รีเซต
TRUE TALK : จับตาเรื่องเด็ดในไทยลีก 9 เกมสุดท้าย ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

TRUE TALK : จับตาเรื่องเด็ดในไทยลีก 9 เกมสุดท้าย ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

TRUE TALK : จับตาเรื่องเด็ดในไทยลีก 9 เกมสุดท้าย ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"
kentnitipong
31 กรกฎาคม 2561 ( 23:08 )
1.8K

เดินทางมาเป็นลำดับจนมาถึงช่วงทางตรงสุดท้ายกับเส้นทางที่นับได้พอด้วยนิ้วมือ…

 

 

25 เกม คือจำนวนนัดที่ลงสนามไปแล้วสำหรับทุกทีมในลีก เหลือบดูโปรแกรมในตอนนี้มีโอกาสให้ปรับ ให้วางแผนกันอีกเพียง 9 เกมเท่านั้น เป้าหมายของทุกทีมยังมีชัดเจนกว่าครึ่งยังมีเดิมพันสำคัญให้ได้ลุ้น ส่วนตัวผมว่ามีอย่างน้อย 8 ทีมที่ยังต้องลุ้นหนีตกชั้นแล้วแต่ความเข้มบางของดีกรีกระเสือกกระสน หลายทีมี่ดูแน่นิ่งกลับฟื้นคืนมา จนมีทีมใหญ่เก่าแก่ชักเสียท่าเพิ่ม

ทว่าทุกอย่างคาดเดายากขึ้นไปอีกเมื่อ ตัวแปร ซึ่งทีแรกไม่ได้เป็นตัวแปรกำลังมาถึงนั่นคือฟุตบอลไทยเบรกอีกแล้วกับมหกรรมกีฬาอย่าง “เอเชี่ยนเกมส์” ซึ่งเป็นเรื่องเสียท่าของสมาคมในฤดูกาลนี้เพราะใครก็จำได้ว่าทีแรกท่านประกาศว่าไม่หยุดนะ เราเองก็ชื่นชมยินดีจนสุดท้ายกลับลำหยุดดีกว่า

แต่เอาเถอะของมันแก้ไม่ได้ตอนนี้ไปคาดการณ์กันว่าช่วงเวลาที่เหลือมีเรื่องไหนที่น่าจับตากันบ้าง

 

ศึกชิงเก้าอี้ Runner Up

ด้วยเหตุผลหลายประการเข้าทางการป้องกันแชมป์ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปีนี้ ทำให้ช่องว่างของจ่าฝูงหลังผ่าน 25 เกม มีมากถึง 9 แต้มนั่นแปลว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สะดุดหน้าคว่ำได้ถึงสามเกมติดต่อกันแล้ว ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ชนะรวดแต้มจึงจะกลับมาเท่ากัน กระนั้นก็ไม่พอที่จะทำให้แชมป์เปลี่ยนมือเพราะ เฮดทูเฮด ดีกว่า เพราะเลกแรกบุกไปยันเสมอ แข้งเทพ ที่ธรรมศาสตร์รังสิต ก่อนปิดประตูตีแมว 2-1 ที่ “ช้างอารีน่า”

เท่ากับว่านาทีนี้ บุรีรัมย์ ต้องแพ้ 4 เกมแล้ว ทรู แบงค็อก ชนะรวด 4 เกม สถานการณ์ลุ้นแชมป์จึงจะพลิกได้ในช่วง 9 เกมหลัง คุณว่าจะเกิดขึ้นไหมหล่ะ

ไล่เรียงดูโปรแกมผนวกบวกเข้ากับแต้มที่เกิดขึ้นการตามที่ 1 ไม่สนุกเท่าศึกชิงที่ 2 หรือฝรั่งชอบเรียกให้เจ็บใจว่าเป็น Runner Up บ้าง First Loser บ้างละ ในไทยลีกตอนนี้มีทีมเข้าข่ายร่วมจัดอัดดับกันถึง 5 ทีม

เต็ง 1 สำหรับอันดับที่ 2 ผมมองที่ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ว่าไปในรอบสามปีที่ผ่านมาปีนี้ ทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง ถือว่ามีมาตรฐานสม่ำเสมอที่สุดแล้ว แพ้แบบไม่ควรแพ้ตายตกม้าไปเองน้อยมากกว่าเพิ่มประตูที่เล่นด้วยเท้าได้ เหนียวแน่นเข้ามาถือเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุดเช่นกันกับทัศนคติในการเล่นเน้นเอนเตอร์เทนแต่เน้นผลการแข่งขันไปด้วยได้ประกอบกับแนวรุกที่ทำประตูได้ต่อเนื่องพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาติดท็อปทั้งจำนวนประตูได้ และเสีย

โดยเฉพาะแข้งไทยที่ยิงได้มากที่สุดในไทยลีก สุมัญญา ปุริสาย ยังเสีย 9 เกมที่เหลือหากไม่ธาตุไฟเข้าแทรกรองแชมป์ไม่ไปไหนแน่ๆ จะให้สะใจปีหน้าก็หาหน้าเป้าแท้ๆ มาเพิ่มมิติแนวรุกอีกสักหน่อยน่าจะพอใกล้เคียงแชมป์มากขึ้น

อันดับ 3 และ 4 นั่นคือ การท่าเรือ เอฟซี ที่ตามหลัง ทรู แบงค็อก 6 แต้ม แต่นำ เอสซีจี เมืองทอง 3 แต้ม ถือเป็นม้าแข่งที่ยังมีโอกาสพลิกกันได้ สิงห์ เจ้าท่ามาดีมากด้วยขุมกำลังที่พร้อมสรรพแต่ปรับเปลี่ยนไม่ลงตัวหนักเมื่อขาดจอมทัพอย่าง เซร์คิโอ้ ซัวเรซ ขาดทีไรขาดใจเสมอยิ่งช่วงนี้มีลุ้นหลายถ้วยคงต้องตามว่าผ่านพุธนี้ไป ซัวเรซ จะเหลือสภาพขนาดไหนหากเจ็บซ้ำอีกก็ไม่แน่อาจมีหลุดวงโคจร บางทีตอนนี้ ท่าเรือ อาจมองทางลัดเรื่องไปฟุตบอล เอเชีย กับเกมบอลถ้วยไปแล้วก็ได้

อย่างไรก็ตามต้องลุ้นให้ผู้ตามมีอีกสักก็อก เพราะอันดับที่ 4 อย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด Squad เล็กกว่ากันเยอะ ณ นาทีนี้ที่ใช้ได้จริงเปลี่ยนลงมาเป็น 11 คนในสนามแล้วไม่มีผลแตกต่างกันมากนักดูจะมีสัก 13 รายเท่านั้นซึ่งน้อยเกินไป แต่ความเด็ดขาดของ เดอะ แบก เฮร์แบร์ตี้ แฟร์นานเดส ประกอบกับความเก๋าของตัวหลักน่าจะพอประคับประคองไปได้ไม่แน่หากผู้นำเสียท่าการปาดหน้าขยับอันดับ

ขณะที่ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กับ พีที ประจวบ เอฟซี แรงบันดาลใจในการขยับอันดับอาจไม่มากนักทีมแรกประกาศไปแล้วขอเอาดีในบอลถ้วยส่วนทีมหลังหากจบฤดูกาลแบบนี้ก็กำไรมากแล้ว

 

เบรก เอเชี่ยนเกมส์ จุดเปลี่ยน ไทยลีก ?

พูดถึงเรื่องที่กำลังจะมาถึงในเดือนสิงหาคมนั่นคือ “เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18” แข่งขันกันที่ อินโดนีเซีย ทีม 18 ทีมในไทยลีก ได้รับผลกระทบกันไปบ้างมากน้อยต่างกันไปพวกมีผลเยอะก็ทีมที่มีนักเตะไปเล่นเองนั่นแหละป่านนี้คงลุ้นกันว่าไปสภาพไหนกลับมาแบบไหนยิ่งสถานการณ์ของทีมไม่ดีด้วยแล้วอกสั่นกันทีเดียว

ส่วนทีมที่กำลังโมเมนตัมกำลังมาเจอเบรกยาวๆ ไปร่วมเดือนแบบนี้เลือกได้พวกเขาคงไม่อยากเบรก ที่ชัดเจนเลยก็คง บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ 5 เกมหลังชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 พรวดพ้นน้ำได้สูดอากาศหายใจในโซนปลอดภัยได้แล้ว แต่ต้องมาเบรกคงต้องทำใจแล้วดูกันว่าทีมงานบริหารและโค้ชจุ่น อนุรักษ์ ศรีเกิด มีศาสตร์อะไรมาใช้ในการรักษามาตรฐานที่ดีแบบนี้เอาไว้ให้ได้

ส่วนทีมที่น่าจะได้ประโยชน์ไปเต็มๆไม่พ้น สุพรรณบุรี เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี กลุ่มนี้คงพอยิ้มออกอย่างน้อยก็พักหายใจกันก่อนค่อยปรับกันใหม่ว่า 9 เกมสุดท้ายจะออกมาแบบไหน

 

หรือทีมใหญ่จะตกชั้นจริงๆ

เข้าเรื่องตกชั้น 5 ทีมในปีนี้ ซึ่งเล่นไปเล่นมาผมชักแอบชอบแล้วนะในความซาดิสม์แบบนี้อย่างแรกที่สุดเราไม่ค่อยเห็นเกมเล่นฆ่าเวลาเหมือนที่ผ่านๆ มา เจอกันประจำคือพวกรอดตกชั้นแล้ว กลางตารางแบบอันดับขึ้นลงไม่มีผลหลายครั้งพบกัน ก็เล่นกันไม่สนุกแต่ด้วยเกณฑ์ตกชั้น 5 ทีมทำให้กว่าครึ่งของโปรแกรมแต่สัปดาห์ตอนนี้ยังออกรสทั้งสิ้น

จากที่เคยนำเสนอไปแล้วหากนำตารางคะแนนในฤดูกาลที่ผ่านๆ มา นับเฉพาะปีที่ลงสนามเท่ากับฤดูกาลนี้ตัดวงตกชั้น 5 ทีม จะออกมาแบบนี้ครับ

2017 จำนวนทีม 18 ทีม ลงสนามทีมละ 34 นัด อันดับ 13 ราชนาวี 40 คะแนน
2015 จำนวนทีม 18 ทีม ลงเล่นทีมละ 34 เกม อันดับที่ 13 ศรีสะเกษ 36 คะแนน
2012 จำนวนทีม 18 ทีม ลงเล่นทีมละ 34 เกม อันดับที่ 13 วัวชน ยูไนเต็ด 41 คะแนน

แต้มน้อยที่สุดที่รอดตายมาได้คือ 36 แต้มในปี 2015 มากที่สุดคือ 41 แต้ม ในปี 2012 เท่ากับว่ากำแพง 40 แต้ม ยังเป็นเกณฑ์ที่พอเบาใจได้ในฤดูกาลนี้ทว่าหนทางที่จะไปให้ถึง 40 แต้ม

40 คะแนนคิดง่ายแบบไม่ต้องคำนวนมาก คุณชนะ 13 เกม เสมอ 1 ขอแค่เท่านี้อยู่รอด แล้วกับ 9 เกมที่เหลือหลายทีมยังเหนื่อยกับโจทย์นี้ ที่สำคัญกำหนดไม่ได้ด้วยว่าจะมีทีมละกี่แต้ม กางตารางตอนนี้ กลุ่มไม่เกิน 30 แต้มมีอยู่ 7 ทีม มี 32 แต้ม คือ ชัยนาท 1 ทีม 35 แต้ม อีก 4 ทีม

ขณะที่อันดับสุดท้ายที่จะตกชั้นหากแต้มหยุดตรงนี้คือ สุพรรณบุรี 29 แต้ม กลุ่มต่ำกว่า 30 แต้มเฉลี่ย 25 เกมพวกเขามีแค่ 1.2 แต้มต่อเกมเท่านั้น ขณะที่ 35 แต้ม ก็ไม่ต่างเฉลี่ยเกมละ 1.4 หากรักษามาตรฐานได้ก็สบายไป หากแต่ต่ำมีนมีแพ้พลิกคงต้องว่ากันยาว

มองมุมร้ายเราอาจได้เห็นทีมใหญ่พลาดท่า แอร์ฟอร์ซ ฟอร์มกระเตื้องแล้วแต่ตามห่างเหลือเกินยังคงรอดยาก แม้ส่วนตัวจะชื่นชม และเอาใจช่วยเป็นพิเศษ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ก็ทรงๆ ไม่โดดเด่นนักแม้การเล่นในสนามจะน่าเชียร์มากก็ตาม ตามด้วย ราชนาวี ทีมที่เปลี่ยนแปลงมากเหลือเกินตลอดฤดูกาลนี้ พูดกันตรงๆ ที่ตัวเลขสามทีมนี้เหนื่อยหนักมากหากอยากรอดจริงๆ เพราะต้องชนะอย่างเดียว และยากขึ้นไปอีกคือลุ้นให้ข้างบนแพ้รวดหลายทีมๆ ไม่รู้เลยเรื่องไหนยากกว่ากัน

กลุ่มที่เข้าข่ายลูกผีลูกคนรอดไหมก็ไม่รู้มีเยอะ ทั้ง สุพรรณบุรี ของผู้ชำนาญการหนีตกชั้น ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก, สุโขทัย ของโค้ชหนุ่ย เฉลิมวุฒิ สง่าพล ที่ตกม้าตายประจำท้ายเกม โปลิศ เทโร เอฟซี ของโค้ชแบน ธชตะวัน ศรีปาน ที่ไม่ชนะใครมาแล้ว 8 เกมหลังแถมชนะแค่ครั้งเดียวจาก 11 เกมหลังสุด รวมทั้ง บางกอกกล๊าส ทีมฟอร์มสามวันดีสี่วันฟื้น และชัยนาท ที่ชักเริ่มแผ่ว

ทั้งหมดนี้ยังต้องลุ้นกันหนักในทุกเกมไปตลอด ไม่แน่นะครับก่อนจบลีกเราอาจเจอไข้เด้งอีกสักคน 2 คนก็ได้

“ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์”

 

อัพเดท ตลาดซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก 2018/19

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้