รีเซต
ตำแหน่งอาถรรพ์ของ 'แมนยู' ที่บอร์ดบริหารมองข้ามมาโดยตลอด

ตำแหน่งอาถรรพ์ของ 'แมนยู' ที่บอร์ดบริหารมองข้ามมาโดยตลอด

ตำแหน่งอาถรรพ์ของ 'แมนยู' ที่บอร์ดบริหารมองข้ามมาโดยตลอด
TNN ช่อง16
13 กันยายน 2565 ( 14:30 )
890

จะว่าไปตำแหน่งมิดฟิลด์ น่าจะเป็นตำแหน่งที่บอร์ดบริหารของทัพ ปีศาจแดง มองข้ามมากที่สุดมาตั้งแต่สมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แล้ว โดยหลังหมดยุค เฟอร์กี้ แทบจะไม่มีมิดฟิลด์หน้าใหม่รายไหนเลย ที่ยืนหยัด ยืนระยะได้ จนเป็นตำนานของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เราแทบจะนึกถึงคู่มิดฟิลด์คู่กลาง เป็นใครไปไม่ได้ เลยนอกจาก พอล สโคลส์ และ และ รอย คีน โดยมี นิคกี้ บัตต์ เป็นตัวสอดแทรก ส่วนในยุคหลังก็มี ไมเคิ่ล คาร์ริค และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่พอจะจดจำผลงานกันได้ ส่วนที่เหลือนั้น แทบไม่ปรากฏความทรงจำใดๆ ในโรงละครแห่งความฝัน

ในช่วงทศวรรษสุดท้ายของ เฟอร์กูสัน ในฐานะผู้จัดการทีม สโมสรหยุดเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ทั้งที่ เฟอร์กี้ เป็นฝ่ายร้องขอกับบอร์ดบริหาร แต่สุดท้ายไม่สำเร็จ โดยเป้าหมายที่ตกเป็นข่าวกับ แมนยู ณ ตอนนั้น ก็มีอย่าง ลูก้า โมดริช, ดาบิด ซิลบา รวมไปถึง มุสซ่า เดมเบเล่

อย่างไรก็ตาม เฟอร์กี้ ก็ใช้ผู้เล่นอย่าง ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และ แอนเดอร์สัน ในตำแหน่งกองกลาง หรือแม้แต่ ราฟาเอล ดา ซิลวา ที่เป็นฟูลแบ็ก ก็เคยถูก ป๋า จับเล่นกองกลางมาแล้ว เพราะบอร์ดบริหารมองว่าไม่จำเป็น เช่นเดียวกับ ไรอัน กิ๊กส์ ที่เคยเล่นกองกลางกับ พอล สโคลส์ แม้ว่าจะไม่บ่อยนัก

ในช่วงระหว่างปี 2003-2012 เฟอร์กูสัน เซ็นสัญญากับมิดฟิลด์ตัวกลางเพียง 8 คน สำหรับทีมชุดใหญ่ของแมนฯ ยูไนเต็ด อันประกอบไปด้วย เคลแบร์สัน, เอริค เฌมบ้า-เฌมบ้า, เลียม มิลเลอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอนเดอร์สัน, ชินจิ คากาวะ และ นิค พาวเวลล์

ซึ่งจากรายชื่อที่กล่าวมา ก็น่าจะมีเพียง ไมเคิ่ล คาร์ริค คนเดียวเท่านั้น ที่ถือว่าประสบความสำเร็จ โดย คาร์ริค ผ่านการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามิดฟิลด์คู่กลาง คือ ปัญหาของ ยูไนเต็ด ที่ถูกมองข้ามมาโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเลย แต่พวกนักเตะที่เข้ามาในตำแหน่งนี้ ก็มักจะโดนอาถรรพ์ ยืนระยะไม่ได้เสียเป็นส่วนใหญ่

ทั้ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มอร์กก็อง ชไนเดอร์แลง, อันเดร เอร์เรร่า, ปอล ป็อกบา, มารูยาน เฟลไลนี่ รวมไปถึง เฟร็ด และแม้ว่าจะศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ จะเพิ่งออกสตาร์ทไปเพียงแค่ 6 เกม แต่วินาทีนี้ดูเหมือนว่า เอริค เทน ฮาก จะเจอแพ็กกองกลางในอุดมคติแล้ว และเป็นไปได้สูงเหลือเกินที่แฟนๆอาจจะไม่ได้เห็นการจับคู่กันของ เฟร็ด กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ อีกต่อไป จากการเข้ามาของ คาเซมิโร่ และ คริสเตียน เอริคเซ่น

โดยเกมล่าสุดที่ ปีศาจแดง เปิดบ้านต้อน อาร์เซน่อล เอริคเซ่น แสดงให้เห็น ถึงคุณภาพและคลาสฟุตบอลที่สุดแสนจะนิ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความอันตราย เอริคเซ่น มีสถิติจ่ายบอลเข้าเป้ามากที่สุดของ ยูไนเต็ด ด้วยจำนวน 41 ครั้ง และยังมีส่วนร่วมกับประตูที่ 2 ที่ยิงใส่ อาร์เซน่อล ด้วย จากการจ่ายบอลอย่างชาญฉลาดให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก่อนที่ บรูโน่ จะจ่ายให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดไปยิงประตู

เอริคเซ่น มีสถิติอยู่ใน 15 อันดับแรกของมิดฟิลด์ที่จ่ายบอลแนวลึกแม่นยำมากที่สุด ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดหายไปเป็นระยะเวลานาน โดยหลังจบเกมกับ อาร์เซน่อล เอริค เทน ฮาก ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคุณภาพของ เอริคเซ่น ว่า

"เราทำให้ เอริคเซ่น มีบทบาทการเล่นที่หลากหลายมากขึ้น เขาสามารถเล่นได้ทั้งบทบาทหมายเลข 6  และหมายเลข 8 เขามีอิสระมากมาย ที่เหลือก็คือ การปรับตัว เอริคเซ่น เป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนเกมได้"

"เขาเล่นบอลระหว่างไลน์ได้เยี่ยม และออกบอลได้เปรียบ เอริคเซ่น ยังต้องปรับปรุงเรื่องเกมรับ เขายังมีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อยู่ แต่สำหรับเกมนี้ เขาทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ"

ในขณะที่ผู้สันทัดกรณี รวมไปถึงบรรดานักวิเคราะห์ลูกหนังจากแดนผู้ดี วิเคราะห์เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า เอริคเซ่น เป็นผู้เล่นที่ ยูไนเต็ด กำลังตามหาอย่างแท้จริง โดยสามารถทำหน้าที่ในแบบของ รอย คีน, ไมเคิ่ล คาร์ริค รวมไปถึง พอล สโคลส์ ด้วยคาแรคเตอร์ของตัวเอง

นอกจากนี้ เครื่องหมายการค้าของจอมทัพรายนี้ ก็คือการออกบอล ทุกการจ่ายจากปลายสตั๊ด เอริคเซ่น มักจะทำให้เพื่อนร่วมทีมได้เปรียบ และมักจะสร้างปัญหาให้บรรดาคู่แข่งอยู่เสมอ

การเข้ามาของ เอริคเซ่น ช่วยยกระดับแนวรุกของ ปีศาจแดง อย่างเห็นได้ชัด เขาเองทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด มีโอกาสยิงประตูต่อเกมมากขึ้น จากเดิมที่มีค่าเฉลี่ยโอกาสยิง 4 ครั้ง ต่อ 1 เกม แต่พอมี เอริคเซ่น ในเกมล่าสุด แรชฟอร์ด มีโอกาสสับไกถึง 7 ครั้ง และเปลี่ยนได้เป็น 2 ประตู

นอกจากนี้ เอริคเซ่น ยังทำให้ บรูโน่ เล่นได้อย่างมีชีวิตชีวา และสามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างเต็มที่ โดยมิดฟิลด์ชาวโปรตุเกส สามารถพุ่งเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้มากขึ้น เมื่อมี เอริคเช่น รอคุมจังหวะอยู่ข้างหลัง

ซึ่งประตูชัยที่ บรูโน่ ซัดใส่ เซาแธมป์ตัน เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า บรูโน่ ก็มีความอันตรายมากขึ้นเช่นเดียวกัน จากการเข้ามาของ เอริคเซ่น

ดีลของ เอริคเซ่น นอกจากจะเป็นการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จในแง่ของแท็คติก ที่ตอบโจทย์ระบบของ เทน ฮาก แล้ว ยังเป็นดีลสุดคุ้มในรอบหลายๆ ปีของ ยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้

เพราะอย่าลืมไปว่า ปีศาจแดง ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว กับการคว้า คริสเตียน เอริคเซ่น มาร่วมทีม แต่สิ่งที่ เอริคเซ่น มอบให้กับ แมนยู ในช่วง 6 เกมแรก ต้องยอมรับว่า คุ้มเกินคุ้มเลยทีเดียว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้