ภารกิจเสร็จสิ้น! 'บาส-ปอป้อ' เผยสิ่งที่อยากทำเป็นอันดับแรก หลังออกจากบับเบิ้ล

ข่าวสด

1 กุมภาพันธ์ 2564 ( 00:00 )

873

"บาส-ปอป้อ" เปิดเผยความรู้สึก หลังสร้างประวัติศาสตร์ คว้า 3 แชมป์ รับเงินรางวัลรวมกว่า 8 ล้านบาท พร้อมเผย สิ่งที่อยากทำเป็นอย่างแรก หลังจบการแข่งขัน 3 รายการใหญ่ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

การแข่งขันแบดมินตันรายการ "เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020" ชิงเงินรางวัลรวม 1,500,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 45,150,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการในรูปแบบนิวนอร์มอล

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.64 เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทคู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลก ที่ก่อนหน้านี้ คว้ามาแล้ว 2 แชมป์ติดต่อกัน พบ โซว ซองแจ กับ แช ยูจุง คู่มือ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้

สำหรับสถิติของคู่นี้ เคยพบกันมา 10 ครั้ง ซึ่งเป็นคู่ผสมไทยที่เหนือกว่า เมื่อเอาชนะมาได้ 6 ครั้ง โดยผลปรากฎว่า บาส-ปอป้อ ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเฉือนชนะ คู่จากเกาหลีใต้ไปได้ 2-1 เกม 21-18, 8-21 และ 21-8 คว้าแชมป์ พร้อมกับจารึกชื่อเป็นนักแบดมินตันไทยคู่แรก ที่คว้าแชมป์ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ ได้สำเร็จ

จากชัยชนะแมตช์นี้ ทำให้ บาส-ปอป้อ คว้าแชมป์แบดมินตันรายการใหญ่ 3 รายการติดต่อกัน ประกอบด้วย โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020 และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 และนับเป็นนักแบดมินตันไทย คู่ที่ 2 ที่สามารถคว้าแชมป์แบดมินตันรายการใหญ่ 3 รายการติดต่อกัน

หลังจากที่ ก่อนหน้านี้ในปี 2016 "เมย์" รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวของไทย เคยคว้า 3 แชมป์ ในรอบ 3 สัปดาห์มาแล้ว ประกอบด้วย รายการ ซูเปอร์ซีรีส์ "โอยูอี สิงคโปร์ โอเพ่น", ซูเปอร์ซีรีส์ "โยเน็กซ์ ซันไรส์ อินเดีย โอเพ่น" และ ซูเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์ "เซลคอม เอเชียต้า มาเลเซีย โอเพ่น" ทำให้ขยับขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกเป็นครั้งแรกตั้งแต่เล่นอาชีพ รวมทั้งยังเป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลก นอกจากนั้น น้องเมย์ ยังสามารถคว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์ได้ 3 รายการติดต่อกัน เป็นคนแรกของโลกด้วย

โดย บาส-เดชาพล และ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี ได้เปิดเผยความรู้สึก หลังจบการแข่งขันว่า "รู้สึกดีใจ และภาคภูมิใจมาก ที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่ทำได้ 3 แชมป์ติดต่อกัน นี่คือแชมป์ของคนไทยทั้งประเทศ"

"เกมในวันนี้เป็นการชิงจังหวะด้านหน้า ใครสามารถชิงจังหวะแล้วได้บุกก่อน ก็มีโอกาสชนะเยอะมาก"

"ในเกมที่สอง คู่ของเกาหลีเร่งสปีดบุกได้ก่อน เราตั้งตัวไม่ทัน ทำให้แต้มไหล ส่วนในเกมที่สาม เราก็นำสไตล์การเล่นของเกาหลีในเกมที่สองมาใช้บ้าง และพยายามชิงจังหวะด้านหน้าให้ได้ก่อน"

"ประสบการณ์ที่ได้รับจากการแข่งขันตลอด 3 รายการในครั้งนี้คือ เพิ่มความมั่นใจกับคู่ของเรามากขึ้น เราได้เห็นว่า สิ่งที่เราทุ่มเทฝึกซ้อมมาตลอด 9 เดือน สามารถนำมาใช้ได้ผลอย่างไรบ้าง และมีสิ่งไหนที่ยังผิดพลาดเราจะนำไปแก้ไขปรับปรุง"

"ส่วนสิ่งที่ประทับใจกับการแข่งขัน แบบนิวนอร์แมนคือ ทุกอย่างดีหมด ประทับใจทุกอย่าง ทีมงานดี การอำนวยความสะดวกให้นักกีฬาดีมาก และอยากจะขอบคุณพี่ๆ ทีมงานที่ช่วยดูแลพวกเรา คอยสนับสนุนเรา ทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย"

"บาสอยากขอบคุณพี่ปอป้อ ที่คอยสนับสนับสนุน คอยเตือนในสนาม ทำให้ผลการแข่งขันออกมาดี ส่วนปอป้อ อยากขอบคุณน้องบาสไม่ว่าจะหลุด น้องช่วยได้เยอะ ทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ส่วนสิ่งที่อยากทำเป็นอันดับแรก เมื่อออกจากบับเบิ้ลคือ พักผ่อน และหาของอร่อยๆ ทาน ไปหาครอบครัว และเพื่อนๆ รวมทั้งเตรียมฉลองแชมป์"

จากการคว้าแชมป์ 3 รายการติดต่อกัน ทำให้ "บาส" เดชาพล กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี รับเงินรางวัล รวมกันกว่า 8 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

1. โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น แชมป์รับเงินรางวัล 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,220,000 บาท)

2. โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น แชมป์รับเงินรางวัล 74,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,220,000 บาท)

3. เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 แชมป์รับเงินรางวัล 126,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,780,000 บาท)

รวมได้รับเงินรางวัลทั้งหมด 140,800 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,220,000 บาท) หรือคนละประมาณ 4,110,000 บาท

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม บาส-ป้อป้อ ว่าจะเอาเงินรางวัลไปทำอะไรบ้างนั้น บาส ตอบสั้นๆ ว่า "ยังไม่ได้วางแผนไว้" ขณะที่ ปอป้อ ก็ตอบสั้นๆ เช่นกันว่า "จะเก็บไว้ก่อนเป็นอันดับแรก"