ประหยัดงบ!! สื่อเผย แมนยู จะซื้อนักเตะใหม่ รายละไม่เกิน 50 ล้านปอนด์

แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวเรื่องปัญหาทางการเงินมาโดยตลอด แม้ว่าสโมสรจะมีรายได้สูง แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน โดยในช่วงที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารของกลุ่ม INEOS ของ เซอร์ จิม แร็ทคลิฟฟ์ ผู้ถือหุ้นร่วมของทีมปีศาจแดง ได้มีการปรับโครงสร้างสโมสรไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตัดงบประมาณที่เกินความจำเป็น หรือการประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก เพื่อทำให้องค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้น
ล่าสุด รายงานจาก เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวชื่อดังของ ดิ แอธเลติก ได้ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะใช้แผนซื้อนักเตะใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้ในรายละไม่เกิน 50 ล้านปอนด์ หรือราว 2,201 ล้านบาทเท่านั้น จากปัญหาเรื่องความมั่นคงทางการเงิน โดยระบุว่า "แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังวางแผนในเรื่องการเสริมทัพ ซึ่งการได้เข้าชิงแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก หรือการขายนักเตะบางส่วนออกไป จะมีผลกระทบต่องบประมาณโดยตรง"
"แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีความเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะแน่นอน แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการทุ่มเงินก้อนโตกับนักเตะระดับสตาร์ อย่างที่เคยผ่านมาในอดีต ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถใช้เงินจำนวนมากได้ แต่าดูเหมือนว่าพวกเขาจะชื่นชอบแนวทางในช่วงที่ผ่านมา นั่นคือการเล็งหาผู้เล่นดาวรุ่งที่มีค่าตัวและค่าเหนื่อยที่ไม่สูงเกินไป ซึ่งเหมาะกับสไตล์การคุมทีมของ รูเบน อาโมริม มากกว่า อีกทั้งนักเตะเหล่านี้ยังพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาและสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกในอนาคต"
"ดังนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีการเสริมทัพแน่นอน แต่อาจจะไม่ได้เลือกผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงอย่าง วิคตอร์ โยเคเรส หรือ วิคเตอร์ โอซิเมน แน่นอนว่านี่เป็นแค่การคาดการณ์ แต่วงการฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมีแนวทางที่จะทำในสิ่งที่กล่าวไปในข้างต้น"
ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะต้องมีการเสริมทัพอีกหลายตำแหน่ง ตามความต้องการของ รูเบน อาโมริม กุนซือของทีมที่กำลังเตรียมตัวคุมทีมแบบเต็มซีซั่นเป็นครั้งแรกในฤดูกาลหน้า หลังเข้ามารับคุมทีมกลางฤดูกาลต่อจาก เอริค เทน ฮาก ที่ถูกปลดออกไป และต้องเจอกับปัญหามากมาย