Sport Talk : "เจ" ชนาธิป กับ 50 ข้อมูลสถิติต้องรู้ หลังบู๊เจลีกครบ 100 นัด

KiTTiSaK

29 เมษายน 2564 ( 01:00 )

1.9K

หลังจากไปปรากฏตัวบนเวทีเจลีก ตั้งแต่ปี 2017 “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็ลงสนามให้กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในศึกฟุตบอลเจลีกครบ 100 นัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเกมที่ชนะ เวกัลตะ เซนได 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. 2564

ทั้งนี้ การได้ลงสนามในลีกมาตรฐานสูงอย่างเจลีกครบ 100 นัด ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่น่าปลื้มใจของชนาธิป และนี่คือ 50 สถิติและข้อมูลที่น่าสนใจของเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติไทยร่างเล็กรายนี้ ตลอดการลงโชว์ฝีเท้าในสมรภูมิเจลีก 100 นัดที่ผ่านมา (ข้อมูลถึง ณ วันที่ 24 เม.ย. 2564)

ชนาธิปเปิดตัวเป็นสมาชิกของคอนซาโดเล ซัปโปโร ในวันที่ 11 ก.ค. 2017 หลังย้ายมาจากเอสซีจี เมืองทอง ด้วยสัญญายืมตัว

ชนาธิปสัมผัสเกมเจลีกนัดแรก โดยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมที่ชนะ อุราวะ เรด ไดมอนด์ส 2-0 เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2017

จากเกมดังกล่าว ทำให้ ชนาธิป สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะไทยคนแรกที่ได้ลงเล่นบนเวทีเจลีก ปรบมืออออ...

แต่ก่อนลงสนามนัดนั้น ชนาธิป ประเดิมนัดแรกให้กับซัปโปโร ในศึกฟุตบอลถ้วย "ลูวาน คัพ" โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทน เรียวตะ ฮายาซากะ ในครึ่งหลังของแมตช์ที่พบกับ เซเรโซ่ โอซาก้า วันที่ 26 ก.ค. 2017

หลังจากโชว์ฟอร์มร้อนแรง ซัปโปโรตัดสินใจเซ็นสัญญาถาวรล่วงหน้าในเดือนก.ค. 2018 ก่อนที่สัญญาดังกล่าวจะมีผลและชนาธิปกลายเป็นแข้งซัปโปโรอย่างเต็มตัวในวันที่ 1 ก.พ. 2019

สัญญาฉบับปัจจุบันของ ชนาธิป กับ ซัปโปโร มีระยะเวลาถึงปี 2025

จากการลงเล่น 100 นัด ชนาธิปทำผลงานยิงได้ 14 ประตู กับอีก 16 แอสซิสต์

จาก 100 นัด ชนาธิปช่วยให้ซัปโปโรชนะ 39 เสมอ 24 และแพ้ 37
เฉลี่ยแล้ว เจ ช่วยพาทีมเก็บได้ 1.41 แต้มต่อเกม

ใน 100 นัด ชนาธิปใช้เวลาอยู่ในสนามรวมทั้งสิ้น 8,277 นาที

จาก 100 นัด ชนาธิปลงสนามเป็นตัวจริงถึง 98 นัด และลงเล่นในฐานะตัวสำรองแค่ 2 นัด

ในการลงเล่นเป็นตัวจริง 98 นัด ชนาธิป รับบทกองกลางตัวรุก 95 นัด ถูกดันขึ้นไปยืนกองหน้าตัวกลาง 2 นัด และถูกโยกออกไปเล่นปีกซ้าย 1 นัด

และจากการลงตัวจริง 98 นัด ชนาธิปอยู่ในสนามเล่นครบตลอดทั้งเกมเป็นจำนวน 61 นัด และถูกเปลี่ยนตัวออกระหว่างเกม 37 นัด

ประตูแรกที่ ชนาธิป ทำได้ในเจลีกมาจาก “ลูกโหม่ง” ในเกมที่เสมอกับ เซเรโซ่ โอซาก้า 3-3 เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2018

ในจำนวน 14 ประตูที่ชนาธิปทำได้ เป็นการยิงใส่ เซเรโซ่ โอซาก้า, วี-วาเรน นางาซากิ, เวกัลตะ เซนได, โชนัน เบลล์มาเร และ ชิมิสึ เอส-พัลส์ ทีมละ 2 ลูก บวกกับ เอฟซี โตเกียว, ฮิโรชิมา ซานเฟรซเซ, โยโกฮามา เอฟ มารินอส และ โยโกฮามา เอฟซี อีกทีมละ 1 ลูก

จาก 14 ลูกที่ยิงได้เป็นการยิงในครึ่งแรก 4 ลูก และยิงช่วงครึ่งหลัง 10 ลูก

และ 14 ประตูดังกล่าว มาจากเท้าขวาถึง 7 ลูก เท้าซ้าย 3 โหม่ง 3 และใช้บริเวณ "ท้อง" กระแทกบอลเข้าประตูอีกลูกนึง

ตามสถิติแล้ว ถ้าเกมไหนที่ชนาธิปยิงได้ เกมนั้น ซัปโปโร ไม่เคยแพ้

ส่วนแอสซิสต์ 16 ครั้งของชนาธิป เป็นการจ่ายให้ เจย์ โบธรอยด์ ยิงมากที่สุด 5 ประตู ตามมาด้วย มุซาชิ ซูซูกิ 4 ประตู

ในขณะเดียวกัน ในจำนวน 14 ประตูที่ชนาธิปยิงได้ มาจากการแอสซิสต์ของ เจย์ โบธรอยด์ มากที่สุด 3 ครั้ง

ชัยชนะขาดลอยที่สุดในเจลีกของชนาธิป คือการพาทีมบุกไปถล่ม ชิมิสึ เอส พัลส์ 8-0 เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2019 ซึ่งเกมนั้น เจ ระเบิดฟอร์มยิง 2 จ่าย 2

ส่วนความพ่ายแพ้ยับเยินที่สุดคือการออกไปโดน คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ขยี้ยับ 7-0 เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2018

ท่าดีใจ “ไซโก!” ที่เป็นเอกลักษณ์ของชนาธิป มีจุดเริ่มต้นมาจากคำแนะนำของเพื่อนร่วมทีม ทาคุมะ อาราโนะ ซึ่งบอกเจ้าเจให้ลองทำท่านี้ดู โดยเป็นท่าของ คาเมดะ ชิโร่ อดีตนักมวยชื่อดังของญี่ปุ่น

ไซโก เป็นภาษาท้องถิ่นของฮอกไกโด แปลว่า สุดยอด, เจ๋งมาก โดยแข้งช้างศึกวัย 27 ปีทำท่านี้ครั้งแรก หลังจากทำประตูให้ทีมชนะ วี-วาเรน นางาซากิ 2-1 เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2018 จนกลายเป็นท่าฮิตไปทั่วเมืองซัปโปโรกันเลยทีเดียว

ตลอดการลงเล่นเจลีก 100 นัดที่ผ่านมา ทีมคู่แข่งฝั่งตรงข้ามที่ ชนาธิป เจอบ่อยที่สุดคือ เอฟซี โตเกียว และ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ทีมละ 8 นัด

ปี 2017 เจ ลงเล่น 16 นัด ทำ 1 แอสซิสต์ และซัปโปโรจบอันดับ 11

ปี 2018 เจ ลงเล่น 30 นัด ยิง 8 แอสซิสต์ 2 และซัปโปโรจบอันดับ 4

ปี 2019 เจ ลงเล่น 28 นัด ยิง 4 แอสซิสต์ 1 และซัปโปโรจบอันดับ 10

ปี 2020 เจ ลงเล่น 18 นัด ยิง 1 แอสซิสต์ 5 และซัปโปโรจบอันดับ 12

ปี 2021 เจ ลงเล่นไปแล้ว 8 นัด ยิง 1 แอสซิสต์ 1 ส่วนซัปโปโรจบอันดับเท่าไร ต้องตามลุ้นกันต่อไป เพราะอีกนานกว่าจะจบซีซั่น

จากสถิติข้างบนจะเห็นว่าปี 2018 เป็นฤดูกาลที่ ชนาธิป ระเบิดฟอร์มได้ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้ดาวเตะทีมชาติไทยได้รับเลือกเป็น 1 ในผู้เล่นทีมยอดเยี่ยมของศึกเจลีก 2018 ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะอาเซียนคนแรกที่มีชื่อในทีมยอดเยี่ยมของลีกสูงสุดแดนปลาดิบ

การติดโผทีมยอดเยี่ยม เจ้าเจ ได้รับถ้วยรางวัลที่ทำจากคริสตัล พร้อมนาฬิกา Tag Heuer รุ่น Aqua Racer Carbon Calibre 5 มูลค่าประมาณ 130,000 บาท

ขณะเดียวกัน ชนาธิป มีชื่อติดเป็น 1 ใน 30 แคนดิเดทที่มีลุ้นรางวัลนักเตะ MVP หรือผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งฤดูกาล สุดท้ายนักเตะที่ได้รางวัลนี้ไปครอง คือ อากิฮิโระ อิเอนางะ กองกลางจากคาวาซากิ ฟรอนตาเล่

แม้จะพลาด MVP ของลีก แต่ ชนาธิป ได้รับเสียงโหวตจากแฟนบอลซัปโปโร คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรฤดูกาล 2018 พร้อมรับเงินรางวัล 1 ล้านเยน หรือกว่า 3 แสนบาท

นอกจากเสียงโหวตจากแฟนบอลแล้ว ชนาธิปยังคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรจากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย โดยจากนักเตะในทีมที่มีสิทธิโหวต 22 คน ปรากฏว่า เพื่อนๆเทคะแนนให้ “ชนาคุง” ถึงครึ่งนึง หรือ 11 คนเลยทีเดียว

ไม่เพียงผลงานในสนามเท่านั้น แต่ชนาธิปยังเป็นที่สนใจจากแฟนบอลในแง่ของประวัติและเส้นทางฟุตบอล จนถูกนำมาถ่ายทอดลงบนหนังสือการ์ตูน (มังงะ) จากการวาดของ สึคาสะ โอชิม่า เจ้าของผลงานการ์ตูนฟุตบอลยอดฮิตอย่าง "Shoot!" โดยการ์ตูนของ ชนาธิป มีชื่อเรื่องว่า Chanatip Monogatari - Be ambitious - ความหนา 65 หน้า ซึ่งสโมสรตีพิมพ์ออกมาแจกให้แฟนบอล 10,000 เล่ม

ชนาธิปยังไม่เคยได้สัมผัสแชมป์เจลีก หรือแชมป์ใดๆในญี่ปุ่น โดยโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดคือการเข้าชิงฟุตบอลถ้วยลูวาน คัพ 2019 ก่อนจะไปพ่ายจุดโทษ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ 4-5 หลังจากต่อเวลาเสมอกันอย่างดุเดือด 3-3 ในรอบชิงชนะเลิศ

เมื่อตอนย้ายมาซัปโปโรใหม่ๆ Transfermarkt ประเมินมูลค่าของ ชนาธิป ไว้ที่ 7 แสนยูโร ส่วนตอนนี้มูลค่าขึ้นไปอยู่ที่ 1.7 ล้านยูโร หรือเกือบๆ 63 ล้านบาท ซึ่งเป็นผู้เล่นที่มีมูลค่ามากที่สุดของซัปโปโร ส่วนอันดับสองคือ อากิโตะ ฟุกุโมริ 1.3 ล้านยูโร และอันดับสาม ไดกิ สึงะ 1.0 ล้านยูโร

หากนับรวมทั้งลีก มูลค่าของชนาธิปสูงเป็นอันดับ 15 ของฟุตบอลเจลีก โดยอันดับหนึ่งเป็น ลินคอล์น ดาวยิงของวิสเซล โกเบ 3.5 ล้านยูโร ตามด้วย ฌอง แมรี่ กองหน้าอวิสป้า ฟุกุโอกะ 3 ล้านยูโร และ อันเดรส อิเนียสต้า จอมเก๋าของวิสเซล โกเบ 2.5 ล้านยูโร

มูลค่าประเมินของ ชนาธิป เคยทะยานขึ้นไปสูงสุดที่ 2.4 ล้านยูโร หรือประมาณ 89 ล้านบาท เมื่อช่วงปลายปี 2019

เว็บไซต์ soccer-money.net เผยว่า ชนาธิป รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ปีละ 40 ล้านเยน หรือประมาณ 11.65 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วตกเดือนละเกือบๆ ล้านบาทเลยทีเดียว

ตั้งแต่ค้าแข้งในเจลีกมา ชนาธิปเคยโดนแบนครั้งเดียว เมื่อเดือนส.ค. 2018 โดยถูกห้ามลงสนาม 1 นัดจากการสะสมครบ 4 ใบเหลือง

ในเวทีเจลีก ชนาธิป โดนผู้ตัดสินแจกไปแล้ว 10 ใบเหลือง แต่ยังไม่เคยโดนใบแดง หรือเหลือง-แดง

ส่วนเรื่องสภาพร่างกาย ชนาธิปเคยเจ็บพักยาวที่สุด คือการเจ็บกล้ามเนื้อฉีกแฮมสตริงเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ เจ ต้องพักลงสนามไปนานกว่า 1 เดือน ช่วงระหว่างเดือนก.ย. - ต.ค. 2020

ในการค้าแข้งที่เจลีก ชนาธิปผ่านการร่วมงานกับกุนซือมาแล้ว 2 คน โดยคนแรกคือ ชูเฮ โยโมดะ ซึ่ง ชนาธิป ได้ร่วมงานในช่วงเลกสองของฤดูกาล 2017 หลังเพิ่งถูกยืมตัวมาจากเมืองทอง

โค้ชคนต่อมาคือ มิไฮโล เปโตรวิช ที่เข้ามานั่งเก้าอี้กุนซือต่อจาก โยโมดะ ในซีซั่น 2018 ซึ่ง เปโตรวิช ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ชนาธิป งัดฟอร์มเก่งออกมา และเฮดโค้ชชาวเซิร์บวัย 63 ปีรายนี้ ก็ยังคงนั่งแท่นกุนซือในถิ่นซัปโปโร โดม มาจนถึงปัจจุบัน

ชนาธิป ปะทะแข้งทีมชาติไทยบนเวทีเจลีกมาแล้ว 3 คน คือ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซล โกเบ & โยโกฮามา เอฟ มารินอส) “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา (ชิมิสึ เอส พัลส์ & ซานเฟรชเซ ฮิโรชิมา) และ “นิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (โออิตะ ตรินิตะ)

เจ ลงสนามบู๊กับ ธีราทร ในเกมเจลีกมาแล้ว 5 นัด ทั้งสมัยที่อยู่กับโกเบ และ มารินอส ปรากฏว่า "พี่อุ้ม" ชนะ 3 ส่วน "น้องเจ" ได้เฮ 2 นัด

เจ ลงสนามปะทะ ธีรศิลป์ 3 นัด ผลที่ออกมาคือ เสมอกัน 1 นัด และ “พี่มุ้ย” ชนะ 2 นัด

ส่วนการเจอกับ ฐิติพันธ์ 2 นัด ปรากฏว่า “เพื่อนนิว” เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ทั้ง 2 ครั้ง

นั่นคือ 50 สถิติและข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจของชนาธิป ตลอดการลงโชว์ฝีเท้าในสังเวียนเจลีก 100 นัดที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ เพลย์เมกเกอร์เลือดสยามพร้อมที่จะสร้างสถิติอีกมากมายให้แฟนบอลซัปโปโร รวมถึงแฟนบอลไทยได้ปลาบปลื้มกันอีกแน่นอน

และที่สำคัญ นี่คือตัวอย่างหรือแรงบันดาลใจชั้นดีที่ทำให้นักฟุตบอลไทย หรือไม่ว่าใครก็ตามได้เห็นว่า หากคุณมุ่งมั่น ตั้งใจ มีวินัยและไม่ยอมแพ้ คุณก็สามารถที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เพื่อไปพุ่งชนเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แน่นอน

เหมือนกับที่ดาวเตะเจ้าของความสูง 157 เซนติเมตรจากนครปฐมคนนี้ สร้างผลงานสั่นสะเทือนศึกฟุตบอลเจลีกมาแล้ว..."เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์