ผลงานสวนทาง!! โค้ชหรั่ง สับแหลก ช้างศึก กลับสู่มาตรฐานระดับอาเซียนอีกครั้ง
โค้ชหรั่ง ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน รองประธานกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภา ออกโรงสับแหลกทัพช้างศึกกับสโลแกนมองข้ามอาเซียน แต่มาตรฐานกำลังตกลงสู่อาเซียน
โค้ชหรั่ง ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทย ปัจจุบันรั้งตำแหน่องรองประธานกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภา กล่าวถึงผลงานทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ที่ทำได้เพียง 9 แต้มจากการลงสนามฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 7 นัด กลุ่มจี จนกระเด็นตกรอบแน่นอนแล้ว
"ข้อดีของทีมชาติไทยครั้งนี้คือเรื่องการบริหารจัดการ เราได้ผู้เล่นไปถึง 41 คน ตัวเลือกในสถานการณ์โควิด-19ก็พอจะทำให้สถานการณ์ของเราได้เปรียบ ใน 41 คนคือมีครบหมด ทั้งผู้เล่นตัวเก๋า ตัวปัจจุบัน และตัวดาวรุ่ง แม้กระทั่งผู้เล่นที่มาจากเลสเตอร์ น้องธนวัฒน์ ซึ่งต้องบอกว่าเรามีครบเลย ตรงนี้น่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยที่เรามีตัวผู้เล่นครบ อันนี้ต้องชมสมาคมที่ยอมเสียงบประมาณมหาศาลในครั้งนี้เพื่อ 9 แต้ม"
"เรามองว่าการเจอยูเออีเราอาจจะหนักเพราะเป็นทีมจากตะวันออกกลาง แต่เอาเข้าจริง ยูเออีกับไทยเรา ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย ผลัดกันแพ้-ชนะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเสมอด้วยซ้ำ ถ้าเราเจอ กาตาร์ ซาอุฯ อิหร่าน อิรัก ยังหนักกว่า ส่วนอินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ส่วนตัวผมไม่เคยอยู่ในสมองเลย ผมขอใช้คำนี้เลย ผมกล้าพูดเลย ผมไม่เคยแพ้เลย แม้จะเป็นฟุตบอลนักเรียนก็ไม่เคยแพ้"
"พอตอนนี้ผ่านมา 2 แมตช์ในคัดบอลโลก ก่อนนั้นมีการลงทีมอุ่นเครื่อง 3 นัด เราต้องเอาเด็กที่ไปทั้ง 41 คนพยายามที่จะลงเล่นให้ได้เพื่อให้เห็นตัว จะได้ดูว่ามีใครเด่นตามตำแหน่งที่จิตนาการไว้ ซึ่ง 3 เกมอุ่นเครื่องคงจะเห็นแต่ละคนโชว์ฟอร์มเด่นกันคนละแบบ คือลองนึกดูได้เลย ถ้าเราเป็นโค้ช ถ้าเอาไปทั้ง 41 คน เราจะเลือกตัวได้ยากมาก ทีมเวิร์กจะไปยังไง"
"ยกตัวอย่างเกมกับอินโดนีเซีย ที่เสมอเหมือนเราแพ้ การเสีย 2 ประตูเหมือนความสัมพันธ์ในเกมรับไม่ดี ส่วนเกมกับยูเออีเช่นกัน เกมรับยืนเส้นตรงเพื่อเอาล้ำหน้า ถ้าเขาล้ำก็โอเค แต่ถ้าไม่ล้ำก็เสียประตู ถามว่าสูตรนี้เป็นยังไง ผมมองว่าไม่คุ้มกัน สูตรนี้ต้องซ้อมกันนานและต้องอาศัยความเข้าใจกันด้วย"
"ผมให้ข้อสังเกตแบบนี้ดีกว่า ผมตามและศึกษาโค้ชนิชิโนะเขาทำทีมมาตลอด ถือเป็นการศึกษาเขาด้วย เขาเป็นสไตล์ญี่ปุ่น สิ่งที่ญี่ปุ่นเขาทำ เขาจะหมุนโรเตชั่น สไตล์เขาคือการเอาเด็กสดลง ดังนั้นแต่ละแมตซ์เขาจะมีตัวหลักในสไตล์เขา ซึ่งจะแตกต่างจากโค้ชคนไทย ไม่ว่าจะเป็นโค้ชซิโก้ ผมเอง หรือ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่เราเน้นไปที่เรื่องของทีมเวิร์กที่จะแตกต่างกัน แต่จะเสียนิดนึงคือการเล่นในลักษณะทัวร์นาเมนต์เด็กจะกรอบ"
"ผมเชื่อว่าเกมกับมาเลเซียในเกมที่ 3 โค้ชนิชิโนะเขายิ่งจะเปลี่ยนเลย จะมีตัวหลักในสไตล์เขา และอาจจะไม่ซ้ำกับ 2 เกมแรก"
"การบริหารจัดการของสมาคมชุดนี้พร้อมมากๆ เรียกได้ว่าขึ้นลิฟท์มาพร้อมเลยเงินมีตั้ง 4,200 ล้านบาท คือมันส่วนทางกับผลงาน อันนี้ต้องขอเรียนตรงๆ โอเคว่าทีมบริหารอันนี้ไม่ว่ากัน แต่ทีมเทคนิคหละครับ ที่จะพัฒนาอย่างไรให้ฟุตบอลดีขึ้น เก่งขึ้น ก้าวไปสู่เอเชียให้ได้ นี่เราย้อนกลับไปอาเซี่ยนใหม่อีกแล้ว"
"สมาคมบอกเองว่า เราจะต้องก้าวข้ามผ่านอาเซี่ยน วันที่ปลดซิโก้เป็นแบบนี้ วันที่ผมลาออกก็เหมือนกัน เพราะว่าเราจะไปตกรอบคัดบอลโลกนี่แหละ หรือเอเชียนคัพ"
"ผมให้ข้อคิดไปแล้วว่า ถ้าเรายังไม่มีโมเดล ยังไม่มีความสามารถเฉพาะตัวของนักฟุตบอลตั้งแต่เด็กไปจนถึงระดับอาชีพ ถ้าความสามารถเฉพาะตัวยังไม่เทียบเท่าระดับเอเชีย เราไม่มีทางเลยผมฟันธงมานานแล้ว"
"สิ่งที่สมาคมต้องทำคือ ท่านต้องไปจ้างโค้ชเก่งๆ ระดับทีมชาติมาพัฒนาความสามารถเฉพาะตัวของนักฟุตบอล ยังไม่ต้องไปคิดถึงระบบอะไรหรอก ต้องเอาความสามารถเฉพาะตัวให้ได้ก่อน ทุกอย่างก็สะท้อนให้เห็นว่า คุณลองไปดูได้เลย ทั้ง 41 คนของทีมชาติไทยชุดนี้ เล่นในระดับเอเชียได้กี่คน"
-------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>> รอแข่งเสร็จก่อน!! บิ๊กอ๊อด ยังนิ่งอนาคต นิชิโนะ ปัดตอบแนวโน้มเปลี่ยนกุนซือช้างศึก
>> เทียบชัดๆ!! เปิดผลงาน "นิชิโนะ-ราเยวัช" คุมทัพช้างศึก ใครดีกว่ากัน
-------------------------------------------------
ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก