
ส่องนาฬิกา Tag Heuer Monaco Split-Seconds Chronograph Air เทคโนโลยี Additive Manufacturing สุดล้ำ
TAG Heuer ยกระดับการสร้างนาฬิกาเรือนหรูอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Monaco Split-Seconds Chronograph Air 1 นาฬิการุ่นพิเศษที่ไม่เพียงเป็นผลงานโครโนกราฟขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในด้านเทคโนโลยีการผลิตยุคใหม่อย่าง “Additive Manufacturing” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ 3D Printing
ชื่อ “Air 1” อาจทำให้หลายคนแอบคิดถึงรองเท้ารุ่นดังของ Nike หรือเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง Air Force One แต่แท้จริงแล้ว “Air” ในที่นี้ หมายถึง สถาปัตยกรรมตัวเรือนแบบโปร่ง (open-worked) ที่ถูกออกแบบให้ดู “ลอยตัว” และ “เบาดุจอากาศ” ซึ่งเกิดจากเทคนิคการสร้างแบบใหม่ทั้งหมดของ TAG Heuer เอง
Additive Manufacturing เมื่อการพิมพ์สามมิติเข้าสู่วงการ Haute Horlogerie
เทคนิค Additive Manufacturing หรือ “การผลิตแบบเติมเนื้อวัสดุ” เป็นกระบวนการที่ตัวเรือนถูกสร้างขึ้น “ทีละชั้น” ด้วยการหลอมโลหะตามแบบจำลองคอมพิวเตอร์อย่างละเอียด ในกรณีของ TAG Heuer ใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่เรียกว่า Selective Laser Melting (SLM) กระบวนการที่เลเซอร์พลังสูงหลอมและเชื่อมผงโลหะเข้าด้วยกันจนกลายเป็นโครงสร้างชิ้นเดียว
ข้อดีของเทคนิคนี้คือ สามารถสร้าง “รูปทรงภายในที่ซับซ้อน” ซึ่งวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำได้ เช่น ช่องกลวงภายในโครงสร้าง หรือการถักตาข่ายรูปทรงเรขาคณิตที่ให้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบาอย่างน่าทึ่ง
การออกแบบที่ผสานศิลป์กับวิศวกรรม แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง F1
Monaco Split-Seconds Chronograph Air 1 โดดเด่นด้วยโครงสร้างแบบ Honeycomb Lattice ภายในตัวเรือน ซึ่งเผยให้เห็นผ่านพื้นผิวแบบโปร่งและช่องเปิดที่ถูกออกแบบให้ดูราวกับผ่านการจำลองในอุโมงค์ลม เหมือนดีไซน์ของรถแข่ง Formula 1 ที่ทั้งสวยงามและมีเหตุผลทางวิศวกรรมรองรับทุกเส้นสาย
ตัวเรือนมีขนาด 41 มิลลิเมตร หนา 15.2 มิลลิเมตร ผลิตจาก ไทเทเนียมเกรด 5 ผสมกับ ทองคำ 2N Yellow Gold ขอบตัวเรือนเคลือบ DLC สีดำ สร้างคอนทราสต์ที่เฉียบคมระหว่างสีดำ เทา และทองอย่างลงตัว แม้จะมีองค์ประกอบของทองคำ แต่ด้วยโครงสร้างภายในแบบกลวง น้ำหนักรวมของเรือนนี้อยู่เพียง 85 กรัม เท่านั้น
หน้าปัดที่เผยกลไกภายใน พร้อมระบบโครโนกราฟสุดซับซ้อน
ด้านหน้าปัดออกแบบแบบ เปิดโล่ง (Openworked Dial) เผยให้เห็นความซับซ้อนของกลไกภายใน พร้อมดีไซน์แบบ Tricompax Layout ที่จัดเรียงซับไดอัลสามช่อง ได้แก่ เข็มวินาทีเล็ก ตัวจับเวลา 12 ชั่วโมง และ 30 นาที
สิ่งที่ทำให้เรือนนี้พิเศษกว่ารุ่นอื่นคือการเป็น Split-Seconds Chronograph หรือ “โครโนกราฟจับเวลาสองรอบพร้อมกัน” ซึ่งมี เข็มวินาทีซ้อนกันสองชุด ที่สามารถเริ่มต้นพร้อมกันแต่หยุดได้อิสระจากกัน เพื่อเปรียบเทียบเวลาระหว่างผู้แข่งขันหรือเหตุการณ์ได้อย่างละเอียด นี่คือหนึ่งในกลไกที่ซับซ้อนและทรงเกียรติที่สุดในวงการนาฬิกา
หน้าปัดทำจาก แซฟไฟร์ใส (Sapphire Dial) เคลือบเครื่องหมายสีขาว ซับไดอัลเคลือบดำแบบ Black Opaline ตัดกับเข็มเคลือบแลกเกอร์สีทองและโรเดียม พร้อมพรายน้ำ Super-LumiNova เพื่อการมองเห็นชัดเจนในทุกสภาพแสง
หัวใจแห่งความเที่ยงตรง กลไก TH81-00 ความถี่สูง 5Hz
ภายในบรรจุกลไก TAG Heuer TH81-00 แบบโครโนกราฟจับเวลาสองรอบ ระบบอัตโนมัติความถี่สูง 5 เฮิรตซ์ (36,000 ครั้ง/ชั่วโมง) ให้พลังงานสำรอง 68 ชั่วโมง กลไกนี้พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับ Vaucher Manufacture Fleurier หนึ่งในโรงงานผลิตกลไกระดับสูงของสวิตเซอร์แลนด์
นอกจากนี้ LVMH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TAG Heuer ยังได้เข้าถือหุ้นใน La Joux-Perret ผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกโครโนกราฟที่เคยร่วมพัฒนาเครื่องยนต์ให้กับคอลเลกชัน Aquaracer และ Formula 1 มาก่อน ทำให้ Air 1 เรือนนี้สะท้อนถึงเครือข่ายพันธมิตรด้านวิศวกรรมกลไกระดับโลกของ TAG Heuer อย่างแท้จริง
ราคาหรูในจำนวนจำกัด สะสมได้ มีคุณค่าทางเทคโนโลยี
TAG Heuer Monaco Split-Seconds Chronograph Air 1 ผลิตจำกัดเพียง 30 เรือนทั่วโลก จำหน่ายในราคา CHF 150,000 หรือประมาณ £143,400 (ราว 5.7 ล้านบาท) มาพร้อมสาย ยางสีดำ (Black Rubber Strap) และบานพับไทเทเนียมเคลือบ DLC
แม้ดีไซน์จะดู “จัดเต็ม” และเต็มไปด้วยรายละเอียดในแนวไซไฟสมัยใหม่ แต่ทุกองค์ประกอบล้วนออกแบบมาเพื่อแสดงศักยภาพของเทคนิค Additive Manufacturing ให้เห็นอย่างชัดเจน ทั้งความแม่นยำ การลดน้ำหนัก และการเปิดมิติใหม่ของการออกแบบนาฬิกาหรูในศตวรรษที่ 21
สรุปสเปกสำคัญ
- รุ่น: TAG Heuer Monaco Split-Seconds Chronograph Air 1
- รหัส: CBW218B.FT8124
- ตัวเรือน: ไทเทเนียมเกรด 5 / ทองคำ 2N / ขอบ DLC ดำ
- ขนาด: 41 มม. / หนา 15.2 มม.
- น้ำหนัก: 85 กรัม
- หน้าปัด: แซฟไฟร์เปิดโล่ง / ซับไดอัลดำ / เข็มทอง–โรเดียม / พรายน้ำ Super-LumiNova
- กันน้ำ: 30 เมตร (3 บาร์)
- กลไก: TH81-00 อัตโนมัติ / ความถี่ 5Hz / พลังงานสำรอง 68 ชม.
- ฟังก์ชัน: ชั่วโมง นาที วินาที โครโนกราฟ และจับเวลาสองรอบ (Split-Seconds)
- สาย: ยางสีดำ / บานพับไทเทเนียมเคลือบ DLC
- จำนวนผลิต: 30 เรือนทั่วโลก
- ราคา: CHF 150,000 (≈ £143,400 / ≈ 5.7 ล้านบาท)
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ยลโฉมนาฬิกา TAG Heuer Monaco Chronograph CBL218B.FT6236 ราคาเท่าไหร่
- ยลโฉม TAG HEUER X SENNA รุ่นนักขับระดับตำนาน ผลิตกี่เรือน ราคาเท่าไหร่
- ยลโฉมนาฬิกา TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green ราคาเท่าไหร่ผลิตกี่เรือน
- เปิดโฉม TAG Heuer Connected Calibre E4 x Oracle Red Bull Racing Edition ราคาเท่าไหร่
- เปิดราคาส่องสเปค The TAG Heuer x Kith Formula 1 โดนใจขนาดไหนราคาเปิดตัวเท่าไหร่

