นิวคาสเซิ่ล VS แมนยู : พรีวิว พรีเมียร์ลีก 2024/25 (ลิ้งก์ดูบอลสด)

วิเคราะห์บอล : นิวคาสเซิ่ล VS แมนยู
- รายการ : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024/25
- แมตช์การแข่งขัน : นิวคาสเซิ่ล VS แมนยูไนเต็ด
- วัน/เวลาแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2568 เวลา 22.30 น.
- สนาม : เซนต์ เจมส์ ปาร์ค
- ถ่ายทอดสด : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
สภาพความพร้อม นิวคาสเซิ่ล
นิวคาสเซิ่ล อยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยม โดยเกมล่าสุดบุกถล่ม เลสเตอร์ 3-0 ซึ่งเป็นชัยชนะนัดที่ 4 จากเกมลีก 5 นัดหลังสุด รั้งอันดับ 5 ของตาราง ลงสนาม 30 นัดมีอยู่ 53 แต้มเท่ากับอันดับ 4 เชลซี แต่ทีมสาลิกาดงแข่งน้อยกว่า 1 นัดด้วย
ความพร้อมเกมนี้ นิวคาสเซิล จะไม่มี จามาล ลาสเซลส์, สเวน บ็อตมัน, ลูอิส ฮอลล์ และ โจ วิลล็อก ที่ยังเจ็บไม่หาย ส่วน แอนโธนี่ กอร์ดอน ฟื้นจากอาการเจ็บขาหนีบแล้ว แต่ต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้ง
ขณะที่ขุมกำลังรายอื่นพร้อมลงสนาม โดยกุนซือเอ็ดดี้ ฮาว เตรียมผู้เล่นแกนหลักชุดเดิมต่อไป นำโดย อเล็กซานเดอร์ อิซัค ดาวซัลโวประจำทีม ลงทำเกมรุกร่วมกับ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ เจค็อบ เมอร์ฟี่ย์ แดนกลางใช้ 3 ประสาน ซานโดร โตนาลี่, โชลินตอน, บรูโน่ กีมาไรส์ ส่วนแผงแบ็กโฟร์เป็นหน้าที่ของ คีแรน ทริปเปียร์, ฟาเบียน แชร์, แดน เบิร์น และ ติโน ลิฟราเมนโต้
สภาพความพร้อม แมนยู
ฟอร์มล่าสุด แมนยูไนเต็ด บุกเจ๊า โอลิมปิก ลียง 2-2 ในศึกยูโรป้าลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่วนฟอร์มในลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เปิดบ้านเจ๊า แมนซิตี้ 0-0 ทำให้ขณะนี้มีอยู่ 38 แต้มจาก 31 นัด รั้งอันดับ 13 ของตาราง
ขณะที่ขุมกำลังของ แมนยู มีผู้เล่นบาดเจ็บอย่าง อายเดน เฮฟเวน, จอนนี่ อีแวนส์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, อาหมัด ดิยาลโล, โทบี้ คอลลีเยอร์, มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ ที่จะหมดสิทธิลงช่วยทีมในเกมนี้ ขณะเดียวกันคาดว่ากุนซือ รูเบน อโมริม จะโรเตชั่นผู้เล่นบางตำแหน่ง เพื่อเก็บแข้งหลักไว้ลุยกับ ลียง ในเกมยูโรป้าลีกช่วงกลางสัปดาห์หน้า
เกมนี้จึงเป็นโอกาสของตัวสำรองจากเกมล่าสุดอย่าง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เมสัน เมาท์, โจชัว เซิร์กซี่ ที่มีโอกาสได้ลงเป็น 11 คนแรก นอกจากนี้มีรายงานว่านายทวาร อังเดร โอนาน่า ซึ่งทำพลาดในเกมเสมอลียง อาจถูกดร็อปเป็นสำรอง และให้ อัลตาย บายินดีร์ ลงมาเฝ้าเสาแทน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นิวคาสเซิ่ล : นิค โป๊ป (GK), คีแรน ทริปเปียร์, ฟาเบียน แชร์, แดน เบิร์น, ติโน ลิฟราเมนโต้, ซานโดร โตนาลี่, โชลินตอน, บรูโน่ กีมาไรส์, ฮาร์วีย์ บาร์นส์, เจค็อบ เมอร์ฟี่ย์, อเล็กซานเดอร์ อิซัค
แมนยูไนเต็ด : อัลตาย บายินดีร์ (GK), นูสแซร์ มาซราวี, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เลนี่ โยโร่, แพทริก ดอร์กู, ดิโอโก้ ดาโลต์, มานูเอล อูการ์เต้, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อเลฮานโดร การ์นาโช่, เมสัน เมาท์, โจชัว เซิร์กซี่
ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุด
นิวคาสเซิ่ล
- 07/04/25 ชนะ เลสเตอร์ 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 03/04/25 ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 16/03/25 ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (สนามกลาง) คาราบาว คัพ
- 10/03/25 ชนะ เวสต์แฮม 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 02/03/25 แพ้ ไบรท์ตัน 1-2 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- 10/04/25 เสมอ โอลิมปิก ลียง 2-2 (เยือน) ยูโรป้า ลีก
- 06/04/25 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 02/04/25 แพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 17/03/25 ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 13/03/25 ชนะ เรอัล โซเซียดาด 4-1 (เหย้า) ยูโรป้า ลีก
ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด
- 30/12/24 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2 นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก)
- 16/05/24 แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก)
- 03/12/23 นิวคาสเซิ่ล 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
- 02/11/23 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-3 นิวคาสเซิ่ล (คาราบาว คัพ)
- 02/04/23 นิวคาสเซิ่ล 2-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
บทวิเคราะห์
ฟอร์มในตอนนี้ของ นิวคาสเซิ่ล เหนือกว่าชัดเจน และอยู่ในเส้นทางพื้นที่ลุ้นโควต้าไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างเต็มตัว ยิ่งตอนนี้คอนเฟิร์มแล้วว่า ทีมท็อป 5 ของพรีเมียร์ลีกจะได้โควตาไปยูซีแอล ยิ่งทำให้โอกาสของทีมสาลิกาดงมีเพิ่มมากขึ้นไปอีก และกุนซือเอ็ดดี้ ฮาว คงต้องกำชับให้ลูกทีมเน้นทุกนัดในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
ในขณะที่ แมนยู ฟอร์มยังแกว่งไปแกว่งมาเหมือนเดิม และด้วยสถานการณ์ในลีกที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ทำให้เชื่อว่าทีมผีแดงน่าจะเบนเป้าหมายสำคัญไปที่ศึกยูโรป้า ลีกมากกว่า ซึ่งเป็นถ้วยเดียวที่พวกเขายังมีโอกาสลุ้นแชมป์อยู่ในตอนนี้
ดังนั้น แมนยู จึงน่าจะเป็นรองทุกประตู ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่น แถมต้องออกมาเล่นเป็นทีมเยือน รวมไปถึงโฟกัสที่น่าจะมุ่งไปที่เกมยูโรป้าลีกในสัปดาห์หน้า ดูแล้วมีโอกาสสูงที่แข้งผีแดงอาจต้องกลับบ้านมือเปล่าในเกมนี้ และเป็นทีม “สาลิกาดง” ที่เปิดบ้านคว้า 3 คะแนนเต็มไปครองได้สำเร็จ
สกอร์ที่คาด
นิวคาสเซิ่ล 2-1 แมนยูไนเต็ด