รีเซต
ชี้ชะตาแชมป์! พรีวิวภาพรวม และสถานการณ์ พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ 33-34

ชี้ชะตาแชมป์! พรีวิวภาพรวม และสถานการณ์ พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ 33-34

ชี้ชะตาแชมป์! พรีวิวภาพรวม และสถานการณ์ พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ 33-34
EkkEReport
25 เมษายน 2566 ( 18:00 )
695

ส่องโปรแกรมการฟาดแข้ง และสถานการณ์ของ ศึกพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 33-34 ที่จะลงทำศึกกันในสัปดาห์นี้

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่จะฟาดแข้งกันในช่วงกลางไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้ เป็นการแข่งขันสัปดาห์ที่ 33 และ 34 ตามลำดับ ซึ่งคงต้องบอกว่า นี่คงเป็นเวลาที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอยอย่างแท้จริง เพราะมันจะเป็นคิวของเกมคู่ "ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ประจำฤดูกาลนี้" นั่นคือ ศึกชี้ชะตา..ตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีก ระหว่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล

อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากเกมคู่นี้แล้ว ในส่วนของการแข่งขันแย่งชิงพื้นที่ท็อปโฟร์ รวมทั้งการดิ้นรนหนีตกชั้น ก็ยังคงสนุกตื่นเต้น และดุเดือดเข้มข้น ไม่แพ้กัน ดังนั้น เรามาไล่ดูโปรแกรมการแข่งขัน และสถานการณ์ของแต่ละทีมไปพร้อมกัน ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในสัปดาห์นี้

คืนวันอังคารที่ 25 เมษายน 2566

คืนวันพุธที่ 26 เมษายน 2566

คืนวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2566

วันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566

วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2566

คืนวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2566

คืนวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2566

สำหรับสัปดาห์นี้ คอบอลพรีเมียร์ลีกจะได้รับชมเกมการแข่งขันกันแบบต่อเนื่องแทบไม่หยุดพักถึง 20 คู่ นับตั้งแต่คืนวันอังคารที่ 25 เมษายนนี้ ยาวไปจนถึงคืนวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม เรียกได้ว่าจะมีการฟาดแข้งกันให้ชมกันแบบเต็มอิ่มจุใจ เกือบครบทุกคืนเลยทีเดียว โดยจะเว้นแค่คืนวันศุกร์ที่ 28 เมษายน เพียงคืนเดียวเท่านั้น ที่ไม่มีโปรแกรมการแข่งขัน

ประเดิมกันด้วยเกมในช่วงกลางสัปดาห์ โดยคืนวันอังคารที่ 25 เมษายน จะมีการแข่งขัน 3 คู่ ซึ่งเกมคู่ที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้น "ศึกหนีตกชั้น" ระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 16 กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 17 ที่มีคะแนนห่างกันเพียงแต้มเดียว ทำให้เกมนี้จะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดปลอดภัยทั้งพวกเขา แต่สุดท้ายแล้ว ทีมใดจะคว้า 3 แต้มอันล้ำค่าไปได้ แฟนบอลคงต้องรอลุ้นไปพร้อมกันในเวลา 02.00 น.

จากนั้นในคืนวันพุธ จะมีโปรแกรมลงเตะถึง 4 คู่ ซึ่งมีทีมใหญ่ๆ ลงสนามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 7 ที่ต้องบุกไปเยือน เวสต์แฮม ทีมอันดับ 13 ที่ช่วงหลังเริ่มเก็บแต้มได้แบบเป็นกอบเป็นกำ รวมทั้ง "ศึกลอนดอนดาร์บี้" ระหว่าง เชลซี ทีมอันดับ 11 ที่ฟอร์มยังย่ำแย่แบบต่อเนื่อง กับ เบรนท์ฟอร์ด ทีมอันดับ 10 ที่ช่วงหลังก็อาการหนักไม่แพ้กัน โดย 2 คู่นี้จะลงสนามกันในเวลา 01.45 น.

แต่กระนั้น เกมคู่สำคัญแห่งฤดูกาลที่คอบอลทุกคนจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด จะลงฟาดแข้งกันในเวลา 02.00 น. ที่สนาม เอติฮัด สเตดี้ยม ทีมรองจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 70 แต้ม จาก 30 นัด จะรอต้อนรับจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล ที่มี 75 แต้ม จาก 32 นัด โดยเกมคู่นี้ หากจะเรียกได้ว่าเป็น "ศึกชี้ชะตาแชมป์" ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะทีมที่คว้าชัยได้สำเร็จ จะกลายเป็นฝ่ายที่กุมความได้เปรียบแบบมหาศาลในการลุ้นแชมป์ทันที ซึ่งท้ายที่สุด จะเป็น เรือใบสีฟ้า หรือ ปืนใหญ่ ที่จะได้เฮกันแบบสุดเสียง คงต้องร่วมคำตอบไปพร้อมกันแบบห้ามกะพริบตา!

ถัดมาในคืนวันพฤหัสบดี ยังมีเกมอีก 3 คู่ ซึ่งจะมีการดวลกันเองของทีมที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์ รวมทั้งการปะทะกันระหว่างทีมในกลุ่มหนีตายด้วย โดยเกมคู่ใหญ่ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของคืนนี้ คือการพบกันของ 2 ทีมใหญ่ ที่ต้องแย่งชิงตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กันโดยตรง ในเวลา 02.15 น. นั่นคือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 5 ที่เพิ่งตัดสินใจปลด คริสเตียน สเตลลินี่ ออกจากตำแหน่งกุนซือชั่วคราว พร้อมตั้ง ไรอัน เมสัน ขึ้นมาคุมทัพแทน หลังถูก สาลิกาดง ไล่ถล่มไปถึง 6-1 จะเปิดบ้านฟาดแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ที่เพิ่งทะลุเข้าชิงชนะเลิศ ศึก เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยตอนนี้ทั้ง 2 ทีม มีคะแนนห่างกัน 6 แต้ม แต่ ไก่เดือยทอง แข่งมากกว่าถึง 2 นัด ทำให้เกมนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องล้ม ปีศาจแดง ให้ได้สถานเดียว เพราะหากทำไม่สำเร็จ โอกาสลุ้นตำแหน่งท็อปโฟร์ก็คงจะเลือนรางจนถึงขั้นริบหรี่เลยก็ว่าได้

ต่อมาในช่วงสุดสัปดาห์ จะมีเกมในวันเสาร์ 3 คู่ และวันอาทิตย์ 5 คู่ รวมทั้งยังมีเกมคู่ดึกในคืนวันจันทร์ และคืนวันอังคาร อีกวันละ 1 คู่ ด้วย โดยเกมแต่ละคู่ ล้วนแล้วแต่มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ ซึ่งทีมยักษ์ใหญ่จะลงสนามกันอย่างคับคั่ง เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 20.00 น. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเสร็จจากศึกใหญ่กับ ไก่เดือยทอง จะกลับมาเปิดบ้านพบกับ แอสตัน วิลล่า ทีมที่ฟอร์มดี จนก้าวขึ้นมามีลุ้นแย่งชิงพื้นที่ฟุตบอลยุโรป

ส่วนทางด้านของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งดวลเดือดกับทัพปืนใหญ่มา จะบุกไปกรุงลอนดอน เพื่อปะทะกับ ฟูแล่ม ขณะที่เกมคู่ใหญ่ของคืนนี้ จะลงเล่นกันในเวลา 22.30 น. ลิเวอร์พูล จะเปิดสนาม แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เมื่อวันนั้นมาถึง ใครจะอยู่ใครในตารางคะแนน แต่คาดว่าผลแพ้ชนะในเกมนี้ มีโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์และอันดับของทั้งคู่ได้เลย

ถัดมาในคืนวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม จะเป็นการดวลกันระหว่างทีมที่กำลังหนีตกชั้นอีกครั้ง โดยยังคงเป็นคิวของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่คราวนี้จะเปิดบ้านรับมือกับ เอฟเวอร์ตัน ในเวลา 02.00 น. ซึ่งเชื่อว่าเกมนี้จะส่งผลสำคัญต่อการตกชั้นหรือการอยู่รอดปลอดภัยของพวกเขาทั้งคู่อย่างแน่นอน

และปิดท้ายกันด้วยเกมในคืนวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม เวลา 02.00 น. พบกับ "ศึกแห่งศักดิ์ศรี" ระหว่าง 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน อาร์เซน่อล จะเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ดวลเดือดกับ เชลซี โดยเกมนี้ยังคงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับทัพปีนใหญ่ เพราะไม่ว่าสถานการณ์ ณ วันนั้น จะเป็นอย่างไร พวกเขาจะยังคงเป็นผู้นำอยู่หรือไม่ก็ตาม แต่ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จะพลาดคว้า 3 แต้มไม่ได้เป็นอันขาด หากยังหวังไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป แต่อย่างไรก็ดี เชื่อว่าฝั่งของ สิงห์บลูส์ เอง ก็คงจะไม่ยอมให้ทีมคู่ปรับร่วมเมืองง่ายๆ อย่างแน่นอน

มาร่วมมันส์สะใจไปกับศึกพรีเมียร์ลีก ทุกคู่ ทุกสนาม พร้อมกันได้ที่ TrueID คอบอลตัวจริงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

 

"เอกกี้รีพอร์ต"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี