
ท่าออกกำลังกายสำหรับมือใหม่ ที่ง่ายที่สุดแต่ได้ผลจริง
รวม 3 ท่าออกกำลังกายสำหรับมือใหม่ ทำไม่ยากแต่ปั้นกล้ามได้จริง เพราะการเริ่มออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องซับซ้อน ไม่ต้องมีอุปกรณ์ครบ ไม่ต้องใช้เทคนิคยากๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือเริ่มต้นด้วยท่าพื้นฐานที่ปลอดภัย เข้าใจง่าย และสร้างผลลัพธ์ได้เร็วพอที่จะทำให้คุณอยากทำต่อไปเรื่อยๆ
ลองมาทำความรู้จัก 3 ท่าออกกำลังกายที่เหมาะกับ “มือใหม่แบบสุดๆ” แต่ยังคงประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น กระชับขึ้น และรู้สึกดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ ทั้งหมดนี้ทำได้ที่บ้าน ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีต่อวันเท่านั้นเอง
1) Squat ท่าเบสิกที่เพิ่มความแข็งแรงทั้งตัว
Squat คือท่าพื้นฐานที่ใช้กล้ามเนื้อหลายส่วนพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นขา ก้น ลำตัว และการทรงตัว ท่านี้เหมาะกับมือใหม่มากเพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ และเป็นการเคลื่อนไหวธรรมชาติที่ร่างกายคุ้นเคยอยู่แล้ว
ประโยชน์ของ Squat
- เสริมความแข็งแรงของขาและก้น
- ช่วยให้การทรงตัวดีขึ้น
- เพิ่มการเผาผลาญมากกว่าท่าบริหารจุดเดียว
- ใช้เป็นพื้นฐานต่อยอดท่าอื่น ๆ ได้ง่าย
เทคนิคสำหรับมือใหม่
- ยืนเท้ากว้างประมาณหัวไหล่
- เก็บหลังให้ตรง ไม่งอหลัง
- ดันสะโพกไปด้านหลังเหมือนกำลังนั่งเก้าอี้
- ลงช้า ๆ ขึ้นช้า ๆ ไม่ต้องรีบ
เริ่มที่ 10–15 ครั้งต่อเซ็ต ประมาณ 2–3 เซ็ตก็เพียงพอสำหรับร่างกายที่ยังใหม่กับการฝึก
2) Push-up ท่าง่ายที่เสริมกล้ามเนื้อช่วงบนแบบครบๆ
สำหรับมือใหม่ ท่าวิดพื้นอาจดูค่อนข้างหนัก แต่ถ้าปรับระดับให้เหมาะสม ก็เป็นท่าที่ช่วยสร้างอก ไหล่ แขน และลำตัวส่วนบนได้อย่างดีมาก Push-up เป็นหนึ่งในท่าที่ให้ผลลัพธ์เร็ว เพราะกระตุ้นกล้ามเนื้อหลายมัดพร้อมกัน
ประโยชน์ของ Push-up
- กระตุ้นกล้ามเนื้อช่วงบนครบ
- ช่วยให้ท่าทางดีขึ้น
- เพิ่มความแข็งแรงพื้นฐาน
- พัฒนาแรงผลักที่จำเป็นในกิจกรรมต่าง ๆ
ทางเลือกสำหรับมือใหม่
ถ้ายังทำ Push-up แบบเต็มท่าไม่ได้ ให้เริ่มแบบง่ายก่อน
- Wall Push-up: พิงกำแพงแล้ววิดพื้น
- Incline Push-up: ใช้โต๊ะหรือเก้าอี้ช่วย
- Knee Push-up: คุกเข่าเพื่อลดน้ำหนักตัว
แนะนำให้เริ่มประมาณ 8–12 ครั้งต่อเซ็ต แล้วค่อยเพิ่มทีละนิดเมื่อเริ่มไหวมากขึ้น
3) Plank ท่าที่ง่ายที่สุดแต่ช่วยให้กล้ามท้องและแกนกลางแข็งแรงจริง
Plank เป็นท่าที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ถือว่าได้ผลมากสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเสริม “แกนกลางลำตัว (Core)” เพราะทำให้หน้าท้อง หลัง และลำตัวช่วงล่างแข็งแรงขึ้น ช่วยเรื่องท่าทาง และลดอาการปวดหลังได้ดี
ประโยชน์ของ Plank
- กระชับหน้าท้องและแกนกลาง
- ลดแรงกดที่หลังล่าง
- ช่วยให้ร่างกายทรงตัวได้ดีขึ้น
- เพิ่มความมั่นคงในการออกกำลังกายท่าอื่น
เทคนิคที่ควรรู้
- หลังตรง ไม่แอ่น
- เกร็งหน้าท้องและก้นไว้ตลอด
- คอตรงในระดับเดียวกับลำตัว
- เริ่มจาก 20–30 วินาที แล้วค่อยเพิ่มเป็น 45–60 วินาทีเมื่อเริ่มแข็งแรงขึ้น
ถึงแม้ Plank จะเหมือนง่าย แต่ถ้าคุมฟอร์มถูกต้อง เพียงแค่ 30 วินาทีก็รู้สึกได้ว่ากล้ามท้องทำงานเต็มที่
ทำไม 3 ท่านี้ถึงเหมาะกับมือใหม่ที่สุด
หลายคนที่เริ่มออกกำลังกายมักหลงไปกับท่ายาก อุปกรณ์เยอะ หรือคลิปออกกำลังกายที่ต้องตามให้ทัน แต่ความจริงคือร่างกายต้องการ “พื้นฐานที่มั่นคง” ก่อน ซึ่ง Squat – Push-up – Plank ตอบโจทย์ที่สุดเพราะว่า
- ไม่ใช้ท่าซับซ้อน
- ไม่เสี่ยงบาดเจ็บ
- ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา
- ครอบคลุมกล้ามเนื้อทั้งตัว
- เห็นผลเร็วพอที่จะเป็นแรงใจให้ทำต่อ
ถ้าคุณเริ่มจากท่าเหล่านี้ ร่างกายจะพัฒนากล้ามเนื้อ แรง และความทนทานในแบบที่ช่วยให้ท่ายากขึ้นกลายเป็นเรื่องง่ายในอนาคต
วิธีจัดเป็นเซ็ตง่าย ๆ สำหรับมือใหม่
ลองใช้รูปแบบนี้เพื่อเริ่มออกกำลังกายทุกวัน
- Squat 12–15 ครั้ง
- Push-up แบบที่เหมาะกับตัวเอง 8–12 ครั้ง
- Plank 20–30 วินาที
ทำทั้งหมด 2–3 รอบ ก็ถือว่าเพียงพอต่อการสร้างพื้นฐานที่ดี
สำหรับมือใหม่ การออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องของความหนัก แต่คือความสม่ำเสมอ คุณไม่จำเป็นต้องเก่งตั้งแต่วันแรก คุณแค่ต้องเริ่มต้น และให้แต่ละวันเป็นอีกก้าวที่พาคุณเข้าใกล้ร่างกายที่อยากมี กล้ามในฝันจะอยู่ไม่ไกลแน่นอน
บทความที่คุณอาจสนใจ
- วิธี Hack ร่างกายผู้ชายสายสร้างกล้าม ดูแลตัวเองอย่างไรสร้างกล้ามได้ไว
- เวลาน้อยก็หุ่นดีได้ วิธีออกกำลังกายสำหรับผู้ชายเวลาน้อย
- รวมท่าปั้นหัวไหล่ผู้ชายเวลาน้อย ภายใน 15 นาที ไหล่สวยได้แม้ไม่มีเวลา
- วิธีกินตาม TDEE สำหรับผู้ชายอยากปั้นกล้าม กินอย่างไรให้ได้ผล
- Warm up กับ Cool down ต่างกันอย่างไรทำไมสำคัญต่อการสร้างกล้าม
- วิธีเลือกดัมเบลสำหรับผู้ชายให้เหมาะกับการออกกำลังกาย
- รวมท่าออกกำลังกาย Dumbbell Complex เวลาน้อยได้ผลมาก
- รวมท่าฝึกแกนกลางลำตัว แบบไม่หนัก ได้กล้ามสวยแก้ปวดหลัง ทำตามง่าย
- สาเหตุที่ออกกำลังกายหนักแต่ไม่มีกล้าม เปลี่ยนวิธีนี้กล้ามขึ้นแน่
แท็ก
ยอดนิยมในตอนนี้
สิทธิประโยชน์แนะนำ

ยอดนิยมในตอนนี้
สิทธิประโยชน์แนะนำ

