ไม่พลาด! เวอร์สเตปเปน ผงาดคว้าแชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน สมัย 4
จอร์จ รัสเซลล์ คว้าแชมป์ ฟอร์มูล่า วัน ลาส เวกัส กรังด์ปรีซ์ เมื่อ 24 พ.ย. ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย แบบม้วนเดียวจบ คว้าแชมป์สนามที่สองในซีซั่นนี้ ตามด้วย ลูอิส แฮมิลตัน หลังจากทำผลงานดีมาตลอดช่วงซ้อม อันดับ 3 เป็นของ คาร์ลอส ไซนซ์ แม้ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าอันดับ 5 แต่เพียงพอสำหรับตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 4
เริ่มรอบแรกที่ ลาส เวกัส สตริป เซอร์กิต จอร์จ รัสเซลล์ ออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ขึ้นนำตามด้วย ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ที่ออกตัวสอดจากแถวสองขึ้นมาในอันดับ 2 และเพื่อนร่วมทีม เฟอร์รารี่ คาร์ลอส ไซนซ์ ส่ง ปิแอร์ แกสลี่ย์ ร่วงลงไปอันดับ 4 ส่วน แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ยังรักษาอันดับ 5 นำหน้า ลันโด นอร์ริส
ผ่านไปเพียง 10 รอบในสภาพอากาศหนาวเย็นของรัฐทะเลทราย นอร์ริส และ เลอแกลร์ เข้าพิตเปลี่ยนยางเป็นฮาร์ดคอมพาวด์ ส่วน เวอร์สเตปเปน ใช้กลยุทธใกล้เคียงกันใน 2 รอบถัดมา เพื่อยืนระยะในช่วงต่อจากนี้ จากนั้นรอบที่ 15 แกสลี่ย์ เจอปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องและมีควันออกมาต้องออกจากการแข่งขัน
เมื่อผ่านครึ่งทาง รัสเซลล์ ยังนำหน้าตามด้วย เวอร์สเตปเปน และ เฟอร์รารี่ทั้งสองคัน ขณะเดียวกันนั้น อเล็กซ์ อัลบอน ในอันดับ 10 วิทยุพูดคุยกับทีมว่า “เราจะมีสักสนามหรือเปล่าที่ไม่มีปัญหาอะไรเลย” และในที่สุดก็ออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับแฟนๆ ชาวไทยที่ให้กำลังใจอยากเห็นการเก็บแต้มที่สนามนี้
รอบที่ 33 การผลัดกันเข้าพิตทำให้อันดับเปลี่ยน ผู้นำกลายเป็น 2 คันจาก เมอร์ซิเดส รัสเซลล์ และ แฮมิลตัน ที่แซง เวอร์สเตปเปนจากรอบก่อนหน้า ส่วน เลอแกลร์ อยู่ในพิต และกลับออกมาเป็นอันดับ 5 โดยอีก 10 รอบถัดมา ไซนซ์ แซง เวอร์สเตปเปน ขึ้นตำแหน่งสุดท้ายของโพเดียม โดยหลายรอบที่ผ่านมา แฮมิลตันทำเวลา Fasyesy Lap ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังตามผู้นำมากกว่า 5 วินาที
เข้าสู่ 3 รอบสุดท้าย ผู้นำยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ เลอแกลร์ แซง เวอร์สเตปเปน ขึ้นมาในอันดับ 4 นำหน้า นอร์ริส มากกว่า 10 วินาที แต่ แม็คลาเรน เรียกเข้าพิตและใช้ยางซอฟต์คอมพาวด์ ด้วยความหวังจะเก็บเกี่ยว 1 คะแนน ยืดการลุ้นแชมป์โลกไปที่สนามถัดไป แต่ไม่สำเร็จ
สนามถัดไป ฟอร์มูล่า วัน กาตาร์ กรังด์ปรีซ์ วันที่ 29 พ.ย.-1 ต.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ ช่องบีอินสปอร์ตส์1 (617)