รีเซต
วิธีดูแลรอยสัก และช้อห้ามหลังสัก ดูแลรอยสักให้สีชัด แผลแห้งไว ต้องทำอย่างไร

วิธีดูแลรอยสัก และช้อห้ามหลังสัก ดูแลรอยสักให้สีชัด แผลแห้งไว ต้องทำอย่างไร

วิธีดูแลรอยสัก และช้อห้ามหลังสัก ดูแลรอยสักให้สีชัด แผลแห้งไว ต้องทำอย่างไร
TNP1459
8 มีนาคม 2567 ( 11:25 )
66.4K

       ทำอย่างไรให้ลายสักสวยๆ สีชัด ติดทน แถมแห้งไว เรามี วิธีดูแลรอยสัก และช้อห้ามหลังสัก มาแนะนำ! เพราะหลังจากสัก ผิวจะเป็นแผลเปิดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายมาก สิ่งสำคัญคือต้องดูแลบริเวณที่สักอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และเพื่อให้รอยสักสีสด คงความสวยงามไปอีกนาน โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดสัก จะต้องระวังอะไรบ้าง และดูแลรอยสักอย่างไรให้สีชัด มาลองทำตามวิธีเหล่านี้ได้เลย! แล้วรอยสักจะสวย เท่ ติดทนไปอีกนาน


วิธีดูแลรอยสักใหม่ ข้อห้ามหลังสักมีอะไรบ้าง พร้อมวิธีดูแลรอยสักให้สีสด

 

1. หลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณที่สัก

ควรดูแลรอยสักให้สะอาดและแห้ง หลีกเลี่ยงการโดนน้ำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หลังจากนั้น ให้ล้างบริเวณรอยสักเบาๆ ด้วยน้ำสะอาด หรือทิชชู่เปียกแบบไม่มีแอลกอฮอล์ และใช้น้ำเกลือชนิดสำหรับทำความสะอาดแผล ที่มีขายตามร้านขายยาทั่วไป เมื่อทำความสะอาดแล้ว ซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด บางแห่งช่างสักอาจแปะแรปพลาสติกสำหรับรอยสักมาให้ด้วย  ซึ่งปกติแล้วจะติดไว้ไม่เกิน 3 ช.ม.แล้วนำออกเพื่อป้องกันแผลอับชื้น หรืออาจนานกว่านั้นแล้วแต่คำแนะนำของช่างสัก

 

 

2. ทาครีมรักษาแผลรอยสัก

ทาครีมรักษาบาง ๆ ในบริเวณที่มีรอยสักหลังจากล้าง วิธีนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผยหายไว เช่น บีแพนเธน® เฟิร์สเอด (bepanthen first aid) โดยทาบางๆประมาณ เมล็ดถั่ว ต่อขนาดรอยสักประมาณ 1 ฝ่ามือ ทาเช้าเย็นหลังอาบน้ำ และไม่ต้องปิดผ้าพันแผล เพื่อให้แผลสัมผัสกับอากาศและแห้งเร็วขึ้น

3. หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่น

หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเพื่อไม่ให้เสียดสีกับรอยสัก เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้แผลหายช้า และควรใส่ผ้าเนื้อโปร่ง ระบายอากาศได้ดี เพื่อไม่ให้แผลอับชื้น

4. หลีกเลี่ยงแสงแดด

อย่าให้รอยสักโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากการสัมผัสแสงแดดอาจทำให้สีซีดจางและทำให้ผิวแสบแดงระคายเคืองได้

5. หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำและอาบน้ำร้อน

หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ ไม่ว่าจะในสระว่ายน้ำหรืออ่างน้ำร้อน เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากสัก เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

6. ไม่แคะ แกะ เการอยสัก

ช่วงวันที่ 6-14 รอยสักจะเริ่มตกสะเก็ดและหลุดลอกออก และทำให้รู้สึกคัน ซึ่งไม่ควรเกาและดึงออกเองเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ วิธีที่ถูกต้องคือปล่อยให้หลุดเองธรรมชาติ และใช้ครีมบำรุงสูตรอ่อนโยนทาบำรุงไม่ให้ผิวแห้งเพื่อลดอาการคัน

 

สัญญาณเตือน หลังสัก มีอาการแบบไหนต้องไปพบแพทย์

     หากดูแลรอยสักตามวิธีข้างต้นแล้ว ยังมีอาการต่อไปนี้เกิดขึ้นหลังสัก นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจเกิดการติดเชื้อ และควรรีบไปพบแพทย์ทันที

  1. รอยสักบวมแดงมากขึ้น ไม่ยุบลง และมีไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย
  2. มีของเหลวไหลซึมออกมาจากแผลมากผิดปกติ และมากขึ้น มีหนอง หรือมีน้ำเหลืองซึมออกมาอยู่ตลอดเวลา
  3. เกิดสะเก็ดแผลนูนมากผิดปกติบริเวณรอยสักและบริเวณขอบรอยสัก
  4. มีผื่นคันและมีอาการบวมนานเกินกว่า 1 สัปดาห์ และอาการไม่ลดลง
  5. มีอาการคันมากบริเวณรอบรอยสัก มาครีมแล้วก็ไม่ดีขึ้น

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!
เคล็ดลับการรับชมพรีเมียร์ลีกให้มันส์จุใจในทุกช่องทาง คลิกเลย!

ยอดนิยมในตอนนี้

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี