รีเซต
ผู้ชายกลิ่นตัวแรง เพราะอะไร อะไรเป็นสาเหตุ และวิธีแก้กลิ่นตัวเเรงด้วยตัวเอง

ผู้ชายกลิ่นตัวแรง เพราะอะไร อะไรเป็นสาเหตุ และวิธีแก้กลิ่นตัวเเรงด้วยตัวเอง

ผู้ชายกลิ่นตัวแรง เพราะอะไร อะไรเป็นสาเหตุ และวิธีแก้กลิ่นตัวเเรงด้วยตัวเอง
WeenayA
14 มิถุนายน 2566 ( 08:19 )
4.1K

     กลิ่นตัว ปัญหาคู่ตัวแสนน่าปวดหัว แล้วกลิ่นตัวผู้ชายเกิดจากอะไร มีอะไรเป็นสาเหตุบ้าง วิธีแก้ไขกลิ่นตัวทำได้อย่างไร อาหารอะไรที่ทำให้มีกลิ่นตัว หรืออะไรช่วยลดกลิ่นตัวได้บ้าง กลิ่นตัวบอกโรคอะไรบางอย่างกับคุณอยู่หรือปล่าว วันนี้ TrueID Sport หาคำตอบมาให้คุณไม่ว่าจะกลิ่นตัวเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นตัวเหม็นเขียวคุณก็สามารถแก้ได้ไม่ยาก

 

 

ผู้ชายกลิ่นตัวแรง เพราะอะไร
อะไรเป็นสาเหตุ และวิธีแก้กลิ่นตัวเเรงด้วยตัวเอง

 

สาเหตุที่ผู้ชายมีกลิ่นตัวมากกว่าผู้หญิง

  1. ต่อมเหงื่อที่มากกว่า เนื่องจากผู้ชายมีต่อมเหงื่ออะโพไครน์ (Apocrine) มากกว่าผู้หญิง อะโพไครน์คือต่อมเหงื่อขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้วงแขนเป็นจำนวนมาก
  2. ฮอร์โมนเพศชาย ผู้ชายมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมากกว่าผู้หญิง ซึ่งเป็นตัวกระตุ้น ต่อมเหงื่ออะโพไครน์ให้ผลิตเหงื่อและมีกลิ่นตัวที่มากขึ้น
  3. พันธุกรรม ในบางครอบครัวอาจมีการถ่ายทอดยีน ABCC11 มาในครอบครัว ซึ่งเป็นยีนส์ผลิตโปรตีนที่ช่วยขับเหงื่อออกจากร่างกาย
  4. มีภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ ถึงในเมืองไทยมีอากาศร้อนมาก แต่บางคนก็มีภาวะเหงื่อออกมากแม้อยู่ในที่ร่มหรืออากาศไม่ร้อนมาก
  5. อาหาร อาหารกลิ่นแรงบางประเภทหากกินเป็นปริมาณมากสะสมเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดกลิ่นตัวที่แรงได้ หรือการที่ระบบย่อยอาหารที่ไม่ดีก็เป็นตัวแปรของการเกิดกลิ่นตัวได้เช่นกัน
  6. เสื้อผ้าที่สวมใส่ การหมักหมมเสื้อผ้าที่ใส่ไว้นาน หรือซักเสื้อผ้าไม่สะอาดก็เป็นแหล่งสะสมกลิ่นตัวได้เช่นกัน การสวมใส่เสื้อที่รัดเกินไป เนื้อผ้าระบายอากาศได้ไม่ดีก็เป็นตัวเร่งให้เกิดกลิ่นตัวได้เช่นกัน
  7. โรคประจำตัว โรคประจำตัวบางโรคทำให้เกิดกลิ่นตัวได้เช่น Hyperhidrosis (ภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ) โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เหงื่อออกมากมีกลิ่นตัวมากจะเป็นโรคเหล่านี้ทางที่ดีควรตรวจร่างกายประจำปีเพื่อหาความผิดปกติอย่างถูกต้อง

 

 


วิธีแก้กลิ่นตัวแบบต่างๆ

การแก้กลิ่นตัวแบบต่างๆ ทำได้หลายวิธี ซึ่งหากทำได้ดังนี้ปัญหากลิ่นตัวของคุณก็จะบรรเทาเบาบางลง

 

 

  1. อาบน้ำให้สะอาด

    สิ่งนี้ทุกคนล้วนต้องทำกันในชีวิตประจำวันกันอยู่แล้ว แต่การอาบน้ำแบบผ่านๆ นั้นไม่อาจแก้ปัญหากลิ่นตัวได้ การอาบน้ำเพื่อแก้ปัญหากลิ่นตัวควรเน้นจุดที่เกิดเหงื่อมากเป็นพิเศษ เช่น รักแร้ ขาหนีบ และเท้า ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ใช้ควรเป็นแบบต้านเชื้อแบคทีเรีย


  2. หลังอาบน้ำอย่าลืมขั้นตอนสำคัญ

    หลังอาบน้ำไม่ควรข้ามขั้นตอนการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา  เพราะผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีสารต้านเชื้อแบคทีเรียมักทำให้ผิวแห้งได้ หลังจากทามอยเจอร์ไรเซอร์แล้วควรเป่าตัวให้แห้งด้วยลมเย็น จากนั้นทาโรลออนระงับกลิ่นกายแล้วรอให้แห้งก่อนใส่เสื้อผ้า 


  3. ใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่น และระบายอากาศได้ดี

    เสื้อผ้าที่แน่นแนบเนื้อเกินไปทำให้ไม่สามารถระบายอากาศ ระบายความร้อนจากผิวหนังได้จนเกิดเหงื่อแล้วตามมาด้วยกลิ่นตัว การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่หลวม และทำจากเส้นใยธรรมชาติจะช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้ดี




  4. ซักผ้าให้สะอาด

    การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าถึงจะสะดวก และรวดเร็วแต่อาจทำให้คุณมองข้ามคราบสะสมเฉพาะจุดได้โดยเฉพาะในส่วนของแขนเสื้อส่วนที่สัมผัสกับวงแขน ในส่วนนี้ถึงคุณจะทาโรลออน แต่เมื่อเหงื่อออกมาผสมกับโรวออนทั้งสองสิ่งจะจับตัวกันติดที่เสื้อกลายเป็นคราบเหลืองๆ แข็งๆ หากซักไม่สะอาดจุดนี้จะเป็นแหล่งกำเนิดกลิ่นตัวชั้นดี

    วิธีแก้ไขคราบโรวออนที่วงแขนเสื้อมีดังนี้
    วิธีที่ 1 ผสมผสมเบกกิ้งโซดา 1 ส่วนกับน้ำ 2 ส่วนจนเป็นเนื้อข้นป้ายตรงบริเวณที่มีคราบพักไว้ 30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็นแล้วซักตามปกติ

    วิธีที่ 2 นำน้ำส้มสายชู  1 ส่วนผสมน้ำ 2 ส่วน แล้วนำเสื้อลงไปแช่อย่างน้อย 30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็นแล้วซักตามปกติ

    วิธีที่ 3 นำน้ำพรมบริเวณที่มีคราบ จากนั้นใช้น้ำยาซักผ้าป้ายลงไปขยี้เบาๆ พักไว้ 30 นาที แล้วซักตามปกติ


  5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

    การดื่มน้ำให้เพียงพอนอกจากดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยให้เหงื่อของคุณมีความเจือจางลงทำให้โอกาสการเกิดกลิ่นตัวนั้นน้อยลง



  6. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว

    อาหารบางชนิดมีกำมะถันสูงทำให้เกิดกลิ่นตัวรุนแรงได้หากรับประทานเป็นจำนวนมากหรือบ่อยเกินไป อาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวอย่างเช่น กระเทียม หัวหอม หน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี เนื้อแดง ผลิตภัณฑ์จากนม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดกลิ่นตัวได้เช่นกัน ในด้านของอาหารบางชนิดนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย การที่จะไม่รับประทานเลยเกิดผลเสียมากกว่า ควรแก้ด้วยการรับประทานที่หลากหลาย และไม่ซ้ำจนเกินไป


  7. กินอาหารที่ช่วยลดกลิ่นตัว

    ผลไม้ตระกูลส้ม ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า และผักกาดหอม มีสารต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้


  8. ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อแบบเฉพาะทาง

    ในปัจจุบันมียาทาเพื่อระงับเหงื่อ อลูมิเนียมคลอไรด์ (Aluminum Chloride) สำหรับผู้ที่มีเหงื่อออกผิดปกติสามารถซื้อได้ตามร้านขายยาแต่เนื่องจากการใช้ยาทาเพื่อระงับเหงื่อ อลูมิเนียมคลอไรด์ มีข้อจำกัดวิธีการใช้เฉพาะทาง ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ประจำตัวก่อนใช้


  9. ลดความเครียด

    ภาวะความเครียดเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก แต่ความเครียดมีผลทำให้ร่างกายเกิดเหงี่อมากขึ้นควรหากิจกรรมที่ช่วยลดความเครียดที่คุณสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน


  10. พกตัวช่วยระหว่างวัน

    ในระหว่างวันอะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนอบอ้าว ความเครียด ควรพกทิชชู่เปียกเพื่อเช็ดคราบไคลที่มีกลิ่นระหว่างวัน ตามด้วยทิชชู่แห้งก็สามารถช่วยบรรเทากลิ่นได้เบื้องต้น

 


บทความที่คุณอาจสนใจ

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี