รีเซต
วิธีเช็กรถ ตรวจรถ ใน 10 นาที ขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง สำหรับผู้ชายรักรถ

วิธีเช็กรถ ตรวจรถ ใน 10 นาที ขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง สำหรับผู้ชายรักรถ

วิธีเช็กรถ ตรวจรถ ใน 10 นาที ขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง สำหรับผู้ชายรักรถ
TNP1459
13 สิงหาคม 2568 ( 17:39 )
24

       ก่อนเดินทางประจำวัน ถึงจะเป็นระยะทางใกล้ๆ ก็ต้องอย่าลืม เช็กรถ ตรวจรถ ก่อนเดินทาง เสมอ เพราะการขับรถให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือขับขี่เพียงอย่างเดียว “ความพร้อมของรถ” คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม ต่อให้เป็นสายขับรถเก่งแค่ไหน แต่ถ้าลืมเติมลมยาง แบตหมดกลางทาง หรือเบรกมีปัญหา การเดินทางก็กลายเป็นฝันร้ายได้ง่ายๆ เพื่อความมั่นใจทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถ ลองเช็ก 8 จุดเบื้องต้นที่เรารวบรวมมาให้ในแบบ Check-list ทำตามได้ภายใน 10 นาทีเท่านั้น

 

 

      การเช็กรถเบื้องต้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ไม่ต้องเป็นช่างก็ทำได้ ใช้เวลาแค่ 10 นาทีต่อวัน หรือทุกครั้งก่อนเดินทางไกล ช่วยลดความเสี่ยง และทำให้คุณมั่นใจตลอดเส้นทาง เพราะความปลอดภัย...ไม่ควรฝากไว้แค่กับโชคดี 

 

1. ตรวจลมยางและสภาพยาง

 

  • ตรวจสอบแรงดันลมยางทั้ง 4 เส้น (รวมถึงยางอะไหล่)
  • ดูว่าแก้มยางมีรอยบาด บวม หรือยางใกล้หมดอายุหรือไม่
  • แรงดันที่แนะนำจะอยู่ในคู่มือรถ หรือข้างประตูฝั่งคนขับ

ทำไมต้องเช็ก?

ยางอ่อนหรือแข็งเกินไป จะทำให้ควบคุมรถยาก และกินน้ำมันมากกว่าปกติ รวมถึงเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

 

2. ตรวจน้ำมันเครื่อง

  • เปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้วดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมาเช็กระดับ
  • ดูว่าสีของน้ำมันยังใส ไม่ดำ และไม่ขาดระดับ
  • ถ้าน้ำมันแห้งหรือใกล้ครบระยะ เปลี่ยนถ่ายตามรอบทันที

ทำไมต้องเช็ก?

น้ำมันเครื่องที่สกปรกหรือพร่อง จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ และอาจพังโดยไม่ทันตั้งตัว

 

3. น้ำหล่อเย็นหม้อน้ำ

 

  • ดูระดับน้ำในหม้อน้ำสำรอง (ไม่ควรเปิดฝาหลักตอนเครื่องร้อน)
  • น้ำควรอยู่ในระดับ “Min – Max” และมีสีใส ไม่ขุ่นหรือเป็นตะกอน
  • เติมน้ำหล่อเย็นแท้เท่านั้น ไม่แนะนำให้น้ำเปล่าอย่างเดียว

ทำไมต้องเช็ก?

เครื่องยนต์จะร้อนเกิน ถ้าน้ำหล่อเย็นต่ำ อาจทำให้เครื่องน็อกกลางทาง

 

4. ระบบไฟ ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว

  • ลองเปิดไฟรอบคันดูว่าไฟติดครบไหม
  • กดเบรกเช็กว่าไฟเบรกทำงาน
  • ไฟเลี้ยวซ้าย-ขวากระพริบได้ปกติหรือเปล่า

ทำไมต้องเช็ก?

ไฟขัดข้อง = สื่อสารกับรถคันอื่นไม่ได้ เสี่ยงอุบัติเหตุโดยไม่ตั้งใจ

 

5. ที่ปัดน้ำฝน และน้ำฉีดกระจก

  • ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นดูว่ายางยังแนบสนิทกับกระจกไหม
  • เติมน้ำฉีดกระจกให้พร้อม โดยเฉพาะช่วงฝนตกหรือขับต่างจังหวัด

ทำไมต้องเช็ก?

ฝนตกแรงๆ แต่ปัดไม่สะอาด = มองไม่เห็นทาง = เสี่ยงชนแบบไม่รู้ตัว

 

6. แบตเตอรี่

  • สังเกตคราบขาวบนขั้วแบต ถ้ามีให้ทำความสะอาด
  • เช็กอายุแบต ถ้าใกล้ครบ 2 ปี ควรเริ่มระวัง
  • สตาร์ทรถดูว่าเครื่องติดง่ายหรือมีเสียงแปลกไหม

ทำไมต้องเช็ก?

แบตหมดกลางทาง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่คนเดียวในที่เปลี่ยว

 

7. เบรก

 

 

  • ลองเหยียบเบรกเบาๆ เช็กว่ามีเสียงดังหรือแป้นจมไหม
  • ระยะเบรกตอบสนองไวหรือมีอาการสั่น
  • ถ้าเบรกดังจี๊ดๆ หรือฝืด ควรรีบให้ช่างดู

ทำไมต้องเช็ก?

ระบบเบรกดี เท่ากับความมั่นใจในการหยุดรถฉุกเฉิน รับมือเหตุไม่คาดฝันได้ทันท่วงที

 

8. เอกสารรถ และของจำเป็น

  • ตรวจใบขับขี่, พ.ร.บ., ประกันภัย, ทะเบียนรถให้อยู่ครบ
  • ตรวจของติดรถ เช่น แม่แรง, ยางอะไหล่, สายพ่วงแบต, ไฟฉาย, ชุดปฐมพยาบาล

ทำไมต้องเช็ก?

เหตุไม่คาดฝันเกิดได้เสมอ และของเล็กๆ พวกนี้ช่วยชีวิตคุณได้จริง

 

ตารางตรวจรถ เช็กรถ เบื้องต้น

ลำดับรายการตรวจสอบรายละเอียดเช็กแล้ว (✔)
1ลมยางแรงดันยางอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด / ยางไม่บวม แตก ร้าว 
2ยางอะไหล่มีพร้อมใช้งาน และเติมลมไว้แล้ว 
3น้ำมันเครื่องอยู่ในระดับปกติ / สีใส ไม่ดำ / ไม่มีคราบตะกอน 
4น้ำหล่อเย็นหม้อน้ำอยู่ในระดับ Min – Max / สีใส / ไม่มีตะกอน 
5ไฟหน้า-ท้าย-เบรก-เลี้ยวติดครบทุกดวง / ไฟเบรกทำงาน / ไฟเลี้ยวกระพริบชัดเจน 
6ที่ปัดน้ำฝน + น้ำฉีดกระจกปัดสะอาด / ยางไม่เสื่อม / น้ำฉีดกระจกมีพร้อมใช้ 
7แบตเตอรี่ขั้วแบตสะอาด / สตาร์ทติดง่าย / ไม่มีเสียงแปลก 
8เบรกเหยียบแล้วไม่จม / ไม่มีเสียงดัง / ตอบสนองไว 
9เอกสารรถครบใบขับขี่, ทะเบียน, พ.ร.บ., ประกันภัย 
10อุปกรณ์ฉุกเฉินแม่แรง, ยางอะไหล่, สายพ่วงแบต, ไฟฉาย, ชุดปฐมพยาบาล 

 

สำหรับใครที่ต้องขับรถไกลๆ คลิกอ่านเลย! -> วิธีเช็ครถยนต์ด้วยตัวเองสำหรับพ่อบ้านสายประหยัด ก่อนลุยทริปยาว ปลอดภัยกว่าที่คิด

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี