นาฬิกา Grand Seiko 62GS สัมผัสแห่งฤดูกาลผ่านเรือนเวลา
Grand Seiko เปิดตัว 62GS ‘Rikka’ SBGH351 และ ‘Shubun’ SBGH353 ที่นำแรงบันดาลใจจากฤดูกาลในญี่ปุ่นมาสู่การออกแบบหน้าปัดของนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่เพียงแต่ในด้านความประณีตของงานฝีมือ แต่ยังรวมถึงแรงบันดาลใจที่หยั่งรากลึกในวัฒนธรรมญี่ปุ่นอีกด้วย โดยหนึ่งในแนวคิดที่โดดเด่นของ Grand Seiko คือการเชื่อมโยงนาฬิกาเข้ากับ “24 Sekki” ซึ่งเป็นปฏิทินฤดูกาลย่อยของญี่ปุ่น แทนที่จะแบ่งปีออกเป็นเพียง 4 ฤดูแบบตะวันตก ญี่ปุ่นใช้ระบบที่ละเอียดกว่า โดยแบ่งออกเป็น 24 ช่วง เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ของธรรมชาติในแต่ละช่วงเวลานั่นเอง
ฤดูกาลผ่านงานดีไซน์ของ Grand Seiko
62GS Rikka – เขียวสดแห่งต้นฤดูร้อน
‘Rikka’ เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านจากฤดูใบไม้ผลิสู่ฤดูร้อน ซึ่งตรงกับเดือนพฤษภาคมในปฏิทินญี่ปุ่น ที่อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี ลมฤดูร้อนพัดผ่านต้นไม้ที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแรง นี่คือแรงบันดาลใจของหน้าปัดสีเขียวสดที่มีลวดลายระลอกคลื่น ราวกับสายลมพัดผ่านใบไม้ โดยหน้าปัดสีเขียวของรุ่นนี้ไม่ได้เป็นสีเขียวเข้มแบบดั้งเดิมของ Grand Seiko แต่มีเฉดสีที่สดใสกว่า พร้อมลายพื้นผิวที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา
62GS Shubun – สมดุลของกลางวันและกลางคืน
‘Shubun’ หมายถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงในเดือนกันยายน และตรงกับ วันศารทวิษุวัต (Autumn Equinox) ซึ่งเป็นวันที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน ช่วงเวลานี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความสมดุล ดีไซน์ของ Shubun จึงสะท้อนแนวคิดนี้ผ่านหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มที่เปรียบเสมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน ตัดกับเข็มวินาทีสีทองที่สื่อถึงแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ร่วง
เอกลักษณ์ของ 62GS: ดีไซน์ร่วมสมัยบนมรดกดั้งเดิม
แม้ว่ารุ่น Rikka และ Shubun จะเป็นนาฬิการุ่นใหม่ แต่รากฐานการออกแบบนั้นย้อนกลับไปถึง 62GS รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 1967 ซึ่งเป็นนาฬิกา Grand Seiko รุ่นแรกที่ใช้ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
เพื่อรักษาจิตวิญญาณของดีไซน์ดั้งเดิม Grand Seiko ได้คงเอกลักษณ์ของตัวเรือน 62GS ไว้มากมายหลายด้วยกัน เช่น
โครงสร้างไร้ขอบเบเซล ทำให้สามารถมองเห็นหน้าปัดได้อย่างเต็มที่
ดีไซน์ตัวเรือนแบบ Arc-shaped lug ช่วยให้รับกับข้อมือได้ดี ขัดเงาแบบ Zaratsu Polishing ซึ่งให้พื้นผิวที่สะท้อนแสงแบบไร้ที่ติ หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ การใช้วัสดุ Ever-Brilliant Steel แทนที่ไทเทเนียม ซึ่งช่วยเพิ่มความเงางามให้กับตัวเรือน และให้สีเงินที่สว่างกว่าปกติ
ขุมพลังแห่งความเที่ยงตรง: กลไก Hi-Beat 9S85
หัวใจของทั้งสองรุ่นคือ กลไก 9S85 Hi-Beat ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติที่ทำงานด้วยความถี่สูงถึง 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง (vph) ช่วยให้จับเวลาระดับวินาทีได้แม่นยำขึ้นเมื่อเทียบกับนาฬิกาทั่วไปที่มีความถี่ 28,800 vph
ความเที่ยงตรงสูงถึง +5/-3 วินาทีต่อวัน
พลังงานสำรอง 55 ชั่วโมง แม้ว่าจะเป็นกลไก Hi-Beat แต่ยังสามารถเก็บพลังงานได้ยาวนาน กลไกถูกปรับแต่งและทดสอบนานถึง 12 วัน เพื่อให้มั่นใจว่ามีความเสถียรและเที่ยงตรง ส่วนฝาหลังแบบใสช่วยให้สามารถมองเห็นกลไกการทำงานได้อย่างชัดเจน เป็นรายละเอียดที่นักสะสมนาฬิกามักให้ความสนใจ
สเปกสำคัญของ Grand Seiko 62GS ‘Rikka’ และ ‘Shubun’
- ขนาดตัวเรือน: 40.0mm
- กลไก: อัตโนมัติ (Automatic) พร้อมขึ้นลานมือ
- พลังงานสำรอง: 55 ชั่วโมง
- กันน้ำ: 10 บาร์
- กันสนามแม่เหล็ก: 4,800 A/m
- จำนวนอัญมณีในกลไก: 37 เม็ด
- วัสดุตัวเรือน: Ever-Brilliant Steel
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ยลโฉมนาฬิกา TAG Heuer Monaco Chronograph CBL218B.FT6236 ราคาเท่าไหร่
- ยลโฉม TAG HEUER X SENNA รุ่นนักขับระดับตำนาน ผลิตกี่เรือน ราคาเท่าไหร่
- รวมนาฬิกาผู้ชายสไตล์มินิมอลยี่ห้อไหนดี ดีไซน์สวยใส่ได้บ่อย ราคาเท่าไหร่
- รวมนาฬิกาสาย Nato ยี่ห้อไหนดี สวยทนลุย เปลี่ยนลุคได้บ่อย ราคาเท่าไหร่
- รวมนาฬิกา Luxury Smart Watch สำหรับผู้ชาย สมาร์ทวอทช์หรูหราสุดล้ำ ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไหร่
- นาฬิกา SEIKO ผู้ชาย ราคาไม่เกิน 30,000 บาท รุ่นไหนดี 2024
- นาฬิกาคาสิโอผู้ชาย ราคาไม่เกิน 10,000 บาท รุ่นไหนดี
- นาฬิกาสายเหล็ก แบรนด์ CASIO นาฬิกาผู้ชาย ราคาไม่เกิน 2,000 บาท รุ่นไหนดี
- รวมนาฬิกา Rado ผู้ชายปี 2024 รุ่นไหนดี ดีไซน์สวย ราคาเท่าไหร่
--------------------------------------------------------------