
วิธีเช็กรถ ตรวจรถ ใน 10 นาที ขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง สำหรับผู้ชายรักรถ

ก่อนเดินทางประจำวัน ถึงจะเป็นระยะทางใกล้ๆ ก็ต้องอย่าลืม เช็กรถ ตรวจรถ ก่อนเดินทาง เสมอ เพราะการขับรถให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือขับขี่เพียงอย่างเดียว “ความพร้อมของรถ” คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม ต่อให้เป็นสายขับรถเก่งแค่ไหน แต่ถ้าลืมเติมลมยาง แบตหมดกลางทาง หรือเบรกมีปัญหา การเดินทางก็กลายเป็นฝันร้ายได้ง่ายๆ เพื่อความมั่นใจทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถ ลองเช็ก 8 จุดเบื้องต้นที่เรารวบรวมมาให้ในแบบ Check-list ทำตามได้ภายใน 10 นาทีเท่านั้น
การเช็กรถเบื้องต้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ไม่ต้องเป็นช่างก็ทำได้ ใช้เวลาแค่ 10 นาทีต่อวัน หรือทุกครั้งก่อนเดินทางไกล ช่วยลดความเสี่ยง และทำให้คุณมั่นใจตลอดเส้นทาง เพราะความปลอดภัย...ไม่ควรฝากไว้แค่กับโชคดี
1. ตรวจลมยางและสภาพยาง
- ตรวจสอบแรงดันลมยางทั้ง 4 เส้น (รวมถึงยางอะไหล่)
- ดูว่าแก้มยางมีรอยบาด บวม หรือยางใกล้หมดอายุหรือไม่
- แรงดันที่แนะนำจะอยู่ในคู่มือรถ หรือข้างประตูฝั่งคนขับ
ทำไมต้องเช็ก?
ยางอ่อนหรือแข็งเกินไป จะทำให้ควบคุมรถยาก และกินน้ำมันมากกว่าปกติ รวมถึงเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
2. ตรวจน้ำมันเครื่อง
- เปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้วดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมาเช็กระดับ
- ดูว่าสีของน้ำมันยังใส ไม่ดำ และไม่ขาดระดับ
- ถ้าน้ำมันแห้งหรือใกล้ครบระยะ เปลี่ยนถ่ายตามรอบทันที
ทำไมต้องเช็ก?
น้ำมันเครื่องที่สกปรกหรือพร่อง จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ และอาจพังโดยไม่ทันตั้งตัว
3. น้ำหล่อเย็นหม้อน้ำ
- ดูระดับน้ำในหม้อน้ำสำรอง (ไม่ควรเปิดฝาหลักตอนเครื่องร้อน)
- น้ำควรอยู่ในระดับ “Min – Max” และมีสีใส ไม่ขุ่นหรือเป็นตะกอน
- เติมน้ำหล่อเย็นแท้เท่านั้น ไม่แนะนำให้น้ำเปล่าอย่างเดียว
ทำไมต้องเช็ก?
เครื่องยนต์จะร้อนเกิน ถ้าน้ำหล่อเย็นต่ำ อาจทำให้เครื่องน็อกกลางทาง
4. ระบบไฟ ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว
- ลองเปิดไฟรอบคันดูว่าไฟติดครบไหม
- กดเบรกเช็กว่าไฟเบรกทำงาน
- ไฟเลี้ยวซ้าย-ขวากระพริบได้ปกติหรือเปล่า
ทำไมต้องเช็ก?
ไฟขัดข้อง = สื่อสารกับรถคันอื่นไม่ได้ เสี่ยงอุบัติเหตุโดยไม่ตั้งใจ
5. ที่ปัดน้ำฝน และน้ำฉีดกระจก
- ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นดูว่ายางยังแนบสนิทกับกระจกไหม
- เติมน้ำฉีดกระจกให้พร้อม โดยเฉพาะช่วงฝนตกหรือขับต่างจังหวัด
ทำไมต้องเช็ก?
ฝนตกแรงๆ แต่ปัดไม่สะอาด = มองไม่เห็นทาง = เสี่ยงชนแบบไม่รู้ตัว
6. แบตเตอรี่
- สังเกตคราบขาวบนขั้วแบต ถ้ามีให้ทำความสะอาด
- เช็กอายุแบต ถ้าใกล้ครบ 2 ปี ควรเริ่มระวัง
- สตาร์ทรถดูว่าเครื่องติดง่ายหรือมีเสียงแปลกไหม
ทำไมต้องเช็ก?
แบตหมดกลางทาง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่คนเดียวในที่เปลี่ยว
7. เบรก
- ลองเหยียบเบรกเบาๆ เช็กว่ามีเสียงดังหรือแป้นจมไหม
- ระยะเบรกตอบสนองไวหรือมีอาการสั่น
- ถ้าเบรกดังจี๊ดๆ หรือฝืด ควรรีบให้ช่างดู
ทำไมต้องเช็ก?
ระบบเบรกดี เท่ากับความมั่นใจในการหยุดรถฉุกเฉิน รับมือเหตุไม่คาดฝันได้ทันท่วงที
8. เอกสารรถ และของจำเป็น
- ตรวจใบขับขี่, พ.ร.บ., ประกันภัย, ทะเบียนรถให้อยู่ครบ
- ตรวจของติดรถ เช่น แม่แรง, ยางอะไหล่, สายพ่วงแบต, ไฟฉาย, ชุดปฐมพยาบาล
ทำไมต้องเช็ก?
เหตุไม่คาดฝันเกิดได้เสมอ และของเล็กๆ พวกนี้ช่วยชีวิตคุณได้จริง
ตารางตรวจรถ เช็กรถ เบื้องต้น
ลำดับ | รายการตรวจสอบ | รายละเอียด | เช็กแล้ว (✔) |
---|---|---|---|
1 | ลมยาง | แรงดันยางอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด / ยางไม่บวม แตก ร้าว | |
2 | ยางอะไหล่ | มีพร้อมใช้งาน และเติมลมไว้แล้ว | |
3 | น้ำมันเครื่อง | อยู่ในระดับปกติ / สีใส ไม่ดำ / ไม่มีคราบตะกอน | |
4 | น้ำหล่อเย็นหม้อน้ำ | อยู่ในระดับ Min – Max / สีใส / ไม่มีตะกอน | |
5 | ไฟหน้า-ท้าย-เบรก-เลี้ยว | ติดครบทุกดวง / ไฟเบรกทำงาน / ไฟเลี้ยวกระพริบชัดเจน | |
6 | ที่ปัดน้ำฝน + น้ำฉีดกระจก | ปัดสะอาด / ยางไม่เสื่อม / น้ำฉีดกระจกมีพร้อมใช้ | |
7 | แบตเตอรี่ | ขั้วแบตสะอาด / สตาร์ทติดง่าย / ไม่มีเสียงแปลก | |
8 | เบรก | เหยียบแล้วไม่จม / ไม่มีเสียงดัง / ตอบสนองไว | |
9 | เอกสารรถครบ | ใบขับขี่, ทะเบียน, พ.ร.บ., ประกันภัย | |
10 | อุปกรณ์ฉุกเฉิน | แม่แรง, ยางอะไหล่, สายพ่วงแบต, ไฟฉาย, ชุดปฐมพยาบาล |
สำหรับใครที่ต้องขับรถไกลๆ คลิกอ่านเลย! -> วิธีเช็ครถยนต์ด้วยตัวเองสำหรับพ่อบ้านสายประหยัด ก่อนลุยทริปยาว ปลอดภัยกว่าที่คิด