ที่สุด ของ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014
หลังจากต่อสู้กันมาเกือบเดือน กับ ศึกลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านอาเซียน รายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ซึ่งประเทศ สิงคโปร์ และ เวียดนาม เป็นเจ้าภาพร่วมกัน ซึ่งมีบทสรุปทั้งหมดว่า ใครเจ๋ง ใครซวย ใครช้ำ กันบ้าง ไปดูกันเลย
12 ปีที่รอคอย : ทีมชาติไทย
ขุนพลแข้ง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย กลับมาคว้าแชมป์รายการนี้อีกครั้ง สิ้นสุดการรอคอยของแฟนบอลชาวไทย มายาวนานถึง 12 ปี เมื่อสามารถพลิกนรกเอาชนะ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ได้ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ณ สนาม บูกิต จาลิล สยบเสียงผู้ชมเรือนแสนและแฟนบอลทั้งแหลมมลายูได้อย่างสะใจกันทั้งประเทศ ด้วยฝีเท้าของ 2 แข้งสุดจิ้นแห่งปีเลยมั้ย อันนี้ก็ไม่รู้สินะ อย่าง ชาริล ชัปปุยส์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์
เป็นเจ้าภาพไม่ช่วยอะไรเลย : สิงคโปร์
ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ทั้งที ด้วยสนามใหม่อันใหญ่มหึมา ริมอ่าว มารินา เบย์ อันโด่งดัง แต่ขุนพลแข้ง “เมอร์ไลออนส์” กลับทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง จากผลงานที่บู่ตั้งแต่นัดแรก ด้วยการแพ้ต่อ ทีมชาติไทย ในสนามแห่งใหม่ 1:2 แถมต้องมาโดนอริตัวฉกาจอย่าง มาเลเซีย ยิงแซงช่วงท้ายเกม 1:3 ตกรอบแรกไปแบบเสียราคาแชมป์อาเซียน 4 สมัย บนแผ่นดินตัวเอง จนโดนแฟนบอลเสือเหลือง ทำคลิปล้อเลียนในเวลาต่อมา ที่มีวลีว่า “Singapore Itu Shhhhhh”
เจ็บตัวทั้งขึ้นทั้งล่อง : เวียดนาม
ทีมที่ว่ากันว่า ชอกช้ำ ระกำทรวงที่สุด ในหนนี้ ก็ต้องยกให้ “แข้งเมืองลุงโฮ” เวียดนาม โดยเฉพาะแฟนบอลของตัวเอง ที่ต้องเลือดตกยางออกกันไปตามๆ กัน ในเกมแรกของรอบรองชนะเลิศ ที่บุกไปเอาชนะ มาเลเซีย ถึงที่ 2:1 แต่ต้องมาโดนแฟนบอลอันธพาลของแดนเสือเหลืองไม่กี่คน ไล่ยำกันจนหนีตายกันอย่างทุลักทุเล พอมาเกมที่สอง กลับมาเป็นเจ้าบ้านบ้าง ก็น่าจะได้เข้าชิงใสๆ แน่นอน แต่กลับเจอความเคี่ยวลากดินของแข้งเสือเหลือง บุกมาสอย ดาวทอง ตกจากฟ้า ด้วยการจบลงแค่ครึ่งแรกถึง 4:1 สร้างความมึนงงกันทั้งประเทศ ทั้งๆ ที่ เวียดนาม หวังอยากจะเข้าชิงกับทีมชาติไทย กันจนตัวสั่นสุดๆ จนมีการประกาศศักดากันครึกโครมว่าเป็น “บาร์เซโลนาแห่งอาเซียน” แต่สุดท้ายกลับมาตกม้าตายคาถิ่นตัวเอง ชนิดที่โทษใครไม่ได้เลย
ท่าดี ทีเหลว : ฟิลิปปินส์
ทีมที่ว่ากันว่าเป็นทีมรวมดาราลูกผสมกันเยอะที่สุดของหนนี้เลยก็ว่าได้ อย่าง “ดิ อัซกาลส์” ฟิลิปปินส์ ซึ่งได้เปรียบเรื่องสรีระและรูปร่างที่ใหญ่โต สไตล์บอลยุโรป คงน่าจะสร้างความน่ากลัวให้กับชาติในย่านอาเซียนทั้งภูมิภาค ด้วยการไล่ยำทั้ง ลาว และ อินโดนีเซีย แบบไร้รอยเปื้อน 4:1 และ 4:0 ตามลำดับ แต่ต้องมาแพ้ภัยตัวเอง ด้วยการตกไปเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม เอ ด้วยการแพ้ เวียดนาม 1:3 ซ้ำร้ายต้องไปเจอกับ ทีมชาติไทย ที่กำลังคึกสุดขีด ก็โดนช้างกระทืบซ้ำอีก ด้วยการบุกไปพ่ายที่ ราชมังฯ ถึง 0:3 ชนิดที่ไร้รูสู้ของแท้ เลยทีเดียว
เงิบกันทั้งบาง : มาเลเซีย
ทีมสุดท้ายที่เป็นที่สุดของหนนี้ ก็คงต้องยกให้ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ที่มีความหวังว่า จำนวนแฟนบอลเฉียดแสนคนในสนาม บูกิต จาลิล จะสร้างปาฏิหารย์กลับมาเป็นแชมป์รายการนี้ได้อย่างแน่นอน ขนาดที่ว่า นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ยังเชื่อว่า แข้งเสือเหลือง จะทำได้ พอเริ่มเกมมา สิ่งที่แฟนบอลเสือเหลืองทั้งประเทศ หวังกันก็สัมฤทธิ์ผลมาทันตาเห็น เมื่อมาได้ 3 ประตูรวด ภายในเวลา 80 นาที ใกล้ความหวังเข้าไปทุกทีๆ
แต่การโหลดเป้าหมายครั้งนี้ เหมือนโดนติดไวรัสชนิดทำเครื่องเจ๊งได้เลย ต้องกลับมาพังครืนลงในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ด้วยฝีเท้าของ ชาริล ชัปปุยส์ แข้งสุดหล่อ ขวัญใจสาวๆ ทั้งอาเซียน ที่ซ้ำจังหวะฟรีคิกเข้าไป แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเข้าไปอีก เมื่อต้องมาเจอลูกยิงซ้ายปลิดชีพของ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในช่วงท้ายเกม ดับลมหายใจแฟนเสือเหลืองไปในบัดดล ทันที แต่สุดท้ายทางด้านแฟนบอลเสือเหลือง ต่างก็ยอมรับกับความร้ายกาจของแข้งไทย แบบไร้ข้อกังขาใดๆ
สุดท้ายนี้แล้ว ก็ขอแสดงความยินดีกับแชมป์สมัยที่ 4 ของทีมชาติไทย ด้วยครับ ซึ่งน่าจะเป็นของขวัญชิ้นใหญ่สำหรับแฟนบอลชาวไทยได้เลย เมื่อจะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่แล้ว ในอาทิตย์หน้า ยังไงก็เจอกันอีกครั้ง เมื่อชาติต้องการนะครับ “บอลไทย อยู่ในสายเลือด” เจอกันที่ พม่า และ ฟิลิปปินส์ ครับผม ไทยแลนด์ สู้ สู้ !!
ชมทีวีออนไลน์ช่องทรูโฟร์ยู ดิจิตอล ฟรีทีวี แบบสดๆ ได้ที่นี่ |
ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ที่ |
FB : TrueSport | TW : True_Sport |
คลิกชม ตารางถ่ายทอดสดฟุตบอล ได้ที่นี่ |
เครดิตภาพโดย : AFF Suzuki Cup
เรียบเรียงและสรุปโดย : Mo Malaysia
22-12-2557
15.10 น.