
ใครหว่า?!! สาวโพสต์แฉยับ แข้งดังทีมชาติไทย ล่อลวงหวังขืนใจ

ข้อมูลจากเฟซบุ๊คส่วนตัวสาวรายหนึ่งเผยข้อมูลแฉยับ หนึ่งนักฟุตบอลมีชื่อในวงการไทยลีก หลังมีกรณีการล่อลวงเพื่อการขืนใจ โดยมีการเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียด แม้เพิ่งจะมีกระแสข่าวฉาวออกสื่อจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้ก็ตาม
ข้อมูลในโพสต์เปิดเผยว่า ประเด็นมีอยู่ว่าวันที่24ที่ผ่านมาคืนวันอาทิตย์ มีนักฟุตบอลชื่อดังมานั่งกินที่ทำงานร้านเหมี่ยว ตอนแรกเหมี่ยวมองก้อว่าคุ้นหน้าคุ้นตาแต่ไม่รู้จักชื่อ ตัวนักฟุตบอลคนนี้ใช้ชื่อนามสมมุตว่า”เต้ย” แต่ด้วยที่เราคุ้นหน้าเราเลยลองเซิร์ทชื่อ นักฟุตบอลชื่อดังคนนี้พยายามเบี่ยงชื่อจริงและบอกตัวเค้าไม่ใช่ “เดอะซัน”
คือแค่หน้าคล้ายเฉยๆ เข้าเรื่องเลยละกัน นักฟุตบอลคนนี้นั่งกับเพื่อนเหมี่ยว นามสมมุติว่า”A” ขากลับกลับบ้านนักฟุตบอลคนนี้ขออาสาไปส่ง ซึ่งในรถมีนักฟุตบอล มี A และเพื่อน A อีก 3 นัดแนะกันว่าจะกินข้าวกัน ตงซ.พัฒนาการ (สายในบางบอน) แต่นักฟุตบอลไม่ได้จะลงไปด้วย พอทุกคนลงรถปุ๊บ สั่งข้าวเสร็จสับ ป้าขายข้าวเดินมาบอกว่า”หนูคนในรถเรียก”
ซึ่งเพื่อนเราไม่รู้เรื่องเลยเดินไปตัวป่าวไปที่รถ พอถึงรถเพื่อนเราถามมีอะไร นักฟุตบอลคนนี้บอกขอไอดีไลน์หน่อย เพื่อนเราก้อให้เรียบร้อย สักพักรถคันนี้เหมือนปิดประตูได้เองอัตโนมัติ นักฟุตบอลคันนี้ขับรถออกไปเอง ซึ่งเพื่อนเราตกใจมากแต่นึกว่าไม่มีอะไรทำใจดีสู้เสือตลอด A บอกกับนักฟุตบอลคนนี้ว่าไม่ไปนะไปไม่ได้ A อยากกลับบ้าน
แต่ก่อนที่นักฟุตบอลจะขับรถออกไปมันได้ถามกับเพื่อนเราว่า”ไปนอนกับพี่มั้ย” ซึ่ง A เพื่อนเราปฏิเสธตลอด ยกมือไหวร้องให้มันก้อไม่ยอมจอด เพื่อนเราทำอะไรไม่ถูกตัดสินใจหักพวงมาลัยรถมัน มันบอกกับเพื่อนเราว่า”มึงอยากตายหรอ” พอใกล้ถึงปั๊มๆหนึ่งเพื่อนเราออกอุบายบอกว่าขอเข้าห้องน้ำหน่อยมันไม่ไหวมันปวดฉี่มาก
มันบอกกับเพื่อนเราว่าเดี๋ยวเพื่อนเราก้อหนีก้อหายไป แต่สุดท้ายมันก้อยอมให้เพื่อนเราเข้าห้องน้ำ พอเพื่อนเราเข้าห้องน้ำได้มันเข้าไปร้องให้นานมากโทสับก้อไม่มีติดต่อใครไม่ได้ ช่วงจังหวะโชคเข้าข้างเพื่อนเรา พนักงานเช็สเตอร์กิวเข้าห้องน้ำพอดี เพื่อนเราเลยถามว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหน ผลปรากฏว่าอยู่เกือบนนท์
เพื่อนเราตกใจมากแต่ตั้งสติได้โทรเข้าเบอร์ตัวเองเพราะตอนนั้นโทสับAอยู่ที่เหมี่ยว เราเห็นเบอร์แปลกโทเข้าเครื่องเพื่อนกะรีบรับหวังว่าเป็นสายของเพื่อน แล้วก้อเป็นจริงๆ Aเพื่อนเราเสียงสั่นมากคุยกะเราอ้อนวอนเราให้เราไปรับ ตอนนั้นเพื่อนเรากลัวมากกลัวกระทั่งหลอนไปหมด ตอนนั้นเรากลับจากร้านข้าวแล้วใกล้ถึงบ้านวกรถกลับทันทีแล้วคุยกะเพื่อนเราว่าอยู่ไหน
ตอนนั้นยอมรับว่าโมโหมากไม่มีคำว่ากลัวแล้ว เพราะสงสารเพื่อนมากมันร้องให้ฮือใส่เราแล้ว นั่งรถไปรับเพื่อนคนเดียวแต่ก้อโทรหาป๊าเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ป๊าบอกให้เราแจ้งความแต่เรามะอยากให้เรื่องบานปลายเลยใจเยนๆ ตอนนั้นก้อโทคุยกะเพื่อนเพื่อนเราคุยไม่ได้สั่นไปหมดเลยคุยกะเจ้าของโทสับคือพนักงานเช็สเตอร์กริว เค้าบอกว่าไอแบ็คมันตะโกนบอกทุกคนอย่ายุ่งกะเพื่อนเรา พยายามทำให้เป็นเรื่องผัวเมียทะเลาะกันคนอื่นอย่ายุ่ง
แต่ตอนนั้นทุกคนรู้แล้วว่ามันไม่ใช่ เพื่อนเรารองให้ในห้องน้ำ มันก้อเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องน้ำตะโกนใส่เพื่อนเราบอก “มึงอยากตายใช่มั้ย อย่าให้กุเจอ” สักพักไม่นานไอแบ็คมันคงรู้ว่าทุกคนรู้แล้วว่ามันจะพยายามข่มขืนเพื่อนเรา มันเลยขับรถหนีออกไป เราเร่งแท็กซี่สุดชีวิตเป็นห่วงเพื่อนมาก พอถึงที่เราเดินเข้าไปรับเพื่อนเราในร้านอาหารเช็สเตอร์กริวซึ่งอยู่ข้างๆห้องน้ำ สภาพเพื่อนเราน่าสงสารมาก เพื่อนเรากลัวมากว่ามันจะซุ้มดูอยู่มั้ย
ชั่วโมงนั้นเราก้อกลัวแต่เป็นห่วงเพื่อนมากกว่า รีบลงจากแท็กซี่บอกไห้แท็กซี่จอดรอวิ่งลงเข้าไปหาเพื่อนลากขึ้นแท็กซี่ ตบท้ายด้วยขอบคุนพนักงานเช็สเตอร์กริวทุกคน วินาทีแรกที่เพื่อนเจอเราAร้องให้โฮ เราต้องดึงเพื่อนมากอด เราแทบจะร้องให้ตาม เราสงสารเพื่อนมาก ถ้าเพื่อนเราไม่เจอพนักงานเช็สเตอร์กริวเราไม่อยากรู้เลยเพื่อนเราจะเป็นยังไง ถ้าเจอคนอื่นมันจะให้เพื่อนเรายืมโทรสับมั้ย ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองเพื่อนเหมี่ยว ขอบคุนพนักงานเช็สเตอร์กริว ขอบคุณลุงคนขับโชเฟอร์แท็กซี่
เราไม่กลัวถ้าเราจะโดนอะไรแต่เราอยากแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนระวังตัว เรามีทั้งพยานทั้งหลักฐาน เราปรึกษาผู้ใหญ่ทุกคน บางคนบอกให้เพื่อนเราแจ้งความแต่เพื่อนเราไม่แจ้งเพราะไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่ เราไม่ใช่ลูกคนใหญ่คนโตแต่ถ้ามีปันหาอะไรป๊าเราไม่ยอมแน่ และวันนี้มีผู้ใหญ่มานั่งกินร้านเราเราขออนุญาติแล้วว่าเราขอประจานนะเพราะเราเกียดมันมากจริงๆ
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โอละพ่อ!! เพจดังบอลไทยตอกกลับ แต่งเรื่องลวงโลก สาวแฉยับแข้งช้างศึกหายตัวเงียบ สาวเจ้าคู่กรณีที่แฉนักฟุตบอลรายนี้ ได้ปิดบัญชี เฟซบุ๊ค หายไปจากโลกโซเชี่ยล เป็นที่เรียบร้อย คาดกันว่าเป็นข่าวสร้างกระแส ลวงโลก หวังดิสเครดิตนักบอลชื่อดังคนที่อ้างถึงนั่นเอง ….