ใครจะหยุดความร้อนแรงของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล...ว่าที่แชมป์ไร้พ่ายแห่งพรีเมียร์ลีก!!
ถึง ณ วินาทีนี้ คงไม่ต้องถามแล้วว่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกหรือไม่ แต่ควรยิงคำถามว่าจะได้แชมป์แบบไหน ทำสถิติอะไร และจะไร้พ่ายหรือเปล่า มากกว่า
“22 แต้ม” คือจำนวนคะแนนที่ ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างอันดับสอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนิดไม่เห็นฝุ่น PM 2.5 หลังจาก กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ และชาวคณะ ยัดเยียดความปราชัยใส่มือให้คู่แข่งเป็นของขวัญกันถ้วนหน้า จากผลงานลงเตะ 25 นัด ชนะ 24 และเสมอ 1 นัด
ที่สำคัญคือ พลพรรค “เร้ดแมชชีน” ยังคงควบตะบึงคว้าชัยได้อย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีทีท่าว่าพวกเขาจะยกเท้าออกจากคันเร่งเลย จนเริ่มมีคำถามแล้วว่าจะทีมไหนมาหยุดยั้งความร้อนแรงของพวกเขาลงได้!
ความปราชัยครั้งสุดท้าย
ความพ่ายแพ้นัดล่าสุดของลิเวอร์พูล คือเกมรอบ 8 ทีม ศึกคาราบาวคัพ ที่พ่ายต่อแอสตัน วิลล่า 0-5 เมื่อกลางเดือนธันวาคม แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก เนื่องจากเกมดังกล่าว ทีมหงส์แดงจัดเด็กลงสนามทั้งทีม แม้กระทั่งเฮดโค้ชยังเป็นโค้ชจากชุดยู-23 เพราะคล็อปป์กับแข้งซีเนียร์ติดภารกิจไปล่าแชมป์สโมสรโลก
หากเป็นขุมกำลังแบบฟูลทีม ลิเวอร์พูลแพ้เกมสุดท้ายคือแมทช์ที่บุกไปแพ้ นาโปลี 0-2 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
แต่ถ้าดูเฉพาะเกมพรีเมียร์ลีก แมทช์สุดท้ายที่ “เดอะค็อป” ลิ้มรสความปราชัยคือการบุกไปพ่ายแมนฯ ซิตี้ 1-2 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2019 ซึ่งผ่านมานานกว่า 1 ปีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเป็นการแพ้เกมลีกในบ้าน ย้อนไปนู่นนน…เลยจ้า เกมที่แพ้คริสตัล พาเลซ 1-2 ที่แอนฟิลด์ เมื่อเดือนเมษายน 2017
แชมป์ไร้พ่าย…ไม่ง่าย แต่ก็เป็นไปได้สูง!
กวาดสายตาดูโปรแกรมพรีเมียร์ลีกนัดต่อๆไป มีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่ลิเวอร์พูลจะยังคงเดินหน้าฆ่ามัน ไล่เก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องชนิดที่เดอะค็อปชินชาและชาชินกับการเก็บ 3 แต้ม ประหนึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา เหมือนตื่นเช้าขึ้นมาต้องล้างหน้าแปรงฟันยังไงยังงั้น
คิวเตะพรีเมียร์ลีกหลังจากนี้ แข้งหงส์จะออกไปเยือนนอริช กลับมาเฝ้าบ้านเจอเวสต์แฮม ยกพลบุกวัตฟอร์ด เปิดรังเจอบอร์นมัธ ซึ่งดูแล้ว 12 แต้มจาก 4 เกมนี้คงไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงสำหรับพวกเขา
หลังจากนั้น ช่วงกลางเดือนมี.ค. ถึงต้นเดือนเม.ย. โปรแกรมอาจจะยากขึ้นมานิดหน่อย เมื่อต้องลงเล่นเกมดาร์บี้แมทช์ ออกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ตามด้วยเปิดบ้านเจอกับทีมจอมแสบอย่าง คริสตัล พาเลซ และบุกไปลุยกับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งถ้าจะมีช่วงสะดุดทำแต้มหล่น อาจจะเป็นช่วงจังหวะนี้ก็เป็นได้
หากผ่านช่วงนี้ไปก็เข้าสู่โหมดลุยกับคู่แข่งที่อาจจะกำลังลุ้นหนีตาย ได้แก่ แอสตัน วิลล่า,ไบรท์ตัน, เบิร์นลี่ย์ และเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น พบกับ อาร์เซน่อล, เชลซี และนิวคาสเซิ่ล
เมื่อพิจารณาฟอร์มของแข้งหงส์ในตอนนี้แล้ว เชื่อว่ามีโอกาสประมาณ 60-70% เลยทีเดียว ที่พวกเขาจะได้จารึกประวัติศาสตร์ว่าเป็น “แชมป์ไร้พ่าย”!!
แล้วใครจะสยบหงส์?
เมื่อเหล่าจิ๊กโก๋ในหมู่บ้านไม่มีใครกล้าหืออือ เพราะตกเป็นลูกไล่ของทัพหงส์แดงไปหมดแล้ว บรรดากองแช่งจึงต้องฝากความหวังไว้กับ “นักเลงต่างถิ่น” ซึ่งมีอิทธิพลมากพอที่จะสามารถ “ดับซ่า” จอมห้าวจากแอนฟิลด์ลงได้
อย่างที่บอกไปข้างบนแล้วว่า “นาโปลี” คือแก๊งล่าสุดในเวทียุโรปที่สามารถกำราบลิเวอร์พูลได้สำเร็จ และคู่ต่อกรจากต่างแดนรายต่อไปที่เหล่าเร้ดแมชชีนจะต้องลงตะลุมบอนด้วยก็คือ ขาใหญ่จากแดนกระทิงดุ…“ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด
ลิเวอร์พูลโคจรมาปะทะแอต.มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยจะเป็นฝ่ายออกไปเยือนก่อนในวันที่ 18 ก.พ. จากนั้นนัดที่สองจึงจะมากลับเล่นที่แอนฟิลด์ วันที่ 11 มี.ค.
แน่นอนว่าคงไม่ใช่งานง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปที่ลิเวอร์พูลจะ“ถลกหนังหมี” เพราะฟอร์มของแอต.มาดริดในซีซั่นนี้ดร็อปลงไปพอสมควร โดยล่าสุดลูกทีมของกุนซือดีเอโก้ ซิเมโอเน่ รั้งอันดับ 6 ลาลีกา ตามหลังจ่าฝูง เรอัล มาดริด อยู่ถึง 13 คะแนน
และหากดูฟอร์มในตอนนี้ เชื่อว่าแอต.มาดริดไม่น่าจะต้านทาน “สิบล้อเบรกแตก” อย่างลิเวอร์พูลได้ ดังนั้นหมู่มวลแฟนบอลทั่วโลกจึงต้องฝากความหวังไว้กับบรรดาขาใหญ่ระดับ “เฮฟวี่เวท” ที่เหลืออย่าง บาร์เซโลน่า เรอัล มาดริด บาเยิร์น มิวนิค หรือยูเวนตุส ซึ่งมีโอกาสเป็นคู่แข่งด่านต่อไป และน่าจะมีศักยภาพมากพอที่จะกระชากขาหงส์แดงลงมา ไม่ให้บินสูงไปมากกว่านี้
ขืนถ้าปล่อยให้พี่ๆหงส์แดงเขาสยายปีกไต่ระดับครองโลกไปเรื่อยๆ บอกเลยว่ามวลมหาประชาสาวกทีมอื่นๆ อยู่กันไม่เป็นสุขแน่นอน อิอิอิ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
>> ในรอบ 131 ปี!! “หงส์แดง” สร้างสถิติใหม่ทำแต้มทิ้งห่างคู่แข่งมากที่สุด
>> ยกธงขาว!! กวาร์ดิโอล่า ยอมรับ “เรือใบ” ไม่มีทางไล่ตาม “หงส์แดง” ทัน
– ดูฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่