สิ่งที่ผู้ชายควรเริ่มทำรับปีใหม่เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในปี 2025
อีกไม่นานก็จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่ปี 2025 หรือปี 2568 ในปีนี้หนุ่มๆ หลายคนคงเจอทั้งเรื่องดี และไม่ดี กันมาบ้าง แต่ไม่ว่าเรื่องราวที่คุณเจอมานั้นจะดีหรือไม่ดี แต่ทุกสิ่งเหล่านี้คุณสามารถนำมาพัฒนาตัวเอง หรือเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับชีวิตคุณได้ แล้วก่อนเข้าสู่ปีใหม่นี้ สิ่งที่ผู้ชายควรเริ่มทำรับปีใหม่เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในปี 2025 นั้นมีอะไรบ้างมาดูไปพร้อมกัน
สิ่งที่ผู้ชายควรเริ่มทำรับปีใหม่เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในปี 2025
1.นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายจะได้มีโอกาสซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สมองจะได้พักผ่อน โดยรวมของคุณส่งผลดีต่อสุขภาพคุณ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เป็นผลดีอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้าม วิธีที่ทำให้การนอนหลับเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณนั้นทำได้ดังนี้ พยายามเข้านอน และตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวัน ทำให้ห้องนอนมืด สงบ เย็นสบาย ปราศจากเสียงรบกวน หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือก่อนนอน หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ก่อนนอน รวมถึงหลีกเลี่ยงการทานมื้อหนักก่อนนอน
2.เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น
การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือนการลงทุนในสุขภาพที่ดีในระยะยาว ช่วยให้ลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคมะเร็ง การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำเพียงพอยังช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณดี แถมยังช่วยให้ผิวพรรณสดใส การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินสำหรับบางคนอาจจะดูยากในตอนแรก แต่ถ้าเริ่มต้นทีละน้อย และทำอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะสามารถสร้างนิสัยการกินที่ดีได้ อาจเริ่มจากเลือกกินผักผลไม้สด เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ธัญพืชไม่ขัดสี และลดการกินอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป และอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
3.หาเวลาออกกำลังกาย
การงานที่ถาโถมและกิจวัตรที่เร่งรีบอาจทำให้การออกกำลังกายนั้นถูกละเลย แต่การออกกำลังกายนั้นช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดีและยังช่วยบรรเทาอาการเป็นออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย การแบ่งเวลาออกกำลังกายนั้นมีวีธีง่ายๆ ที่คุณสามารถเลือกทำได้ดังนี้
- เวลาก่อนทำงาน : ตื่นเช้าก่อนเวลา 30 นาที - 1 ชั่วโมง เพื่อออกกำลังกายเบาๆ เช่นเดิน หรือวิ่งเบาๆ
- เวลาหลังเลิกงาน : ใช้เวลาหลังเลิกงานประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง เพื่อออกกำลังกายเช่นคาร์ดิโอ หรือเวทเทรนนิ่ง
- แบ่งเวลาสั้นๆ : เช่นหลังตื่นนอน 15 นาที หรือหลังกลับบ้านก่อนกินข้าวเย็น อาจออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูงอย่าง HIIT เพื่อเร่งการเผาผลาญ หรือ ออกกำลังกายแบบ Mobility เพื่อความแข็งแรงของข้อต่อและกล้ามเนื้อ
- ออกกำลังกายระหว่างดูทีวี : คุณสามารถออกกำลังกายในขณะที่ดูรายการโปรดของคุณได้ทั้งการ สควอช ยกดัมเบล หรือยางยืดออกกำลังกาย
4.หาความรู้ใหม่ๆ
การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เปรียบเสมือนการเติมพลังสมอง ส่งเสริมการพัฒนาของคุณในหลายๆ ด้านทั้งการงาน การเรียน และชีวิตส่วนตัวประโยชน์ที่ได้รับ ได้แก่เพิ่มพูนความรู้ และทักษะเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มความมั่นใจ ลดความเครียด วิธีการเรียนรู้มีหลากหลาย เช่น อ่านหนังสือ เรียนออนไลน์ เข้าร่วมเวิร์คช็อป ฝึกทักษะใหม่ๆ และพูดคุยกับผู้อื่นก็นับว่าเป็นการหาความรู้ใหม่ๆ เช่นกัน
5.ตั้งเป้าหมายและบันทึก
การตั้งเป้าหมาย และบันทึกเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเรียน หรือแม้แต่การพัฒนาตนเอง การบันทึกเป้าหมายช่วยให้คุณมีทิศทางที่ชัดเจน มีความมุ่งมั่น เพิ่มความรับผิดชอบ ทำให้คุณพัฒนาตนเองได้ตามที่ตั้งไว้ ตัวอย่างวิธีการตั้งเป้าหมายและบันทึกแบบง่ายๆ เริ่มด้วยการตั้งเป้าหมายแบบเจาะจงเพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจน เช่นอยากวิ่งให้ได้ระยะทาง 5 กิโลเมตร ในเวลา 30 นาที ภายใน 3 เดือน
เป้าหมายย่อย
- สัปดาห์ที่ 1-2: เดินเร็วสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที
- สัปดาห์ที่ 3-4: เริ่มวิ่งวันละ 30 นาที แบบหยุดเดินพักเหนื่อยได้บ้าง สัปดาห์ละ 3 วัน
- สัปดาห์ที่ 5-6: เริ่มวิ่งวันละ 30 นาที แบบต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3 วัน
- สัปดาห์ที่ 7-8: เริ่มวิ่งวันละ 50 นาที แบบต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3 วัน
บันทึก
- วันที่ 1: เดินเร็วได้ระยะทาง 3 กิโลเมตร เวลา 30 นาที รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
- วันที่ 2: เดินเร็วได้ระยะทาง 3 กิโลเมตร เวลา 30 นาที รู้สึกเมื่อยแต่เหนื่อยน้อยลง
- วันที่ 3: เดินเร็วได้ระยะทาง 3.2 กิโลเมตร เวลา 30 นาที เหนื่อยน้อยลงเดินได้ไกลมากขึ้น
6.หากิจกรรมคลายเครียด
ใน 1 สัปดาห์ควรหาเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงที่คุณจะได้ทำในสิ่งที่คุณชอบเพื่อคลายความเครียดที่ได้รับมาทั้งสัปดาห์ อาจเป็นกิจกรรมง่ายๆ อย่างการดูหนังฟังเพลง หรือออกไปจัดสวนที่คุณชอบ การนวดผ่อนคลาย อ่านหนังสือเล่มโปรด ออกไปพบปะเพื่อนฝูงหรือเล่นเกมส์ที่ชอบโดยที่ไม่ต้องนึกถึงเรื่องงานก็เป็นการผ่อนคลายจิตใจที่ดี
7.จัดระเบียบรายจ่ายไม่สร้างหนี้เพิ่ม
การจัดระเบียบรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพคือการวางแผนการเงินที่ดีช่วยควบคุมการใช้จ่าย ช่วยลดหนี้สิน เพิ่มเงินออม และสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว วิธีการคร่าวๆ ทำได้ง่ายๆ มีดังนี้
- บันทึกรายรับ-รายจ่าย: ใช้สมุดบัญชีหรือแอปพลิเคชันบันทึกทุกบาททุกสตางค์
- วิเคราะห์รายจ่าย: แบ่งประเภท (เช่น ค่าอาหาร ค่าที่อยู่อาศัย) และหาจุดลดค่าใช้จ่าย
- ตั้งงบประมาณ: กำหนดงบประมาณแต่ละประเภทและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- เพิ่มรายได้: หางานพิเศษหรือช่องทางสร้างรายได้เสริม
- ออมเงิน: ตั้งเป้าหมายและออมเงินอัตโนมัติ
- หลีกเลี่ยงการซื้อของไม่จำเป็น: คิดก่อนซื้อและเปรียบเทียบราคา
- ชำระหนี้ตรงเวลา: จัดลำดับหนี้ตามดอกเบี้ยและชำระตรงเวลาเพื่อประวัติเครดิตที่ดี
8.ขอบคุณให้มากขึ้น
การแสดงความขอบคุณเป็นมากกว่าแค่คำพูด แต่เป็นพลังงานบวกที่สามารถส่งผลดีต่อทั้งผู้ให้และผู้รับ การขอบคุณมากมีข้อดีมากมายอย่างเช่น ช่วยให้คุณมองเห็นด้านบวกในชีวิตมากขึ้น ช่วยให้เรารู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เรามีอยู่ ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น การขอบคุณช่วยให้เราโฟกัสไปที่สิ่งดีๆ ทำให้ความเครียดลดลง และจิตใจสงบมากขึ้น ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างดี
บทความที่คุณอาจสนใจ