รีเซต
เกมสุดสำคัญ! เทียบขุมกำลัง 'ผี-หงส์' แต่ละตำแหน่ง ใครเหนือกว่าในศึกแดงเดือดรอบสาม

เกมสุดสำคัญ! เทียบขุมกำลัง 'ผี-หงส์' แต่ละตำแหน่ง ใครเหนือกว่าในศึกแดงเดือดรอบสาม

เกมสุดสำคัญ! เทียบขุมกำลัง 'ผี-หงส์' แต่ละตำแหน่ง ใครเหนือกว่าในศึกแดงเดือดรอบสาม
EkkEReport
13 พฤษภาคม 2564 ( 02:00 )
3.7K
1

ศึกแห่งศักดิ์ศรี ครั้งที่ 3 ในซีซั่นนี้ ระหว่างคู่ปรับตลอดกาลอย่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมใดที่เป็นฝ่ายเหนือกว่า ในเกมแดงเดือดรอบนี้ เรามาลองเทียบให้เห็นกันชัดๆ แบบตำแหน่งต่อตำแหน่งเลย

"ศึกแดงเดือด" .. เกมแห่งศักดิ์ศรี ระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถูกเลื่อนโปรแกรมให้มาลงสนามฟาดแข้งกันใน คืนวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคมนี้ เวลา 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่ง TrueID จะถ่ายทอดสดให้แฟนๆ ได้ติดตามชมทีมรักกันทางช่อง True Premier Football HD 1

สงครามบนผืนหญ้าในครั้งนี้ ถือเป็นเกมที่มีความหมาย และมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อทั้ง 2 ทีม ทั้งในแง่ของศักดิ์ศรี และเรื่องของอันดับในตารางคะแนน โดยเฉพาะฝั่งของ ลิเวอร์พูล ที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบุกคว้า 3 แต้มกลับออกไปให้ได้ เพื่อต่อความหวังในการลุ้นตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป

โดยในเกมที่มีเดิมพันสูงแบบนี้ ทีมใดที่มีขุมกำลัง และสภาพความพร้อมที่เหนือกว่ากัน เราขอพาทุกท่านไปพบกับบทวิเคราะห์ แบบปอนด์ต่อปอนด์ เทียบให้เห็นกันแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันเลย

 

ผู้รักษาประตู

ดีน เฮนเดอร์สัน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) VS อลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล)

เกมนี้เชื่อว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือปีศาจแดง น่าจะให้ ดีน เฮนเดอร์สัน กลับมาลงทำหน้าที่เฝ้าเสาอีกครั้ง หลังจากส่ง ดาบิด เด เคอา ลงสนามในเกมล่าสุดกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่ฝั่งของ หงส์แดง จะยังคงใช้บริการของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ประตูมือหนึ่งของทีม อย่างแน่นอน

จะว่าไปแล้วตำแหน่ง ผู้รักษาประตู ถือเป็นตำแหน่งที่ทั้ง 2 ทีม มีความแข็งแกร่งด้วยกันทั้งคู่ ทั้ง อลีสซง และ เฮนเดอร์สัน ล้วนเป็นนายด่านฝีมือดี แม้ว่าในแง่ของประสบการณ์ ต้องยอมรับว่า มือกาวผีแดง ยังดูเป็นรองฝั่งทีมเยือนอยู่บ้าง แต่ก็แลกมาด้วยจุดเด่นในด้านอื่นๆ ทั้งการออกมาตัดบอล และการออกบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม อีกทั้งการที่ได้ลงเล่นมาอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้เขามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น และสามารถพัฒนาฝีมือขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนทางด้านของ อลีสซง นั้น แม้จะเคยมีปัญหาฟอร์มหลุดไปบ้าง แต่ด้วยศักยภาพที่ถูกพิสูจน์มาแล้ว รวมทั้งผลงานโดยรวมที่ผ่านมาของเขา น่าจะทำให้แฟนหงส์แดงยังคงอุ่นใจได้เสมอ ยามที่มีเขายืนเป็นนายด่านให้ทีม

อย่างไรก็ดี หากเทียบฝีไม้ลายมือกันแล้ว คงต้องบอกว่า ทั้ง 2 คน ต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งเรียกได้ว่า สูสีใกล้เคียงกัน แบบกินกันไม่ลงเลยก็ว่าได้

ฟันธง : เสมอกัน

 

กองหลัง

แนวรับของลิเวอร์พูล เคยเป็นจุดเด่นของพวกเขา เนื่องจากมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งในซีซั่นก่อน ที่พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้ แต่พอมาในฤดูกาลนี้ กลายเป็นว่า พวกเขาต้องประสบปัญหาอย่างหนักในเรื่องอาการบาดเจ็บ จนเรียกได้ว่า "เคราะห์ซ้ำกรรมซัด" เลยทีเดียว เพราะแผงหลังที่มีอยู่ต่างก็นัดกันเจ็บยาวโดยพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าจะเป็นหัวใจในเกมรับอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค รวมถึง โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป จนทำให้หลังบ้านของหงส์แดง ได้ผลกระทบไปเต็มๆ

แล้วล่าสุด กองหลังที่เพิ่งซื้อเข้ามาเสริมทัพอย่าง โอซาน คาบัค ก็ยังมาเจ็บเพิ่มไปอีกคน ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจำเป็นต้องตัดสินใจถอยมิดฟิลด์คนสำคัญอย่าง ฟาบินโญ่ ลงไปยืนเป็นคู่เซนเตอร์กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ในเกมนี้

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียง หงส์แดง เท่านั้น ที่ต้องปวดหัวกับอาการบาดเจ็บของนักเตะ เพราะล่าสุด แมนยู ก็เพิ่งได้รับข่าวร้ายเช่นกัน เมื่อปราการหลังตัวหลักอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ลงสนามช่วยทีมในลีก ครบทุกนาทีมาเกือบครบ 2 ฤดูกาลเต็ม ได้รับบาดเจ็บจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนไม่สามารถลงเล่นในเกมนี้ได้ ทำให้ต้องส่ง เอริก ไบยี่ มายืนคู่กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ขณะที่แบ็ก 2 ข้าง ยังคงเป็น อารอน วาน-บิสซาก้า และ ลุค ชอว์

โดยในช่วงหลังที่ผ่านมา แมนยู มี แม็กไกวร์ คอยบัญชาการเกมรับ อีกทั้งแผงหลังชุดนี้ก็เล่นด้วยกันมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนสอดประสาน และช่วยกันเล่นได้อย่างเข้าขารู้ใจ พร้อมส่งผลให้ผลงานส่วนตัวของแต่ละคน ออกมาดีตามไปด้วย แม้จะยังคงมีข้อผิดพลาดให้เห็นอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว เกมรับของพวกเขาก็เหนียวแน่นขึ้นมาพอสมควร ทำให้คงต้องมารอดูว่า การขาดหายไปของแนวรับกัปตันทีมรายนี้ จะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด

หากเปรียบเทียบขุมกำลังชุดที่ดีที่สุด ที่ทั้ง 2 ทีมมี คงต้องยกให้ หงส์แดง ที่ดูดีกว่า จากมาตรฐานที่พวกเขาเคยทำได้ในซีซั่นก่อน ทว่าเมื่อวัดกันในชั่วโมงนี้ ที่ต่างฝ่ายต่างก็มีขุมกำลังที่ไม่สมบูรณ์ด้วยกันทั้งคู่ ทำให้มองว่าความแข็งแกร่งในแดนหลังของพวกเขา ดูแล้วไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่เมื่อเจาะลึกลงไปแล้ว พบว่าปัญหาของเจ้าถิ่นน่าจะมีน้อยกว่า จึงขอยกให้ฝั่งของ ปีศาจแดง เป็นฝ่ายที่เหนือกว่านิดๆ ในศึกครั้งนี้

ฟันธง : แมนยู เหนือกว่านิดๆ

 

กองกลาง

นับเป็นอีกปัญหาของหงส์แดง ที่กระทบมาจากปัญหาในแดนหลัง เพราะเมื่อพวกเขาต้องยอมดึงมิดฟิลด์อย่าง ฟาบินโญ่ ลงไปเล่น ทำให้จะเหลือเพียง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่เป็นแกนหลักในแดนกลาง ส่วนมิดฟิลด์อีกคน พวกเขาน่าจะต้องเลือกใช้ระหว่าง เจมส์ มิลเนอร์ กับ เคอร์ติส โจนส์ หรืออีกทางเลือก คือ คล็อปป์ อาจจะส่งมิดฟิลด์ลงแค่ 2 คน แล้วไปเพิ่มตัวเลือกในแดนหน้าอีก 1 ตำแหน่ง เพื่อเปิดเกมรุกอย่างเต็มที่แทน

ขณะที่ ยูไนเต็ด ขุมกำลังในแดนกลางต่างฟิตสมบูรณ์ พร้อมเป็นตัวเลือกกันอย่างครบครัน และยังสามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดี โดยเกมนี้คาดว่า แมนยู จะใช้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด ยืนเป็นมิดฟิลด์คู่กลาง ส่วน ปอล ป็อกบา น่าจะถูกดันขึ้นไปเล่นเป็นตัวรุกของทางด้านซ้าย เพื่อคอยช่วย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปั้นเกม พร้อมโยก มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปยืนทางกราบขวาแทน

เกมนี้แดนกลาง น่าจะเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ทั้ง 2 ทีมต่างต้องชิงความได้เปรียบกัน และจะได้วัดกันแบบเต็มๆ ซึ่งด้วยผลงานที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน จึงบอกได้ยากมากว่า ฝั่งใดจะเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าในเกมสำคัญแบบนี้

ฟันธง : เสมอกัน

 

กองหน้า

กองหน้าตัวเป้าของ แมนยู ในเกมนี้ คงต้องเลือกใช้งานระหว่าง เมสัน กรีนวู้ด กับ เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งทั้ง 2 คน ต่างก็เพิ่งโชว์ระเบิดฟอร์มยิงประตูได้แบบเป็นกอบเป็นกำในช่วงหลัง ทั้งวิญญาณเพชฌฆาตของ คาวานี่ ที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่อง และความคมของ กรีนวู้ด ที่ยังจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาดเสมอ อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่เกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อาจจะเลือกเก็บ คาวานี่ ไว้ที่ม้านั่งสำรองก่อน เพื่อเอาไว้เป็นตัวทีเด็ดในครึ่งหลัง เนื่องด้วยสภาพร่างกายของเขา ที่ช่วงหลังกรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่ามีความเป็นได้ที่จะได้เห็น กรีนวู้ด ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงมากกว่า

ส่วนสามประสานแนวรุกของ ลิเวอร์พูล อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ นั้น เริ่มกลับมาประสานงานกันได้ดีขึ้นแล้ว แม้จะยังไม่ลื่นไหลดังเดิม แต่ก็ถือว่าอันตรายขึ้นมาก และเริ่มกลับมาผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเกมนี้ มีความเป็นไปได้ที่ คล็อปป์ จะส่ง ดิโอโก้ โชต้า ลงมาเพิ่มมิติในเกมรุกอีกคนด้วย

หากวัดกันตามศักยภาพแล้ว คงต้องบอกว่า แนวรุกของพวกเขาสูสีใกล้เคียงกันมาก แต่หาก แมนยู เลือกส่ง กรีนวู้ด ลงไปยืนเป็นหัวหอกจริง ก็คงต้องยอมรับว่า ประสบการณ์ของดาวรุ่งรายนี้ ยังคงเป็นรองแนวรุกฝั่งหงส์แดง ทำให้มองว่าอาวุธในแดนหน้าของฝั่งของทีมเยือน น่าจะเหนือกว่าอยู่นิดๆ ในเกมนี้

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ดูดีกว่านิดๆ

 

ผู้จัดการทีม

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) VS เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)

โซลชา พาทีมทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความมั่นใจของเขา น่าจะมีแบบเต็มเปี่ยม แม้จะเพิ่งพ่ายให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ มา แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาใช้ผู้เล่นสำรองลงเล่นเกือบทั้งทีม เพราะมีความจำเป็นจะต้องพักแข้งตัวหลัก เพื่อมาลงสนามในเกมนี้ ส่วนฝั่งของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังจากพลาดคว้าชัยในลีกมา 2 นัดติด ล่าสุดพวกเขาก็กลับมาคว้าชัยได้อีกครั้งแล้ว อย่างไรก็ตาม เกมนี้นายใหญ่ชาวเยอรมันจะต้องกระตุ้นลูกทีมให้เดินหน้าคว้า 3 แต้มมาให้ได้เท่านั้น หากยังหวังจบท็อปโฟร์ให้ได้

หากวัดกันที่ประสบการณ์แล้ว ต้องยอมรับว่า ฝั่งนายใหญ่หงส์แดง ยังคงเหนือว่า กุนซือปีศาจแดง อยู่พอสมควร แต่โซลชาเอง ก็พิสูจน์ตัวเองมาแล้วหลายต่อหลายครั้งว่า เขาก็มีดีไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน ในเรื่องของการวางแผน แท็คติกต่างๆ รวมทั้งการแก้เกม ยามต้องเผชิญหน้ากับเฮดโค้ชยอดฝีมือ แล้วยิ่งเป็นสถานการณ์ในตอนนี้ ที่ แมนยู เล่นได้ง่ายกว่า เนื่องจากไม่มีความกดดันเท่า ลิเวอร์พูล อีกทั้งยังจะได้เล่นในถิ่นของตัวเองด้วย จึงทำให้มองว่า นาทีนี้ความพร้อมของกุนซือทั้ง 2 ทีม ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

ฟันธง : เสมอกัน

 

"เอกกี้รีพอร์ต"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> แมนยู VS ลิเวอร์พูล : พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2020/21 (ลิ้งก์ดูบอล)

>> จัดทีมกันแบบไหน!! คาด11ตัวจริง ศึกแดงเดือด แมนยู เปิดบ้านดวล ลิเวอร์พูล

>> 11 ที่เที่ยวลิเวอร์พูล มีอะไรให้ดู นอกจากบอล! ไปตามรอย The Beatles ชมโบสถ์สวย อังกฤษ

 

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้