนึ่งกับอีกวงหนึ่ง (เส้นทางเข้าเส้นชัยเป็นส่วนที่ใช้ร่วมกันและแบ่งเป็นสองเลนในกรณีนี้) หรือใช้งานแยกกัน
- สนามแข่งแบบถนน (Road Track) ระยะทาง 5,500 เมตร พร้อมโค้ง 7 โค้ง
- สนามวงแหวนความเร็วสูงแบบวงรี (High-speed oval) ระยะทาง 4,500 เมตร พร้อมโค้งยกสูงสองโค้ง
การปรับปรุงสนาม Autodromo Nazionale Monza
ในช่วงปีแรก การแข่งขัน Italian Grand Prix จัดขึ้นบนเส้นทาง 10 กิโลเมตร และมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ในปี 1928 นักแข่งชื่อ เอมิลิโอ มาเตราสซี (Emilio Materassi) เสียการควบคุมรถบนทางตรงเข้าเส้นชัยและพุ่งชนกลุ่มผู้ชม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน และบาดเจ็บกว่า 40 คน ต่อมาในปี 1933 ระหว่างการแข่งขัน Monza Grand Prix รอบที่สอง จูเซปเป คัมปารี (Giuseppe Campari) นักขับชื่อดังเสียหลักบนคราบน้ำมันที่ทางเข้าโค้งทางใต้ รถพุ่งตกข้างทางและพลิกคว่ำในคูน้ำ ทำให้เขาเสียชีวิตทันที
จากเหตุการณ์ร้ายแรงทั้งสองครั้ง สนามจึงได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อลดความเร็วลงเพื่อปรับปรุงด้านความปลอดภัยสนามแข่ง Autodromo Nazionale Monza จึงได้รับการปรับปรุงหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
การปรับปรุงสนามเพื่อความปลอดภัย (ทศวรรษ 1930 - 1970)
- ปี 1935: มีการเพิ่มโค้งชิเคนหลายจุดใน "สนามฟลอริโอ" (The Florio Circuit) เพื่อลดความเร็วลง หลังเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
- ปี 1939: มีการสร้างสนามขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด โดยรื้อสนามวงแหวนความเร็วสูงเดิม และปรับเปลี่ยนสนามแบบถนน โดยย้ายโค้ง "วิอาโลเน" (Vialone curve) และสร้างทางตรงใหม่ที่ยาวขึ้น
- ปี 1955: สนามได้รับการออกแบบใหม่เพื่อสร้างวงแหวนความเร็วสูงที่ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็กขึ้นมาแทนที่ของเดิม โค้ง "วิอาโลเน" ที่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้นักแข่ง อัลแบร์โต อัสคารี เสียชีวิต ได้เปลี่ยนชื่อเป็นโค้ง "อัสคารี" (Ascari curve) และมีการปรับโค้งสุดท้ายให้เป็นโค้งรูปครึ่งวงกลม หรือโค้ง "ปาราโบลิกา"
- ปี 1961: ถึงจะมีการปรับปรุงสนามเพื่อความปลอดภัยแต่ในการแข่งขัน Italian Grand Prix ปี 1961 ได้เกิดโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ Formula 1 ในรอบที่สองของการแข่งขัน วูล์ฟกัง ฟอน ทริปส์ (Wolfgang von Trips) นักแข่งชาวเยอรมันซึ่งเป็นผู้นำคะแนนสะสมในขณะนั้น ได้เกิดการปะทะกับ จิม คลาร์ก (Jim Clark) นักแข่งชาวอังกฤษ บนทางตรงก่อนเข้าโค้ง ปาราโบลิกา (Parabolica) ทำให้รถ Ferrari ของฟอน ทริปส์ ลอยขึ้นกลางอากาศและพุ่งชนรั้วกั้นที่มีผู้ชมยืนอยู่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 16 คน (ฟอน ทริปส์ 1 คน และผู้ชม 15 คน) ซึ่งนับเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ F1 เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เพื่อนร่วมทีมของฟอน ทริปส์ คือ ฟิล ฮิลล์ (Phil Hill) คว้าแชมป์โลกไปครองในที่สุด แต่ชัยชนะครั้งนี้ไม่มีการเฉลิมฉลองใด ๆ เนื่องจากความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น อุบัติเหตุครั้งใหญ่นี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญด้านความปลอดภัยในวงการ Formula 1 ทำให้มีการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยครั้งใหญ่ ตั้งแต่ ปี 1962 เป็นต้นมา การแข่งขัน F1 ที่สนาม Monza จึงยกเลิกการใช้เส้นทางแบบวงรีความเร็วสูง และใช้เพียงเส้นทางแบบถนนที่สั้นและปลอดภัยกว่าแทน
- ปี 1976: มีการสร้างโค้งชิเคนถาวรเพิ่มอีก 3 จุด เพื่อลดความเร็วในการเข้าโค้งบนทางตรงพิต, โค้งรอกเจีย (Roggia curve) และโค้งอัสคารี
การปรับปรุงความปลอดภัยในยุคปัจจุบัน
- ปี 1994 - 2014: สนามมีการปรับปรุงเพิ่มเติมหลายครั้ง รวมถึงการสร้างโค้งและทางเข้าโค้งขึ้นใหม่ เช่น โค้งกู๊ดเยียร์ โค้งรอกเจีย โค้งกรานเด (Grande curve) และโค้งเลสโม (Lesmo curves) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและรองรับรถแข่งยุคใหม่
- ปี 2007: ทางหนีฉุกเฉินที่โค้งรอกเจียได้รับการปูด้วยแอสฟัลต์
- ปี 2014: ทางหนีฉุกเฉินที่โค้งปาราโบลิกา (Parabolica curve) ได้รับการปูด้วยแอสฟัลต์เช่นกัน ทำให้รถสามารถใช้เส้นทางโค้งที่กว้างขึ้นได้
- ปัจจุบัน: สนามมีความยาวอยู่ที่ 5,793 เมตร (5.793 Km)
ที่มาของฉายา"Temple of Speed"
"วิหารแห่งความเร็ว" (Temple of Speed) เป็นฉายาของสนาม Autodromo Nazionale Monza ซึ่งมาจากลักษณะเฉพาะของสนามที่เป็นทางตรงยาวและโค้งที่ใช้ความเร็วสูง สนามดั้งเดิมสร้างในปี 1922 มีความยาว 10 กิโลเมตร ประกอบด้วยเส้นทางปกติและสนามรูปวงรีความเร็วสูงที่มีโค้งลาดชัน ออกแบบมาเพื่อให้นักแข่งทำความเร็วได้สูงสุดและคงที่ แม้ปัจจุบันสนามวงรีจะไม่ถูกใช้ในการแข่งขัน F1 แล้ว แต่สนาม Monza ก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ ทำให้เป็นสนามแข่งที่เร็วที่สุดในปฏิทิน Formula 1
ทางตรงยาวของสนาม อย่างทางตรงหน้าเส้นชัยและทางตรงที่มุ่งสู่โค้ง Parabolica ทำให้รถ F1 สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 350 กม./ชม. ด้วยลักษณะสนามที่เน้นความเร็ว ทีมแข่งจึงต้องปรับแต่งรถให้มีแรงกดอากาศต่ำเพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุด ทำให้สนามแห่งนี้เป็นที่รู้จักในนาม "วิหารแห่งความเร็ว" ในหมู่ผู้ขับขี่ ทีมแข่ง และแฟนๆ Formula 1
สถิติที่น่าสนใจของ F1 ในสนาม Monza
สถิติ Lap Records
- สถิติอย่างเป็นทางการ 1:21.046 นาที โดย Rubens Barrichello ในปี 2004 (ทีม Ferrari)
- รอบที่เร็วที่สุดตลอดกาล 1:18.887 นาที โดย Lewis Hamilton ในปี 2020 (ทีม Mercedes) ซึ่งเป็นรอบที่ทำความเร็วเฉลี่ยสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ F1 อยู่ที่ 264.362 กม./ชม.
shutterstock/Jay Hirano
ทีมที่ชนะมากที่สุด
- Ferrari: ชนะมากที่สุด 21 ครั้ง
- McLaren: 11 ครั้ง
- Mercedes: 9 ครั้ง
- Alfa Romeo: 8 ครั้ง
นักแข่งที่ชนะ และชนะมากที่สุด
- Michael Schumacher และ Lewis Hamilton ครองสถิติชนะสูงสุดที่ 5 ครั้ง เท่ากัน
- Michael Schumacher: (1996, 1998, 2000, 2003, 2006)
- Lewis Hamilton: (2012, 2014, 2015, 2017, 2018)
- นักแข่งคนอื่นๆ ที่ชนะมากกว่าหนึ่งครั้ง ได้แก่ Nelson Piquet, Alain Prost, Sebastian Vettel, Juan Manuel Fangio, Ayrton Senna และ Max Verstappen
สถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- สถิติ Pole Position : Lewis Hamilton ทำสถิติสูงสุด 7 ครั้ง
- สถิติ Pole Position: ทีม Ferrari ทำสถิติสูงสุด 23 ครั้ง
- สถิติขึ้นโพเดียม : ทีม Ferrari ทำสถิติสูงสุด 69 ครั้ง
ระยะทาง และจำนวนโค้งของสนาม Autodromo Nazionale Monza
ความยาวสนาม 5.793 กม. โค้ง 11 มี DRS โซน 2 โซน จำนวนรอบในการแข่งขัน 53 รอบ รวมระยะทางในการแข่งขัน 306.72 km กม. รวมจำนวนการเข้าโค้งตลอดการแข่งขั้นทั้งหมด 583 ครั้ง
ชื่อโค้งต่างของ Autodromo Nazionale Monza
- โค้งที่ 1-2 Variante del Rettifilo (วาเรียนเต้ เดล เรตติฟิโล) : โค้งชิเคนแรกสุดทางตรงหลักที่ยาว ซึ่งนักแข่งเบรกอย่างแรงด้วยความเร็วสูง
- โค้งที่ 3 Curva Grande (กูร์วา กรันเด) : โค้งขวาที่ยาวและเร็วซึ่งนำไปสู่ชิเคนถัดไป รู้จักกันในชื่อ Curva di Biassono
- โค้งที่ 4-5 Variante della Roggia (วาเรียนเต เดลลา รอกเจีย) : ชิเคนที่สองบนสนามแข่ง หลังโค้ง Grande
- โค้งที่ 6-7 Curve di Lesmo (กูร์เว ดี เลสโม) : โค้งซ้ายและขวาที่ท้าทายซึ่งต้องใช้การบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ
- โค้งที่ 8-10 Variante Ascari (วาเรียนเต อัสคารี) : โค้งชิเคนความเร็วสูงซ้าย-ขวา-ซ้าย ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่อัลแบร์โต อัสคารี นักขับรถในตำนาน
- โค้งที่ 11 Curva Alboreto (กูร์วา อัลโบเรโต) : โค้งขวายาวๆ โค้งสุดท้ายที่นำรถกลับเข้าสู่ทางตรงหลัก เดิมชื่อ Curva Parabolica (กูร์วา ปาราโบลิกา) แต่ได้เปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่นักแข่งชาวอิตาลี Michele Alboreto (มิเคเล อัลโบเรโต)
บทความที่คุณอาจสนใจ
- สนามแข่ง Formula 1 มีกี่สนามอยู่ประเทศอะไร ระยะทางเท่าไหร่ มีโค้งกี่จุด
- แรง G คืออะไร ทำไมสำคัญกับการแข่ง F1 นักขับต้องฝึกฝนร่างกายอย่างไร
- โปรแกรมฟอร์มูล่าวัน 2025 ลิ้งก์ดูสด เอฟวัน 2025 ถ่ายทอดสด F1 ผลเอฟวัน
- ไขปริศนาผ้าห่มวอร์มยาง Formula 1 ทำไมต้องห่มผ้า มีผลกับการแข่งอย่างไร
- รู้จัก Circuit Zandvoort สนาม Formula 1 ริมทะเล ประวัติศาสตร์ที่ห้ามพลาดก่อนชม
- ยางรถ Formula1 มีกี่แบบ ยาง f1 ใช้งานต่างกันอย่างไร ขนาดต่างกับรถอื่นขนาดไหน
- ประวัติทีม Scuderia Ferrari ม้าลำพองแห่ง Formula1 เคยได้แชมป์กี่สมัยนักขับระดับตำนานมีใครบ้าง
- ประวัติทีม Williams ทีมเก่าแก่ใน Formula1 จากยุครุ่งเรืองจนถึงยุคนักขับสายเลือดไทย
- ประวัติ Monaco Grand Prix ทำไมสนามแข่ง Circuit de Monaco แฟน Formula 1 ถึงตั้งตารอ
- เปิดค่าตัวนักแข่ง Formula1 ฤดูกาล 2025 แรงขนาดไหนใครยืนหนึ่ง