รีเซต
โยฮัน ซิวดู : จากเด็กเสิร์ฟสู่ผู้ก่อตั้งบริษัทจัดทริปสุดหรูให้แข้งซูเปอร์สตาร์ช่วงปิดฤดูกาล | Main Stand

โยฮัน ซิวดู : จากเด็กเสิร์ฟสู่ผู้ก่อตั้งบริษัทจัดทริปสุดหรูให้แข้งซูเปอร์สตาร์ช่วงปิดฤดูกาล | Main Stand

โยฮัน ซิวดู : จากเด็กเสิร์ฟสู่ผู้ก่อตั้งบริษัทจัดทริปสุดหรูให้แข้งซูเปอร์สตาร์ช่วงปิดฤดูกาล | Main Stand
เมนสแตนด์
31 กรกฎาคม 2565 ( 22:00 )
280

"ถ้าคุณเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินและอยากไปเวกัส มันจะมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 20,000 เหรียญ (ราว 726,530 บาท) สำหรับค่าความบันเทิง และอีก 20,000 เหรียญสำหรับค่าโรงแรม" 

 


เมื่อฤดูกาลของฟุตบอลรูดม่านลง ก็ถึงเวลาแห่งการปลดปล่อยของเหล่านักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ และหลายคนก็เลือกที่จะดื่มด่ำกับทริปสุดหรูอย่างเต็มที่ ทั้งอาบแดด ปาร์ตี้บนเรือยอร์ช ไปจนถึงเสี่ยงโชคที่ลาสเวกัส 

สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนธรรมเนียมของพวกเขาที่ทำกันเป็นประจำทุกปี ทว่าคำถามคือเหล่าแข้งดังที่เต็มไปด้วยภารกิจรัดตัววางแผนทริปสุดฟุ่มเฟือยเหล่านี้อย่างไร ? 

โยฮัน ซิวดู คือคำตอบนั้น ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกับ Main Stand 

 

บริษัทจัดทริปในฝัน 

นักฟุตบอล อาจจะเป็นอาชีพที่มีรายได้สูง โดยเฉพาะแข้งในลีกใหญ่ในยุโรป ทว่ามันก็แลกมาด้วยการต้องใช้ร่างกายอย่างหนัก ลงเล่นติดต่อกัน 8-9 เดือนต่อปี ทำให้ในช่วงปิดซีซั่นพวกเขาจึงต้องปลดปล่อยกันอย่างเต็มที่


Photo : instagram.com/johnny1vegas

มันกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่เป็นภาพจำของนักฟุตบอลในช่วงหน้าร้อน ที่มีตั้งแต่ อาบแดดที่อิบิซ่า ปาร์ตี้บนเรือยอร์ชหรือเรือสำราญในทะเลเมดิเตอเรเนียน ไปจนถึงบินลัดฟ้าด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปเสี่ยงโชคที่บ่อนในลาสเวกัส 

ทว่าแทบไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่อำนวยความสะดวกที่ทำให้เกิดทริปเหล่านี้ได้มาจากบริษัทที่มีพนักงานเพียงแค่ 10 คนที่มีชื่อว่า Kloudout ที่มี โยฮัน ซิวดู เจ้าของฉายา "จอห์นนี่ เวกัส" เป็นผู้ก่อตั้ง 

ซิวดู อธิบายว่าพวกเขาคือ "บริษัทจัดการไลฟ์สไตล์ระดับโลก" ที่รับวางแผนและออกแบบวันหยุดสุดหรูให้กับเหล่านักกีฬาชื่อดัง โดยเฉพาะนักฟุตบอล ทั้ง โรเมลู ลูกากู ดาวยิง อินเตอร์ มิลาน, เวสตัน แม็คเคนนี่ แข้งทีมชาติสหรัฐอเมริกาของ ยูเวนตุส หรือ อโยเซ่ เปเรซ กองหน้า เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นต้น 


Photo : instagram.com/johnny1vegas

"สิ่งที่เราทำคือออกแบบและวางโครงสร้างสำหรับวันหยุดของพวกเขาทั้งตอนที่มาถึงและกลับไป งานของพวกเราคือทำให้พวกเขาแน่ใจว่าพวกเขาจะไม่เครียดและไม่ต้องกังวลอะไรเลย เพราะว่าพวกเขาไม่ได้มีเวลามากพอที่จะศึกษาและวางแผนในทุกรายละเอียด" ซิวดู กล่าวกับ Mirror

"นั่นเป็นดินแดนที่เราเข้าไป แบรนด์และทีมของผมจะทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะสะดวกและง่ายสำหรับพวกเขา โดยพื้นฐานแล้วเราแค่ทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น" 

บริษัทของเขาสามารถหามาได้ทั้งเครื่องบินเจ็ต เรือยอร์ช โรงแรมสุดหรู ไนท์คลับ ภัตตาคาร แล้วแต่ลูกค้าจะร้องขอ ไม่ว่าจะเวลาจะกระชั้นชิดแค่ไหนก็จะอยู่คอยดูแลตั้งแต่ต้นจนจบแบบไม่ขาดตกบกพร่อง 


Photo : instagram.com/johnny1vegas

"ถ้าคุณเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินและอยากไปเวกัส มันจะมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 20,000 เหรียญ (ราว 726,530 บาท) สำหรับค่าความบันเทิง และอีก 20,000 เหรียญสำหรับค่าโรงแรม" ซิวดู กล่าวกับ The Athletic 

"คุณอาจมองไปที่แพคเกจ 40,000 - 50,000 เหรียญ (ราว 1.4-1.8 ล้านบาท) สำหรับ 4 วัน ถ้าคุณมาจากแอลเอ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,000-9,000 เหรียญ (ราว 200,000–320,000 บาท) แต่ถ้าคุณมาจากยูเค มันจะประมาณ 100,000-200,000 เหรียญ (ราว 3.6-7.2 ล้านบาท) ผมแนะนำให้พวกเขาบินแบบชั้นหนึ่งมาที่นี่ จากนั้นเราค่อยปรับแผนกัน" 

อย่างไรก็ดีไลฟ์สไตล์เหล่านี้แตกต่างจากชีวิตในวัยเด็กของซิวดูราวฟ้ากับเหว 

 

จากเอธิโอเปียสู่เวกัส 

หากลองส่อง Instagram ของซิวดูจะพบว่าเขามีชีวิตที่หวือหวา ทั้งได้เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ขับรถซูเปอร์คาร์ หรือล่องเรือยอร์ช ไม่ต่างจากชนชั้นสูง แต่ชีวิตที่น่าอิจฉาเหล่านี้ห่างไกลจากชีวิตของเขาตอนอยู่ที่แอฟริกา 

เขาเกิดและเติบโตที่กรุงแอดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย อาศัยอยู่ในบ้านที่เขาบอกว่าเล็กเหมือนกับตู้เสื้อผ้า พร้อมกับสมาชิกในครอบครัวรวมกันถึง 8 ชีวิต 


Photo : instagram.com/johnny1vegas

"ผมโตมาในเอธิโอเปีย มันเป็นประเทศโลกที่ 3 ที่ชีวิตไม่ได้หรูหราเหมือนอยู่ในโลกนี้" ซิวดู กล่าวกับ Mirror

"ผมโตมาจากข้างถนน ผมไม่มีรองเท้า เสื้อผ้าของผมขาด เราอาศัยอยู่ในบ้านที่เหมือนกับตู้เสื้อผ้าที่ต้องนอนอัดกันถึง 8 คน" 

ทว่าวันหนึ่งโอกาสก็มาหาเขาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อพ่อของเขาได้รับทุนไปเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา และทำให้ ซิวดู ได้มาเปิดหูเปิดตาในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในฐานะผู้ติดตามของพ่อ 

"พ่อของผมมีโอกาสได้มาอเมริกา อเมริกามีสิ่งที่เรียกว่า 'DV' (The Diversity Visa Program) ซึ่งเป็นเหมือนล็อตเตอรี ที่พวกเขาแจกเพื่อให้การศึกษาแก่คนในประเทศอย่างเอธิโอเปีย พ่อของผมสมัครไปและถูกรางวัล พวกเขาให้ผมมาอเมริกาตอนที่ผมอายุราว 9-10 ขวบ" ซิวดู กล่าวกับ The Athletic 

"เราลงเครื่องที่สนามบินลอสแอนเจลิสแล้วถูกพาไปบ้านใหม่ที่เวกัส ผมจำรถทุกคันที่ขับผ่านบนทางด่วนได้ ซึ่งมันเหนือจริงมาก มันคือคัลเจอร์ช็อกอย่างสมบูรณ์ ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้จึงปรับตัวยากมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมีเหมือนกับเด็กคนอื่นคือความรักในกีฬา" 

กีฬาที่ซิวดูหลงใหลมาตั้งแต่เด็กคือฟุตบอล เขาชื่นชอบเกมลูกหนังมาตั้งแต่อยู่ที่เอธิโอเปีย และยังคงเล่นต่อตอนย้ายมาอยู่สหรัฐฯ แต่น่าเศร้าที่อาการบาดเจ็บทำให้เขาต้องตัดใจจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ 


Photo : instagram.com/johnny1vegas

"ผมคิดเสมอว่าผมอยากเป็นนักฟุตบอลชื่อดัง ผมเก่งนะตอนมัธยมปลาย แต่โชคร้ายที่ผมมีปัญหาที่หัวเข่าและต้องผ่าตัดหลายครั้ง และมันก็ทำให้ผมไม่สามารถทำตามฝันต่อได้" ซิวดู บอกกับ Mirror

หลังจบมัธยมปลายเขาจึงเบนเข็มไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย พร้อมกับทำงานพิเศษเป็นพนักงานเสิร์ฟที่โรงแรมเบลลาจิโอ โรงแรมชื่อดังในลาสเวกัส 

"นั่นคือตอนที่ผมพบว่าจริง ๆ แล้วผมอยากเป็นอะไร" เขาย้อนความหลัง

"การได้ทำงานในที่แบบนั้นทำให้ผมได้เห็นสิ่งที่ผมไม่เคยนึกภาพมาก่อน (ฟลอยด์) เมย์เวทเธอร์ มาพร้อมกับรถทุกคันของเขา นักแสดงและนักกีฬารุ่นใหญ่อย่าง ไมเคิล จอร์แดน, ไทเกอร์ วูดส์, เลโอนาร์โด ดิ คาปริโอ คนแบบนั้นต่างเข้ามาและจากไป มันเป็นเรื่องที่เกินความเป็นจริงมาก" 

ท่ามกลางเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่มาเยือน มีลูกค้าชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อว่า คามาล ที่ซิวดูได้คุยด้วย ก่อนที่มันจะเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล 

 

เพื่อนรักนักฟุตบอล 

"วันหนึ่งมีชายชาวฝรั่งเศสมาที่เบลลาจิโอ ตอนนี้เขาเป็นดาราภาพยนตร์แล้ว แต่ตอนนั้นเขาเป็นแค่ชายธรรมดาคนหนึ่ง ผมสังเกตว่าเขาเป็นคนฝรั่งเศสจึงนึกสนุกทักทายเขาไปว่า 'Bonjour' หลังจากนั้นเขาก็พูดฝรั่งเศสกลับมา ซึ่งตลกมากเพราะผมพูดฝรั่งเศสไม่เป็น" ซิวดู บอกกับ The Athletic 

"หลังจากเราหัวเราะกัน ผมก็บอกเขาว่านักเตะที่ผมชอบมากที่สุดคือ ฟรองค์ ริเบรี่ เขาตกใจมากเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกัน เขาเปิดมือถือแล้วเอาวิดีโอให้ผมดู เขาบอกว่าถ้าครั้งหน้าเขามาเวกัสเขาจะเอาเสื้อพร้อมกับลายเซ็นมาให้ ผมบอกว่าขอบคุณมากแต่มันคือเวกัส ผู้คนชอบพูดแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ผมจึงไม่ได้เชื่อที่เขาพูดนัก" 

หนึ่งปีผ่านไป ซิวดู ย้ายไปอยู่โรงแรมอื่นและได้ยินว่ามีคนกำลังตามหาเขา ซึ่งก็คือ คามาล ลูกค้าชาวฝรั่งเศสคนนั้น ที่มาพร้อมกับเสื้อพร้อมลายเซ็นตามคำสัญญา 

"เขาหาผมเจอและผมก็ตกใจมาก ผมแทบไม่เชื่อว่าคนแบบนั้นจะรักษาคำพูด และช่วงเวลานั้นก็ช่วยทำให้ผมเป็นผมอย่างในวันนี้เช่นกัน" ซิวดู กล่าวกับ Mirror

"มันแสดงให้เห็นว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อมีบางคนทำบางอย่างให้และรักษาสัญญา ผมนำสิ่งนั้นมาปรับใช้กับชีวิตและปฏิบัติกับคนอื่นเสมอ" 

"ตอนที่เขากลับไป ผมบอกเขาว่า 'ถ้าคุณต้องการอะไรในลาสเวกัสผมจะหามาให้ ไม่ต้องกังวลอะไร' เขาแค่พูดกลับมาว่า 'โอเค แน่นอน'" 


Photo : instagram.com/johnny1vegas

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา คามาล ก็ส่งข้อความมาหาเขา บอกให้ช่วยหาห้องพักในลาสเวกัสให้เพื่อนเขาหน่อย เขาจึงจองโรงแรมที่เขาทำงานโดยใช้ส่วนลดพนักงาน และขอหัวหน้าอัปเกรดห้อง โดยเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนต่างเอง 

"เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่ผมดูแล พวกเขาตกใจมาก พวกเขาแทบไม่เชื่อในสิ่งนี้ เขาบอกว่า 'ไม่กี่เดือนข้างหน้าผมจะมีอีกเซอร์ไพรส์ให้คุณ แล้วผมจะติดต่อมาใหม่'" ซิวดู กล่าวต่อ 

ผ่านไปอีกหลายเดือนก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรมาที่บ้านตอนที่เขากำลังดูทีวีอยู่ ตอนแรกเขาเกือบจะไม่รับ แต่แม่ของเขาก็ไล่ให้ไปรับ และพบว่าคนปลายสายขอให้เขาช่วยจัดทริปที่ลาสเวกัสให้หน่อย 

ซิวดูตกปากรับคำ ก่อนที่จะรู้ว่าคนที่เขากำลังคุยอยู่คือ ซามีร์ นาสรี กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสที่เล่นให้กับ อาร์เซนอล ในตอนนั้น และทำให้เขาเหมือนกับวิญญาณจะออกจากร่างเลยทีเดียว  

"ผมได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จัก ชายคนนั้นบอกว่า 'สวัสดีน้องชาย เป็นไงบ้าง ? นี่นาสรีนะ ผมได้เบอร์มา คุณช่วยผมได้ไหม ?'" ซิวดู กล่าวกับ The Athletic 

"ผมใช้เวลาสักพักเพื่อประมวลผล หน้าของผมซีด ผมตัวสั่นและเหงื่อออก ผมไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสอย่างนี้ ได้คุยกับนาสรี ในฐานะแฟนอาร์เซนอลมันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างออกไป"

แต่ปัญหาคือ เขาไม่รู้ว่าจะต้อนรับนักเตะที่ใช้ชีวิตหรูหราได้อย่างไร

 

ปากต่อปาก 

หลังจากวางสายจากนาสรี เขาก็ตัดสินใจแต่งตัวไปโรงแรมที่เขาทำงานอยู่แล้วเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้จัดการ ก่อนที่สตาฟของโรงแรมจะพาเขาไปรู้จักกับทีมดูแลแขกของโรงแรม และคนที่สามารถให้คำปรึกษาแก่เขาได้ 

"หลังจากวางสาย แม่ของผมคิดว่าผมกำลังจะช็อก แต่ผมกำลังจะไปโรงแรมและคุยกับผู้จัดการของผม" ซิวดู บอกกับ Mirror

 
Photo : instagram.com/johnny1vegas

"ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าจะต้องทำอย่างไร ดังนั้นพวกเขาจึงส่งผมไปคุยกับทีมดูแลแขก ฝ่ายจัดการโรงแรม และคนที่เหมาะสมทั้งหมด" 

เมื่อ นาสรี มาถึงอเมริกาพวกเขาก็ดูแลสตาร์ชาวฝรั่งเศสเป็นอย่างดี และทำให้เขาแนะนำซิวดูให้กับนักเตะคนอื่น จากนั้นชื่อของเขาก็แพร่หลายในหมู่นักฟุตบอลแบบปากต่อปาก และทำให้ซิวดูเปลี่ยนอาชีพจากพนักงานเสิร์ฟไปเป็นเจ้าของบริษัท 

"นาสรีมาถึงและผมก็ดูแลเขา จากนั้นเขาก็ส่งเบอร์ของผมให้กับผู้เล่นคนอื่น และมันก็เป็นโดมิโนเอฟเฟ็กต์ นับจากนั้นผมก็มีโอกาสได้เดินทางไปทั่วโลก" ซิวดู บอกกับ The Athletic

ทุกวันนี้ลูกค้าของซิวดูไม่ได้มีแค่นักฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงนักกีฬาประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งเอฟวัน, นักรักบี้ ไปจนถึงนักต่อสู้ศิลปะป้องกันตัวแบบผสม

และสิ่งที่ทำให้บริษัทของเขาได้รับความนิยมถึงขั้นบอกต่อ คือความจริงใจและความเต็มใจในการดูแลลูกค้าของพวกเขาอย่างเต็มที่ รวมถึงการที่สามารถหาทุกสิ่งที่ร้องขอได้ไม่ว่าจะยากแค่ไหน 

"ผมคิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่แท้จริงกับสายสัมพันธ์ที่คุณมีกับผู้คน แค่ความจริงใจและข้อเท็จจริงเท่านั้นที่มอบให้กับพวกเขา" ซิวดู อธิบาย 

"ในช่วงเวลานั้นผมสามารถให้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ และทำให้ผมมีสายสัมพันธ์กับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อใจผม คนส่วนใหญ่ไม่มีคนที่พวกเขารู้จักเป็นการส่วนตัวในพื้นที่นี้ ดังนั้นผมจึงได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มคนเหล่านั้น และผู้คนก็มาหาผมและทำให้ชื่อของผมเป็นที่รู้จักไปไกล" 

"ปากต่อปากคือธุรกิจสำหรับผม ผมไม่ได้มีกระแสเงินสดเอาไว้โฆษณาตัวเองหรืออะไรแบบนั้น มันเป็นการบอกกันแบบปากต่อปาก มันได้ผลและทำให้เรามาถึงจุดนี้" 

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คำขอของลูกค้าของเขามีตั้งแต่เบสิกไปจนถึงยากมาก ทั้งหนังสือ ช่างตัดผม ฟิตเนสเทรนเนอร์ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งขอเดินทางไปกลับระหว่าง แอลเอ ที่อยู่ฝั่งตะวันตก กับ ไมอามี ที่อยู่ฝั่งตะวันออก ภายในเวลาหนึ่งวัน (ใช้เวลาด้วยเครื่องบินราว 5 ชั่วโมง) 


Photo : instagram.com/johnny1vegas

"พวกเขาอยากได้ทุกอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ช่างตัดผม พวกเขาอยากดูดีเวลาออกไปข้างนอก คุณต้องมีชีวิตกลางคืน ชีวิตกลางวัน รถหรู กิจกรรมที่อยากทำ บางครั้งพวกเขาก็อยากไปพบปะผู้คน บางครั้งพวกเขาก็อยากให้หาโค้ชฟิตเนสเพื่อรักษาความฟิต" ซิวดู กล่าวกับ Mirror

"ทุกคนแตกต่างกัน ทุกคนมีความต้องการที่ต่างกัน ดังนั้นมันจึงเป็นบริการที่มีความเฉพาะตัวมาก ๆ ที่เรามอบให้"

"สิ่งที่เหมือนกันมากที่สุดก็มีแค่โรงแรม วิลล่า รถ เรือยอร์ช พวกเขามาพักผ่อนในช่วงสั้น ๆ 5-6 วัน ดังนั้นพวกเขาจึงอยากรีดความสนุกออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอยากได้รับสิ่งที่ดีที่สุด"

แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าของเขาติดใจ 

 

ส่วนตัวและปลอดภัย 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ทำให้บริษัทของ ซิวดู สามารถรองรับทุกการร้องขอของลูกค้าคือคอนเน็กชั่นที่กว้างไกล เพราะแม้ว่าบริษัทของเขาจะมีพนักงานเพียงแค่ 10 คนแต่ก็กระจายตัวอยู่ทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกา แอฟริกา หรือตะวันออกกลาง 


Photo : instagram.com/johnny1vegas

"นักกีฬาสามารถเปลี่ยนใจได้ทุกวินาที ผมสามารถไปอยู่ในอีกเมืองหรืออีกประเทศในพรุ่งนี้ พวกเขาไม่ได้วางแผน พวกเขาแค่ไปตามอารมณ์ พวกเขาขอเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเพื่อไปไมอามี แอลเอ หรือ เวกัส ถ้ายุโรปพวกเขาอาจอยากไป บาร์เซโลน่า หรือ มิโคลอส ในตะวันออกลางบางทีอาจจะเป็นดูไบ คุณจึงต้องมีคอนเน็กชั่นอยู่ทุกที่" ซิวดู กล่าวกับ The Athletic 

อย่างไรก็ดีสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าของเขากลับมาใช้บริการอีกคือความเชื่อมั่นในความปลอดภัย และทำให้นักกีฬาดังรู้สึกว่าพวกเขามีความเป็นส่วนตัวตลอดช่วงเวลาของการพักผ่อน  

"คุณไม่มีเวลาที่จะสนุกกับมันหรอก มันเท่ที่ได้นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แม้ว่าผมจะอยู่ที่นั่นแต่ผมก็วางแผนสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าและต่อจากนั้น ในหัวของผมทำงานตลอดเวลา แม้ว่าตอนนั้นผมจะสนุกกับพวกเขาอยู่ก็ตาม" ซิวดู กล่าว

"พวกเขาอยากไปภัตตาคาร พวกเขาอยากไปปาร์ตี้ เรื่องใหญ่ที่สุดสำหรับนักฟุตบอลคือกอล์ฟ หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเล่นยังไง แต่พวกเขาก็สนุกกับมันอยู่ดี ผมต้องรู้ว่าที่ไหนมีสนามกอล์ฟที่ดีที่สุด และผมจะเข้าไปได้ไหม" 

"ตอนที่ผมอยู่ที่ภัตตาคารและพวกเขากำลังสนุกกัน ผมคิดว่า 'โอเค ต่อไปเราจะไปที่ไหนดี ? ที่ไหนที่ปลอดภัย ? ที่ไหนที่เป็นส่วนตัว ?'"

ตอนนี้ Kloudout ของ ซิวดู กำลังจะมีแผนใหม่ หลังย้ายฐานที่มั่นมาอยู่ที่ดูไบ เป็นโปรเจ็กต์ให้บริการการท่องเที่ยวสุดหรูในตะวันออกกลางสำหรับชาวอเมริกัน ในช่วงฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ 


Photo : instagram.com/johnny1vegas

"การเดินทางและท่องเที่ยว การจัดการไลฟ์สไตล์ นั่นคือสิ่งที่ผมโดดเด่นที่สุด ผมจึงสร้างแบรนด์ที่ชื่อว่า Koobtravel เพื่อเป็นสะพานระหว่างตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป และ GCC (กลุ่มความร่วมมืออ่าวอาหรับ) ในโลกอาหรับ" ซิวดู กล่าวกับ Mirror

"ผู้คนส่วนใหญ่ในอเมริกาเหนือไม่มีความมั่นใจที่จะมาที่นี่ พวกเขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพื้นที่นี้เลย สิ่งที่เราทำคือเป็นตัวแทนระหว่างแฟนบอลอเมริกาเหนือและบุคคลที่อยากมาดูฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์" 

ซิวดู เชื่อว่าด้วยประสบการณ์การดูแลนักกีฬากว่า 15 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าในอนาคตของเขาจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน 

เพราะเขารู้ดีกว่า "การได้รับความเอาใจใส่" นั้นมีค่ามากแค่ไหน และเขาไม่เคยลืมมันเลยนับตั้งแต่ได้รับเสื้อพร้อมลายเซ็นในวันนั้น

 

แหล่งอ้างอิง 

https://theathletic.com/3397023/2022/07/06/vegas-yachts-and-tigers-inside-the-world-of-organising-a-footballers-holiday/ 
https://edition.cnn.com/travel/article/johnny-vegas-qatar-world-cup-spt-intl/index.html 
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/meet-man-behind-footballers-holidays-25721675 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี