ฟันธงใครได้ไป! ผี-สิงห์-จิ้งจอก ลุ้นกันมันส์.. นัดสุดท้าย ชี้ชะตาตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก

เข้าสู่เกมนัดสุดท้ายของศึกพรีเมียร์ลีก ถึงช่วงเวลาชี้ชะตาว่า ทีมใดจะคว้าโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครอง เรามาดูไปพร้อมกันว่า ทีมใดอยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดในศึกครั้งนี้

เผลอแป๊บเดียว ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/20 ก็เดินทางมาถึงการแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้แล้ว ถึงแม้ว่า แชมป์ในปีนี้จะตกเป็นของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ลอยลำเข้าป้าย คว้าถ้วยแชมป์ที่รอคอยได้สำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ความสนุกตื่นเต้นของการแข่งขันในฤดูกาลนี้ ยังไม่หมดลงแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีศึกแย่งชิงตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่แต่ละทีมกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

เราไปดูกันดีกว่าว่า สภาพความพร้อม และสถานการณ์ล่าสุด รวมถึงโอกาสของแต่ละทีมนั้น เป็นอย่างไรกันบ้าง และทีมใดที่น่าจะคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ใบสุดท้ายไปครองในเกมนัดชี้ชะตา

อันดับในตารางคะแนน และประตูได้เสีย ของทีมลุ้นโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

อันดับ 3 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แข่ง 37 นัด มี 63 แต้ม ประตูได้เสีย +28 ** ต้องการอย่างน้อย 1 แต้ม **

อันดับ 4 : เชลซี แข่ง 37 นัด มี 63 แต้ม ประตูได้เสีย +13 ** ต้องการอย่างน้อย 1 แต้ม **

อันดับ 5 : เลสเตอร์ ซิตี้ แข่ง 37 นัด มี 62 แต้ม ประตูได้เสีย +28 ** ต้องการ 3 แต้ม หรือ อย่างน้อย 1 แต้ม แล้วลุ้นให้เชลซีแพ้ **

ผลการแข่งขันนัดที่ผ่านมา และ โปรแกรมนัดสุดท้ยของทีมลุ้นโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

- นัดที่ 37 : วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-0 เลสเตอร์ ซิตี้

- นัดที่ 37 : คืนวันพุธที่ 22 กรกฎาคม : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

- นัดที่ 37 : คืนวันพุธที่ 22 กรกฎาคม : ลิเวอร์พูล 5-3 เชลซี

- นัดที่ 38 : วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม : 22.00 น. เลสเตอร์ ซิตี้ - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

>> ชมสดที่นี่ สำหรับผู้ถือแพ็กเกจทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล หรือ >> ซื้อแพ็กเกจที่นี่ ชมได้ทุกคู่เพียง 89 บาท หรือ 119 TruePoints

- นัดที่ 38 : วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม : 22.00 น. เชลซี - วูล์ฟแฮมป์ตัน

>> ชมสดที่นี่ สำหรับผู้ถือแพ็กเกจทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล หรือ >> ซื้อแพ็กเกจที่นี่ ชมได้ทุกคู่เพียง 89 บาท หรือ 119 TruePoints

ยิ่งอ่าน ยิ่งได้ รับไปเลย ทรูพอยท์ ... ง่ายขนาดนี้ คลิกเลย

อันดับที่ 3 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แข่ง 37 นัด มี 63 แต้ม ประตูได้เสีย +28

พลพรรค "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แม้ว่านัดล่าสุดจะทำได้เพียง เปิดบ้านเสมอกับ เวสต์แฮมไป 1-1 แต่ก็ยังเพียงพอให้พวกเขาขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของตาราง ด้วยการมีแต้มเท่ากับ เชลซี แต่มีประตูได้เสียที่ดีกว่า และมีแต้มมากกว่า เลสเตอร์ 1 แต้ม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มสถิติ ไม่แพ้ใครในลีกได้เป็นเกมที่ 13 ติดต่อกัน ด้วยผลงาน ชนะ 8 เสมอ 5

และนั่นยังส่งผลให้พวกเขากลายเป็น ทีมเดียวในลีกที่ยังไม่แพ้ใคร หลังการกลับมาแข่งขันใหม่ โดย ยูไนเต็ด นั้น ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของลีก หลังกลับมาลงสนามอีกครั้ง ด้วยการ ชนะ 5 เสมอ 3 เก็บได้ถึง 18 แต้มจาก 8 นัด โดยเป็นรองเพียง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เก็บไปถึง 21 แต้มจาก 9 นัด

สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ปีศาจแดง จะเป็นผู้กุมชะตาของตัวเองในเกมสุดท้าย ที่จะต้องบุกไปเยือน เลสเตอร์ โดยพวกเขาขอแค่ผลเสมอเป็นอย่างน้อย ก็จะการันตีโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกทันที แต่หากแพ้ในเกมดังกล่าว พวกเขาจะต้องลุ้นให้ เชลซี พ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยเช่นกัน พวกเขาจึงจะสามารถคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกได้

สภาพความพร้อมของทีม แม้ว่าจะมีปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บอยู่เพียงรายเดียว คือ ลุค ชอว์ ในตำแหน่งแบ็คซ้าย แต่ทว่า ในเกมหลังๆ ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมล่าสุด นักเตะตัวจริงหลายคน ได้แสดงอาการเหนื่อยล้า หมดเรี่ยวแรง ออกมาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่พวกเขากรำศึกมาหลายเกมติดต่อกันแบบไม่ได้พัก และแทบไม่ได้มีการหมุนเวียนนักเตะเลย ทำให้นี่อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ โซลชา ไม่อาจจะแก้ไขได้ทันแล้วในเวลานี้ นอกจากจะต้องภาวนาให้ลูกทีมเอาตัวรอดในเกมนัดสุดท้ายให้ได้ แม้สภาพร่างกายของผู้เล่นตัวหลักในตอนนี้ จะไม่ได้ฟิตพร้อมสมบูรณ์เท่าไรนัก

โปรแกรมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

- นัดที่ 38 : วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 22.00 น. (เยือน) เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 5

>> ชมสดที่นี่ สำหรับผู้ถือแพ็กเกจทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล หรือ >> ซื้อแพ็กเกจที่นี่ ชมได้ทุกคู่เพียง 89 บาท หรือ 119 TruePoints

อันดับที่ 4 : เชลซี แข่ง 37 นัด มี 63 แต้ม ประตูได้เสีย +13

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ภายใต้การนำทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำผลงานได้ค่อนข้างดี หลังการกลับมาแข่งขันใหม่ แม้ว่าจะมีบางเกมที่พลาดสะดุดไปบ้าง โดยแข่ง 8 นัด ชนะ 5 แพ้ 3 เก็บไป 15 แต้ม แม้เกมล่าสุด พวกเขาจะบุกไปพ่าย ในแมตช์รับถ้วยแชมป์ของลิเวอร์พูล 3-5 จนหล่นจากอันดับ 3 มารั้งอันดับ 4 แต่ สิงห์บูลส์ ขออีกเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้นในเกมสุดท้าย ก็จะคว้าตั๋ว UCL ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องสนใจผลการแข่งขันของอีก 2 ทีมที่กำลังขับเคี่ยวกัน

แต่เพียง 1 แต้มในเกมสุดท้าย ก็อาจจะไม่ใช่งานง่าย เมื่อพวกเขาต้องปะทะกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่กำลังลุ้นตั๋วฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็กอยู่ในเวลานี้ ซึ่งหาก เชลซี ทำไม่สำเร็จ ก็จะต้องไปลุ้นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ เลสเตอร์ ให้ได้เท่านั้น จึงจะเพียงพอให้พวกเขาตีตั๋วไปชิงชัยในศึกฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป

สำหรับสภาพทีมในตอนนี้ ค่อนข้างสมบูรณ์ มีเพียง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เท่านั้น ที่ยังคงบาดเจ็บ ส่วนแข้งตัวหลักที่เหลือ พร้อมลงสนามหมดทั้งสิ้น ในส่วนของเกมรุกนั้น สามารถยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ดาวเตะที่กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดๆ อย่าง คริสเตียน พูลิซิช และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงที่ผ่านมา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เกมรับของพวกเขา ที่หลายๆ เกมก็พร้อมเสียประตูแบบไม่น่าเชื่อได้เช่นกัน โดยเฉพาะ ผู้รักษาประตู อย่าง เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ที่เสียไปถึง 5 ประตูในเกมที่ผ่านมา แบบที่แทบจะป้องกันอะไรไม่ได้เลย

โปรแกรมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของเชลซี

- นัดที่ 38 : วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 22.00 น. (เหย้า) วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมอันดับ 6

>> ชมสดที่นี่ สำหรับผู้ถือแพ็กเกจทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล หรือ >> ซื้อแพ็กเกจที่นี่ ชมได้ทุกคู่เพียง 89 บาท หรือ 119 TruePoints

อันดับที่ 5 : เลสเตอร์ ซิตี้ แข่ง 37 นัด มี 62 แต้ม ประตูได้เสีย +28

ทัพ "จิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ ผลงานในช่วงหลังมานี้ถือว่าค่อนข้างย่ำแย่เลยทีเดียว จากทีมที่เคยลุ้นเบียดแย่งแชมป์กับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อช่วงกลางฤดูกาล กลับต้องมาดิ้นรนต่อสู้อย่างหนักเพื่อโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในนัดสุดท้ายแบบไม่น่าเชื่อ

โดยผลงานหลังการรีสตาร์ท 8 เกม พวกเขาชนะได้เพียงแค่ 2 เกม โดยเสมอไป 3 และแพ้ไปถึง 3 เก็บได้แค่ 9 แต้มเท่านั้น

ทำให้ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่เวลานี้หล่นมาอยู่อันดับ 5 ของตาราง ตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว และกลายเป็นทีมที่มีงานที่ยากที่สุดในสถานการณ์ตอนนี้ โดยเงื่อนไขในเกมนัดสุดท้ายของพวกเขา คือ ต้องเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ได้ แต่หากทำได้เพียงผลเสมอ จะต้องไปลุ้นให้ เชลซี แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาแพ้ในเกมนี้ จะหมดสิทธิ์ลุ้นโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกทันที

สำหรับสภาพความพร้อมของทีม ต้องยอมรับว่า เลสเตอร์ เป็นทีมที่กำลังประสบปัญหาเรื่องขุมกำลังมากที่สุด เมื่อเทียบกับอีก 2 ทีม เนื่องจากพวกเขาจะขาดแข้งตัวหลักหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ แมดดิสัน, เบน ชิลเวลล์, คริสเตียน ฟุคส์ และ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ที่ได้รับอาการบาดเจ็บ รวมถึง ชากลาร์ โซยุนชู แนวรับคนสำคัญ ที่ติดโทษแบน อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะยังมี เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกตัวความหวัง ที่เป็นผู้นำดาวซัลโวอยู่ในเวลานี้ หลังซัดในลีกไปแล้วถึง 23 ประตู และที่สำคัญ เลสเตอร์ จะมีความได้เปรียบตรงที่มีเวลาพักมากกว่า โดยพวกเขาได้พักถึง 1 สัปดาห์เต็มๆ ขณะที่คู่แข่งอย่าง ยูไนเต็ด จะมีเวลาพักเพียงแค่ไม่ถึง 4 วันเท่านั้น ก่อนทำศึกชี้ชะตาตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ในเกมสุดท้าย

โปรแกรมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของเลสเตอร์ ซิตี้

- นัดที่ 38 : วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 22.00 น. (เหย้า) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3

>> ชมสดที่นี่ สำหรับผู้ถือแพ็กเกจทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล หรือ >> ซื้อแพ็กเกจที่นี่ ชมได้ทุกคู่เพียง 89 บาท หรือ 119 TruePoints

วิเคราะห์โอกาสและความเป็นไปได้

คงต้องบอกว่า ฤดูกาลนี้เป็นปีที่การแย่งชิงพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น สูสีคู่คี่ และสนุกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแฟนบอลของทั้ง 3 ทีมนี้ จะได้ลุ้นกันแบบหายใจไม่ทั่วท้องกัน จนถึงเสียงนกหวีดสุดท้ายของเกมนัดปิดฤดูกาลอย่างแน่นอน เพราะทุกวินาทีในเกมนี้ สามารถเกิดการพลิกผันได้ตลอดเวลา

และความพิเศษของการลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกในนัดสุดท้ายของซีซั่นนี้ นั่นคือ การที่ 2 จาก 3 ทีมที่กำลังเป็นคู่แข่งแย่งชิงตั๋วกันโดยตรง ต้องโคจรมาดวลกันในเกมสุดท้ายนี้ แบบพอดิบพอดี ทำให้มันกลายเป็นศึกชี้ชะตาไปโดยปริยาย ซึ่งส่งผลให้ทั้ง 3 ทีมนี้ ล้วนเป็นผู้กุมชะตาของตัวเองเอาไว้ในมือตัวเองทั้งสิ้น หากทีมใดเอาชนะเกมสุดท้ายนี้ ก็จะการันตีตำแหน่งท็อปโฟร์ โดยไม่จำเป็นต้องไปพึ่งหรือไปลุ้นผลคู่อื่นเลย

อย่างไรก็ตาม เวลานี้คงต้องยกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี ที่มีความได้เปรียบอยู่นิดๆ ตรงที่สามารถเล่นเพื่อผลเสมอได้ ในขณะที่ เลสเตอร์ จะต้องชนะให้ได้เท่านั้น หากไม่ต้องการไปลุ้นผลคู่เชลซี ทำให้เชื่อว่า เกมนัดสุดท้าย.. "ศึกชี้ชะตาตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก" ระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น จะกลายเป็นเกมที่แฟนบอลจะต้องลุ้นระทึกที่สุดในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว

ฟันธงโอกาสคว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของทั้ง 3 ทีม (จากความคิดเห็นส่วนตัว)

ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์จากหลายๆ ปัจจัย ทั้งฟอร์มการเล่นล่าสุด สภาพความพร้อมของทีม และโปรแกรมการแข่งขันในนัดสุดท้าย จึงขอประเมินโอกาสในการลุ้นคว้าตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก ของแต่ละทีมไว้ดังต่อไปนี้ครับ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 50%

ขอเพียงแค่ผลเสมอกับ เลสเตอร์ ก็จะเพียงพอต่อพื้นที่ท็อปโฟร์ แต่หากแพ้ ต้องลุ้นให้ เชลซี แพ้ วูล์ฟส์ ด้วย

เชลซี : 60%

ขอเพียงแค่ผลเสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็จะการันตีท็อปโฟร์ทันที อีกทั้งยังได้เปรียบตรงที่ได้เล่นในบ้าน แต่หากแพ้ ต้องลุ้นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เลสเตอร์

เลสเตอร์ ซิตี้ : 40%

ต้องชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ได้ ถ้าเสมอ ต้องลุ้นให้ เชลซี แพ้ วูล์ฟส์ ถึงจะเพียงพอต่อพื้นที่ท็อปโฟร์ แต่หาก เลสเตอร์ แพ้ จะหมดสิทธิ์ลุ้นทันที

ผลการแข่งขันของเกม 2 คู่ที่จะเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ 9 กรณี ดังต่อไปนี้

1. แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เลสเตอร์ และ เชลซี ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน : อันดับ 3 แมนฯ ยูไนเต็ด / อันดับ 4 เชลซี

2. แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เลสเตอร์ และ เชลซี เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน : อันดับ 3 แมนฯ ยูไนเต็ด / อันดับ 4 เชลซี

3. แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เลสเตอร์ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ เชลซี : อันดับ 3 แมนฯ ยูไนเต็ด / อันดับ 4 เชลซี

4. เลสเตอร์ เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน : อันดับ 3 เชลซี / อันดับ 4 แมนฯ ยูไนเต็ด

5. เลสเตอร์ เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน : อันดับ 3 แมนฯ ยูไนเต็ด / อันดับ 4 เชลซี

6. เลสเตอร์ เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด และ วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ เชลซี : อันดับ 3 แมนฯ ยูไนเต็ด / อันดับ 4 เลสเตอร์

7. เลสเตอร์ ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน : อันดับ 3 เชลซี / อันดับ 4 เลสเตอร์

8. เลสเตอร์ ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน : อันดับ 3 เลสเตอร์ / อันดับ 4 เชลซี

9. เลสเตอร์ ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด และ วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ เชลซี : อันดับ 3 เลสเตอร์ / อันดับ 4 แมนฯ ยูไนเต็ด

สรุปโอกาสของแต่ละทีมที่จะติดท็อปโฟร์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ติดท็อปโฟร์ 7 จาก 9 กรณี (77.78%) อันดับ 3 : 5 กรณี / อันดับ 4 : 2 กรณี

เชลซี : ติดท็อปโฟร์ 7 จาก 9 กรณี (77.78%) อันดับ 3 : 2 กรณี / อันดับ 4 : 5 กรณี

เลสเตอร์ ซิตี้ : ติดท็อปโฟร์ 4 จาก 9 กรณี (44.44%) อันดับ 3 : 2 กรณี / อันดับ 4 : 2 กรณี

"เอกกี้รีพอร์ต"

-------------------------------------------------

ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก ได้ฟรีทางช่อง ไอดี สเตชั่น ง่ายๆเพียงแค่สมัครสมาชิกทรูไอดีและล็อคอิน สมัครสมาชิกทรูไอดีได้ที่นี่ ก็สามารถดูบอลสดได้เลยทันที !!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "ศึกชี้ชะตาตั๋ว UCL" เลสเตอร์ ซิตี้ VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด

>> พรีวิว พรีเมียร์ลีก : เชลซี VS วูล์ฟแฮมป์ตัน พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด

– ดูฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station

– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่

– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่