วิธีซักผ้าหน้าฝน ไม่เหม็นอับ ผู้ชายเหงื่อเยอะ ตากผ้าไม่มีแดด ตากผ้าในร่ม ต้องลองทำตาม!

วิธีซักผ้าหน้าฝน ไม่เหม็นอับ กลายเป็นคำค้นหาหลักสำหรับหลายคนในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะสำหรับผู้ชายที่เหงื่อออกเยอะ เพราะเสื้อผ้าที่เปียกเหงื่อบ่อยมักแห้งช้า ตากไม่ทันแดด และเกิดกลิ่นอับติดผ้าง่าย หากคุณเคยเจอปัญหาเหล่านี้ ลองทำตามเทคนิคที่เรารวบรวมไว้ รับรองว่าซักแล้วผ้าสะอาด หอม แห้งไว และไม่เหลือกลิ่นกวนใจอีกต่อไป
วิธีซักผ้าหน้าฝน สะอาดหอม ไม่เหม็นอับ เหงื่อเยอะก็ไม่หวั่น
ในช่วงหน้าฝน ปัญหาที่หลายคนเจอคือ “กลิ่นอับบนเสื้อผ้า” โดยเฉพาะคนที่มีเหงื่อเยอะหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เสื้อผ้ามักจะอับ ชื้น แห้งช้า และบางครั้งยังมีคราบเหงื่อติดฝังแน่น หากซักไม่ดี กลิ่นจะสะสมจนทำให้หมดความมั่นใจเวลาใส่ออกนอกบ้าน 6 วิธีต่อไปนี้จะช่วยให้เสื้อผ้าสะอาด หอม และไม่มีกลิ่นอับ แม้ในวันที่ฝนตกหนักหรือไม่มีแดดเลยก็ตาม
1. แยกผ้าเปียกเหงื่อหรือเหม็นอับก่อนซัก
หากเสื้อผ้าเปียกเหงื่อมาก ควรแยกออกจากผ้าทั่วไป และตากผึ่งไว้ก่อนนำลงตะกร้า เพราะการกองทิ้งไว้จะทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตและเกิดกลิ่นหมักหมมที่ซักออกยาก
2. แช่ผ้าก่อนซัก
การแช่ผ้าจะช่วยขจัดกลิ่นและคราบเหงื่อได้ดีกว่าการซักตรงๆ ทันที โดยเฉพาะแช่ตามสูตรนี้
สูตรแช่ผ้า
- น้ำอุ่น
- เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
- แช่ทิ้งไว้ 15–30 นาที จากนั้นค่อยนำไปซักตามปกติ
หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อ สามารถเติมน้ำมันหอมระเหยทีทรีหรือลาเวนเดอร์ 2–3 หยดลงไปได้ ช่วยลดเชื้อราและกลิ่นอับได้ดี
3. ซักด้วยสูตรลดกลิ่นพิเศษ
ในรอบซักปกติ แนะนำให้ใช้ส่วนผสมต่อไปนี้แทนการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไป
สูตรซักผ้าขจัดกลิ่น
- ผงซักฟอกสูตรเข้มข้นหรือสูตรแอนตี้แบคทีเรีย
- เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่ในช่องน้ำยาปรับผ้านุ่ม) สามารถลดได้หากปริมาณผ้าน้อย หรือรู้สึกว่าซักแล้วกลิ่นน้ำส้มสายชูแรงเกินไป
การใช้เบกกิ้งโซดาและเกลือจะช่วยดูดกลิ่นและฆ่าเชื้อ ส่วนน้ำส้มสายชูจะช่วยสลายคราบเหงื่อและทำให้ผ้านุ่มโดยไม่ต้องใช้สารเคมีแรงๆ
4. ปั่นหมาดให้แห้งที่สุด
ใช้โปรแกรมปั่นหมาดที่รอบสูงสุด เพื่อให้ผ้าแห้งไวและลดโอกาสเกิดกลิ่นอับหลังซัก หากเครื่องซักผ้ามีระบบอบผ้าในตัว ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีมากในช่วงฤดูฝน
5. ตากให้ถูกวิธี แม้ไม่มีแดด
ในวันที่ฝนตกหรืออากาศชื้น ควรตากผ้าในที่อากาศถ่ายเทดี ไม่อับชื้น หลีกเลี่ยงการตากในห้องน้ำหรือห้องครัว รวมถึงควรแขวนผ้าให้ห่างกัน ไม่ซ้อนทับ เพื่อให้อากาศไหลเวียนผ่านได้ทุกด้าน และหากเป็นไปได้ ควรใช้พัดลมหรือเครื่องดูดความชื้นช่วยให้แห้งเร็วขึ้น
6. ป้องกันกลิ่นสะสมหลังซัก
เมื่อนำผ้าไปพับเก็บหรือใส่ตู้ ควรแน่ใจว่าผ้าแห้งสนิทจริงๆ หากยังมีความชื้นเล็กน้อย ควรตากต่อด้วยพัดลมอีกสัก 1–2 ชั่วโมง
การใส่ถุงดูดกลิ่น เช่น ถ่านไม้ไผ่ หรือซองสมุนไพรแห้งในตู้เสื้อผ้า จะช่วยดูดความชื้นและกลิ่นสะสมได้ในระยะยาว
แม้ว่าการซักผ้าสำหรับผู้ชายที่เหงื่อออกมากในหน้าฝน อาจต้องเพิ่มขั้นตอนเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์คือเสื้อผ้าที่สะอาด หอมสดชื่น และพร้อมใส่ได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลกลิ่นอีกต่อไป รับรองว่าคุ้มกับเวลาที่เสียไปแน่นอน
บทความที่คุณอาจสนใจ
- เล็บมือผู้ชายดูแลอย่างไรให้ประทับใจสาว สะอาดน่ามองบุคลิกภาพดี แบบง่ายๆ
- รวมรองเท้าผ้าใบผู้ชายสาย luxury แบรนด์ไหนดีราคาเท่าไหร่ ใส่ได้หลายโอกาส
- น้ำหอมผู้ชายกลิ่น Green Aromatic ยี่ห้อไหนดีหอมสดชื่นชวนหลงไหล
- 10 วิธีประหยัดเงิน ออมเงิน สำหรับมนุษย์เงินเดือน
- เวลาน้อยก็หุ่นดีได้ วิธีออกกำลังกายสำหรับผู้ชายเวลาน้อย