วิธิรักษาสิวฮอร์โมน ผู้ชาย เป็นสิวฮอร์โมนใช้อะไรดี ด้วยวิธีธรรมชาติ
สิวฮอร์โมน ในผู้ชาย เกิดได้จากหลายสาเหตุ และเกิดได้แทบทุกช่วงวัย มาดูกันว่าจะมี วิธิรักษาสิวฮอร์โมน ผู้ชาย อย่างไรบ้าง รวมถึงคำแนะนำว่าเป็นสิวฮอร์โมนใช้อะไรดี ด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่การใช้ยาเพียงอย่างเดียว เพราะการใช้ยานานๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ได้เช่นกัน หากใครเจอปัญหาสิวฮอร์โมนอยู่ล่ะก็ ลองมาทำตามวิธีต่อไปนี้กันเลย
ส่วนลดพิเศษ! เมื่อปรึกษาปัญหาผิวกับแพทย์รพ.พระรามเก้า ผ่านระบบ VDO Call
ใช้ได้ถึง 31 ธ.ค. 2566
สิวฮอร์โมน ผู้ชาย เกิดจากอะไร
สิวฮอร์โมนเพศชายเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน โดยเฉพาะแอนโดรเจน เช่น เทสโทสเตอโรน ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้ต่อมไขมันในผิวหนังผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาเป็นจำนวนมาก นำไปสู่รูขุมขนอุดตันและสิวตามมาได้ง่าย
สาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนชายไม่สมดุล
1. อายุ เมื่อผู้ชายเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมนเพศชายจะเพิ่มสูงขึ้นมาก และเมื่ออายุมากขึ้น ระดับฮอร์โมนเพศชายจะลดลงตามธรรมชาติ ทั้งหมดนี้มีผลทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุลและส่งผลต่อสภาพผิวได้
2. สภาวะทางการแพทย์ สภาวะทางการแพทย์บางอย่าง เช่น ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง และความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในผู้ชาย
3. ยา ยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มคอร์ติโค สเตียรอยด์ (corticosteroids) และ โอปิออยด์ (opioids) อาจรบกวนการผลิตฮอร์โมนได้
4. ปัจจัยการใช้ชีวิต เช่น โภชนาการที่ไม่ดี ขาดการออกกำลังกาย และการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไปล้วนมีส่วนทำให้ฮอร์โมนผู้ชายขาดสมดุล
5. ความเครียด ความเครียดเรื้อรังอาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมน และทำให้เกิดสิวเรื้อรังตามมาได้
เป็นสิวฮอร์โมน ทานอะไรดี และไม่ควรทานอะไร
1. ดื่มน้ำเพียงพอ ทานอาหารที่ดีต่อผิว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุลสามารถช่วยควบคุมฮอร์โมนได้ เน้นการรับประทานผักและผลไม้ โปรตีนไม่ติดมัน และธัญพืชเต็มเมล็ด หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูง
2. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำยังช่วยควบคุมฮอร์โมนและลดความเครียด ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวได้
3. การจัดการความเครียด ความเครียดส่งผลต่อความไม่สมดุลของฮอร์โมน ลองใช้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น โยคะ การทำสมาธิ หรือการฝึกหายใจเข้าลึกๆ มาใช้ ก็จะสามารถช่วยปรับฮอร์โมนเพศชายให้สมดุลขึ้นได้
4. ใช้สกินแคร์ที่เหมาะสม เช่น สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันทีทรี ว่านหางจระเข้ และน้ำผึ้ง ที่สามารถช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังได้ เหมาะสำหรับสิวอักเสบ หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิว เหมาะสำหรับสิวอุดตัน เป็นต้น
5. ล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน วิธีนี้จะช่วยขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกออกจากผิว ที่เป็นสาเหตุการอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวได้ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวขาดน้ำ ระคายเคืองง่าย และผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิม
6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าตลอดทั้งวัน เพราะอาจทำให้สิ่งสกปรกและน้ำมันจากมือสัมผัสกับใบหน้า ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดสิวได้ง่าย
7. หมั่นทำความสะอาดสิ่งของที่ต้องสัมผัสกับใบหน้า เช่น มือถือ แว่นตา หมอน ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ เพราะเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียที่เรานึกไม่ถึง รวมถึงกระตุ้นให้เกิดสิวได้ง่ายในภาวะที่ฮอร์โมนกำลังขาดสมดุล
8. นอนหลับให้เพียงพอ เมื่อคุณพักผ่อนเพียงพอ นอกจากฮอร์โมนเพศจะสมดุลขึ้นแล้ว โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่หลั่งออกมาขณะหลับยังช่วยซ่อมแซมผิวได้อย่างเต็มที่ ทำให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้น สิวหายเร็วขึ้นกว่าคนที่นอนไม่พอหรือนอนดึก
9. ไม่แคะ แกะ เกา หรือบีบสิว เพราะการรบกวนผิวมากๆ จะทำให้ผิวอักเสบระคายเคือง รวมถึงเชื้อโรคที่นิ้วและซอกเล็บยังอาจทำให้บริเวณที่เป็นสิวติดเชื้อหนักกว่าเดิม จนกลายเป็นหลุมสิวที่รักษาได้ยากและต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากมายกว่าเดิม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- โฟมล้างหน้าผู้ชาย 2023 ยี่ห้อไหนดี สำหรับผิวแพ้ง่าย ลดสิว ลดหน้ามัน รูขุมขนกระชับ
- หน้าใสไร้สิว!! 7 โฟมล้างหน้าสำหรับผู้ชายที่จัดว่าดี ราคาไม่เกิน 200 บาท
- 3 ขั้นตอนการล้างหน้าอย่างถูกวิธีสำหรับผู้ชาย วิธีล้างหน้าให้สะอาด
-------------------------------------------------
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก