รีเซต
เสื้อเหม็นกลิ่นเต่า ซักไม่ออก? ต้องลอง วิธีแก้กลิ่นเต่าติดเสื้อ หายขาดแบบไม่ต้องใช้น้ำหอม

เสื้อเหม็นกลิ่นเต่า ซักไม่ออก? ต้องลอง วิธีแก้กลิ่นเต่าติดเสื้อ หายขาดแบบไม่ต้องใช้น้ำหอม

เสื้อเหม็นกลิ่นเต่า ซักไม่ออก? ต้องลอง วิธีแก้กลิ่นเต่าติดเสื้อ หายขาดแบบไม่ต้องใช้น้ำหอม
TNP1459
24 มิถุนายน 2568 ( 10:42 )
6

       หนึ่งในปัญหาโลกแตกของผู้ชาย คงหนีไม่พ้น เสื้อเหม็นกลิ่นเต่า ซักไม่ออก โดยเฉพาะผู้ชายวัยทำงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือ หากมี กลิ่นเต่าติดเสื้อ บอกเลยว่าเรื่องใหญ่ ทำเอาหมดความมั่นใจได้ง่ายๆ แถมยังกระทบกับความน่าเชื่อถือในสายตาเพื่อนร่วมงานอีกด้วย

       แต่ถ้าใครจะกลบกลิ่นเต่าติดเสื้อด้วยน้ำหอมขอบอกว่า "เลิกคิด" ด่วน! เพราะจะทำให้กลิ่นเหม็นหนักกว่าเดิม เรามี วิธีขจัดกลิ่นตัวติดเสื้อ กลิ่นเหงื่อแรง กลิ่นรักแร้ติดเสื้อ ให้หายขาดแบบไม่ต้องใช้น้ำหอมมาให้ลองทำตามกัน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ หมดปัญหากลิ่นเต่าหมักหมม ซักแล้วไม่เหม็นซ้ำอีก 

 

 

กลิ่นตัวติดเสื้อ กลิ่นเต่าติดเสื้อ เกิดจากอะไร?


       กลิ่นเหงื่อหรือกลิ่นเต่าติดเสื้อ ไม่ได้มาจากเหงื่อล้วนๆ แต่เกิดจากการที่แบคทีเรียจากผิวหนัง ย่อยสลายโปรตีนในเหงื่อ แล้วปล่อยกลิ่นออกมา

       พอเหงื่อซึมเข้าเสื้อ แล้วตากเสื้อไม่แห้งสนิท หรือซักไม่สะอาด กลิ่นเหล่านี้ก็จะ “ฝังลึก” ลงในเนื้อผ้า ยิ่งใส่ซ้ำ กลิ่นยิ่งชัดขึ้น ซักปกติก็เอาไม่ออกแล้ว

 

เสื้อเหม็นกลิ่นเต่า ซักไม่ออก เพราะอะไร?

  • ตากเสื้อในที่อับ ลมไม่โกรก หรือเสื้อไม่แห้งสนิท 
  • ไม่เคยแช่หรือถูทำความสะอาดตรงจุดที่เป็นปัญหา เช่น รักแร้หรือด้านหลังเสื้อ
  • ไม่ได้ซักทันที แต่ทิ้งไว้หลายวันจนเกิดแบคทีเรียสะสม
  • ใช้น้ำเย็นอย่างเดียว อุณหภูมิไม่พอจะฆ่าเชื้อ
  • ใช้ผงซักฟอกทั่วไป ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อ “ขจัดกลิ่น” โดยเฉพาะ

 

วิธีซักเสื้อให้หายเหม็นกลิ่นเต่า 

 

1. แช่น้ำส้มสายชูขาว 30 นาที

  • ใช้น้ำส้มสายชูขาว 1 ส่วน ต่อน้ำ 4 ส่วน
  • แช่เฉพาะจุดที่มีกลิ่น เช่น รักแร้ คอเสื้อ

     น้ำส้มสายชูจะช่วยดึงกลิ่นอับออกจากใยผ้าได้ดี และไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นน้ำส้มจะติดผ้า เพราะมันจะหายไปหลังซัก (หากคุณไม่ใส่เยอะเกินไป)

 

 

2. โรยเบกกิ้งโซดาก่อนซัก


       ใช้เบกกิ้งโซดาโรยบริเวณที่เหม็น ทิ้งไว้ 15–20 นาทีจากนั้นค่อยซักตามปกติ เบกกิ้งโซดาสามารถช่วยดูดซับกลิ่น และลดความเป็นกรดของเหงื่อที่สะสมในผ้าได้ดี

       เคล็ดลับเพิ่มพลังซัก ใช้คู่กับสูตรน้ำส้มสายชูยิ่งได้ผลดีมาก กลิ่นหายเกือบ 100%

 

3. ซักด้วยน้ำอุ่น (ถ้าเนื้อผ้าเอาอยู่)


       ถ้าเสื้อไม่ใช่ผ้ายืดที่หดง่าย ใช้น้ำอุ่น 40–50°C จะช่วยฆ่าเชื้อได้ดี แนะนำให้ใช้กับเสื้อเชิ้ต หรือผ้าที่ทนความร้อนเท่านั้น เพราะเสื้อยืดบางชนิดควรหลีกเลี่ยงน้ำร้อน เพราะจะหดหรือเสียทรง


ผ้าแบบไหน ซักน้ำร้อน ผ้าแบบไหน ซักน้ำเย็น

  • ซักน้ำร้อน: โพลีเอสเตอร์, ผ้าฝ้ายผสม, เสื้อกีฬา
  • ซักน้ำเย็น: เสื้อยืดคอตตอน, ผ้ายืด, เรยอน, ไหม, ขนสัตว์

 

 

4. ใช้น้ำยาซักผ้าขจัดกลิ่นเฉพาะทาง


       หาซื้อตามซูเปอร์หรือออนไลน์ จะมีสูตร “ขจัดกลิ่นเหงื่อ” หรือ “ลดแบคทีเรีย” ถ้าหาไม่ได้ ใช้น้ำยาซักผ้าเด็กสูตรอ่อนโยนก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง


บทความที่เกี่ยวข้อง

 

 

5. ตากแดดให้แห้งสนิท หรือแดดรำไร + ลมผ่าน

         การตากแดดช่วยได้เยอะมาก ถ้าไม่มีแดด ให้ใช้พัดลมเป่าให้แห้งเร็วที่สุด ห้ามตากในห้องน้ำ หรือห้องที่อับชื้น เพราะความชื้น = เชื้อแบคทีเรีย = กลิ่นเหม็นกลับมา

 


เคล็ดลับเสริมที่หลายคนมองข้าม

  • หมั่นขัดรักแร้ให้สะอาดจริงๆ ก่อนใส่เสื้อ
  • เสื้อที่เหม็นซ้ำ ควรแยกซัก อย่ารวมกับผ้าชิ้นอื่น
  • หากกลิ่นยังกลับมาแม้ทำครบหมดแล้ว ให้ลองรีดด้วยไอน้ำร้อนตรงจุดที่เหม็น (หลังตากให้แห้ง) จะช่วยฆ่าเชื้อซ้ำได้ดี

 

 สิ่งที่ "ไม่ควรทำ" ถ้าไม่อยากให้กลิ่นฝังลึกกว่าเดิม

  • ห้ามใช้น้ำหอมกลบกลิ่นแล้วใส่ต่อ กลิ่นจะชวนขมคอหนักกว่าเดิม
  • อย่าพับเก็บเสื้อที่ยังอับ หรือยังไม่แห้งสนิท
  • อย่ารีดเสื้อก่อนซัก เพราะจะยิ่ง “ล็อก” กลิ่นเหม็นไว้ในเนื้อผ้า

 


กับดัก เสื้อเหม็นกลิ่นเต่า ที่หลายคนนึกไม่ถึง


     หลายคนแก้ปัญหาเสื้อเหม็นกลิ่นเต่าด้วยการใช้โรลออน หรือ สเปรย์ระงับกลิ่นกาย แต่ผลิตภัณฑ์บางประเภทจะทิ้งคราบบนเสื้อ ซึ่งกลายเป็นแหล่งสะสมกลิ่นในระยะยาว ถ้าเลือกผิดล่ะก็ แทนที่กลิ่นจะลด อาจกลายเป็นต้นเหตุใหม่ของกลิ่นอับแทน

     ทางแก้ ใช้โรลออนหรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ “ไม่ทิ้งคราบ” เลือกสูตรแห้งไว ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือแบบเจลบางเบาแทน

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี