
วางแผนเฉียบ.! บาเยิร์น ขึ้นแท่นเป็นผู้ชนะ ในตลาดซื้อขายอย่างสวยงาม

บาเยิร์น มิวนิค สร้างความประหลาดใจให้กับหลายคนหลังตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เน้นความคุ้มค่าเป็นหลักมากกว่า
ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาของ บาเยิร์น มิวนิค สร้างความประหลาดใจให้กับหลายคน เมื่อสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนีไม่ได้ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้านักเตะซูเปอร์สตาร์อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่กลับเลือกใช้แนวทางที่ระมัดระวังและเน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก
มุมมองนี้ได้รับการยืนยันจาก อูลี่ เฮอเนส อดีตประธานสโมสรผู้ทรงอิทธิพล ที่ได้ออกมากล่าวว่าทีมเสือใต้คือ "ผู้ชนะตัวจริง" ในตลาดนักเตะครั้งนี้ ถึงแม้จะพลาดเป้าหมายสำคัญบางรายไปก็ตาม คำกล่าวของเขาไม่ใช่แค่การปลอบใจแฟนบอล แต่สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาการทำทีมที่กำลังเปลี่ยนไป
พลาดเป้าแต่ได้สิ่งที่ต้องการ
หากมองผิวเผิน การที่ บาเยิร์น พลาดการเซ็นสัญญากับเป้าหมายที่อยากได้อย่าง โฟลเรียน เวียร์ตซ์ และ นิค โวลเทมาเดอ ที่ย้ายไป ลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตามลำดับ อาจดูเหมือนเป็นความล้มเหลวของทีมเสือใต้ แต่อย่างไรก็ตาม เฮอเนส กลับมองว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องและมีเหตุผล
ในรายของ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ นั้น บาเยิร์น ยอมถอยจากการไล่ล่าดาวรุ่งพุ่งแรงรายนี้เมื่อได้ทราบราคาที่สูงถึง 150 ล้านยูโร (ราว 5,588 ล้านบาท) ซึ่งเป็นราคาที่เฮอเนสมองว่า "ไม่สมเหตุสมผล" การปฏิเสธที่จะจ่ายเงินมหาศาลเพื่อนักเตะเพียงคนเดียวแสดงให้เห็นว่า บาเยิร์น ยังคงยึดมั่นในนโยบายทางการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของภาวะเงินเฟ้อในตลาดนักเตะยุคใหม่
ส่วนในรายของ นิค โวลเทมาเดอ กองหน้าดาวรุ่งวัย 23 ปีของ สตุ๊ตการ์ท ก็เป็นอีกรายที่ บาเยิร์น ให้ความสนใจ แต่การที่ โวลเทมาเดอ ย้ายไปร่วมทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 90 ล้านยูโร (ราว 3,353 ล้านบาท) หลังจากที่ บาเยิร์น เสนอไปเพียง 55 ล้านยูโร (ราว 2,049 ล้านบาท) นั้น ก็ยิ่งตอกย้ำมุมมองของ เฮอเนส ที่มองว่าการซื้อขายในปัจจุบัน "ไม่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลเลย" แต่เป็นเหมือน "เกมเศรษฐี" ของกลุ่มทุนใหญ่
มุมมองของ เฮอเนส ชี้ให้เห็นว่า ชัยชนะ ในตลาดซื้อขายของ บาเยิร์น ไม่ใช่การได้นักเตะที่ต้องการทุกคน แต่เป็นการที่ทีมยังคงรักษาเสถียรภาพทางการเงินไว้ได้ และไม่ยอมให้ตัวเองถูกลากเข้าไปในสงครามราคาที่ไร้เหตุผล
การเสริมทัพที่ "ถูกจุด" และ "คุ้มค่า"
แม้จะไม่ได้นักเตะตามข่าวที่ตกเป็นเป้าหมายในระยะยาว แต่ บาเยิร์น ก็ทำการเสริมทัพที่สำคัญและมีผลกระทบในทันทีเพื่อเพิ่มความหลากหลายและยกระดับทีมในตำแหน่งที่จำเป็น โดยผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น ได้แก่
โยนาธาน ทาห์ : ปราการหลังตัวเก่งจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ย้ายมาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว หลังหมดสัญญากับทีมห้างขายยาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ บาเยิร์น ยอมจ่าย 8 แสนยูโรไม่รวมโบนัส (ราว 30 ล้านบาท) เพื่อให้นักเตะได้ย้ายมาก่อนวันที่ 30 มิถุนายน เพื่อสามารถใส่ชื่อลงเล่นในรายการ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ได้นั้น ถือว่าเป็นเสริมทีมที่คุ้มค่าอย่างมาก
การได้นักเตะที่พิสูจน์ตัวเองแล้วในบุนเดสลีกา และเป็นตัวหลักในทีมชาติเยอรมนี จะเข้ามาช่วยให้แนวรับของทีมมีความแข็งแกร่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้น ทาห์ เข้ามาเติมเต็มในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คที่มีความจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มเติม ให้ทีมมีตัวเลือกมากขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขันในหลายรายการ
หลุยส์ ดิอาซ : ปีกตัวจี๊ดจาก ลิเวอร์พูล ย้ายมาด้วยค่าตัว 70 ล้านยูโร (ราว 2,608 ล้านบาท) ถือเป็นนักเตะที่มีราคาแพงที่สุดในตลาดรอบนี้ของ บาเยิร์น การคว้าตัว ดิอาซ มาเสริมแนวรุกถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอีกครั้ง ด้วยความเร็วและความคล่องตัวที่โดดเด่น จะช่วยเพิ่มความอันตรายในเกมริมเส้นให้กับทีม และเป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญที่จะทำให้ บาเยิร์น มีตัวเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การมาของ ดิอาซ คือการเสริมจุดที่ขาดของทีม หลังยอมปล่อยแนวรุกอย่าง คิงส์เลย์ โกมัน และ ลีรอย ซาเน่ ออกจากทีมไปหมดแล้ว และ ดิอาซ ก็ระเบิดฟอร์มได้ในทันที เมื่อทำไปแล้ว 3 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 4 เกมรวมทุกรายการในซีซั่นนี้
นิโกลัส แจ็คสัน : กองหน้าทีมชาติเซเนกัลวัย 24 ปีของ เชลซี ย้ายมาด้วยดีลแบบยืมตัว 1 ฤดูกาล พร้อมกับมีเงื่อนไขบังคับซื้อในซัมเมอร์หน้า หากว่านักเตะลงสนามได้ครบตามที่ตกลงกันไว้ โดยในรายของ แจ็คสัน นี้ถือว่ามีความวุ่นวายอยู่บ้าง เพราะตอนแรกนักเตะเดินทางมาถึงมิวนิคแล้ว แต่ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากกองหน้าของ เชลซี อย่าง เลียม ดีแลป มีอาการบาดเจ็บกะทันหัน ทำให้ดีลอาจจะล่มไปในทีแรก
แต่สุดท้ายแล้วก็ตกลงกันได้ โดยที่ บาเยิร์น ยอมจ่ายค่ายืมตัว 16.5 ล้านยูโร (ราว 614 ล้านบาท) และต้องบังคับซื้อในราคา 65 ล้านยูโร (ราว 2,419 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า หากว่านักเตะลงสนามได้ตามเงื่อนไข ซึ่งการมาของ แจ็คสัน อาจจะดูไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ที่ บาเยิร์น อยากจะได้ แต่กระนั้นก็เป็นการลงทุนที่ไม่เสียหายอะไรนัก หากว่านักเตะระเบิดฟอร์ททำผลงานได้เข้าตาจริงๆ ค่อยจ่ายเงินอีกก้อนเพื่อคว้าตัวมาร่วมทีมเป็นการถาวร แต่ถ้าไม่โดดเด่นอะไร ก็ยังมีช่องที่จะส่งคืนให้ เชลซี ได้ เพราะถึงอย่างไรกองหน้าตัวหลักของ บาเยิร์น ก็คือ แฮร์รี่ เคน อยู่แล้ว
การเสริมทัพเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้หยุดนิ่งในตลาดนักเตะ แต่เลือกที่จะดำเนินการอย่างชาญฉลาด โดยเน้นไปที่นักเตะที่มีคุณภาพและค่าตัวที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาทางการเงินที่ เฮอเนส ได้กล่าวไว้
ทีมที่ "แข็งแกร่งอยู่แล้ว" และ "รอการกลับมา"
เฮอเนส ยังคงเน้นย้ำว่าทีมชุดปัจจุบันของ บาเยิร์น มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะการมีผู้เล่นอย่าง แฮร์รี่ เคน ที่สร้างความแตกต่างได้อย่างมหาศาล ขณะเดียวกัน เฮอเนส ยังมองโลกในแง่ดีด้วยการระบุว่า เขายังมองเห็น "นักเตะใหม่" ที่กำลังจะกลับมาช่วยทีมอีก 3 คน นั่นคือ จามาล มูเซียล่า, อัลฟอนโซ่ เดวิส, และ ฮิโรกิ อิโต ที่จะได้กลับมาลงสนามแบบเต็มที่หลังจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งเปรียบเสมือนการได้นักเตะใหม่เข้ามาแบบฟรีๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่ยูโรเดียว
นอกจากนี้ การให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งได้ลงสนามก็เป็นอีกหนึ่งปรัชญาที่สำคัญ เฮอเนส เชื่อว่าการปั้นนักเตะจากอะคาเดมี่ขึ้นมาจะช่วยลดความจำเป็นในการใช้เงินมหาศาลและสร้างความผูกพันในระยะยาวได้
นอกจากนี้ คำพูดของ เฮอเนส ยังแฝงนัยสำคัญถึงตลาดซื้อขายในอนาคต โดยเฉพาะในเดือนมกราคมที่กำลังจะมาถึง บาเยิร์น ยังมีเงินทุนสำรองที่พร้อมสำหรับการเสริมทัพหากจำเป็นต้องทำจริงๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสโมสรไม่ได้ปิดประตูเรื่องการซื้อขาย แต่กำลังรอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม
การประกาศตัวว่าเป็น "ผู้ชนะ" ในตลาดนักเตะของ อูลี่ เฮอเนส แม้ว่าอาจจะดูเหมือนเป็นการพูดเข้าข้างตัวเองไปไม่น้อย แต่มันคือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า บาเยิร์น มิวนิค กำลังเดินตามแนวทางที่รอบคอบและยั่งยืน พวกเขาเลือกที่จะไม่จ่ายเงินเกินจริงเพื่อนักเตะที่ไม่จำเป็น และหันมาให้ความสำคัญกับทีมที่มีอยู่และนักเตะดาวรุ่งที่กำลังจะเติบโต ควบคู่ไปกับการเสริมทัพในจุดที่เหมาะสมและคุ้มค่า การตัดสินใจครั้งนี้อาจทำให้แฟนบอลบางส่วนผิดหวัง แต่ในระยะยาว มันคือการวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับสโมสรเพื่อความสำเร็จในอนาคตอย่างแท้จริง...
⚽คอฟุตบอลไม่ควรพลาด! แพ็กเกจ NOW FOOTBALL ดูบอลครบทั้งลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ อาทิ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ยูฟ่า ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก / ลาลีกา / บุนเดสลีกา / เซเรีย อา และอีกมากมายกว่า 2,000 แมตช์ ตลอดฤดูกาล 2025/26
📲สมัครและดูได้แล้ววันนี้ รายเดือน และ รายฤดูกาล
📌Now Football 199 บาท/เดือน (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/4mkpgo6s
📌Now Football Season Pass 1,789 บาท/ฤดูกาล (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) ถึง 30 กันยายน 68 เท่านั้น สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/050t6ccr