สปอร์ติ้ง VS แมนซิตี้ 4-1 : โชว์เด็กผี! 'อโมริม' พาทีมแซงถล่มเรือใบเละ
สปอร์ติ้ง พบ แมนซิตี้ : ผลบอล 4-1 | รูเบน อโมริม โชว์ผลงานสุดโหด หลังแก้เกมพาลูกทีมที่ตกเป็นรองไปก่อนตั้งแต่ 4 นาทีแรก กลับมารัวยิง 4 ลูกรวด จาก วิคตอร์ เกียวเกเรส ที่ทำแฮตทริก ซึ่งมาจาก 2 จุดโทษ และอีกประตูของ มักซิมิเลียโน่ อเราโฮ่ ทำให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน พลิกแซงถล่ม เรือใบสีฟ้า ไปแบบขาดลอยถึง 4-1
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2024/25
สปอร์ติ้ง ลิสบอน 4-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2024/25 รอบลีก นัดที่ 4 เมื่อคืนวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 สปอร์ติ้ง ลิสบอน ภายใต้การคุมทัพของ รูเบน อโมริม ว่าที่กุนซือคนใหม่ของ ปีศาจแดง เปิดสนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาเด้ ต้อนรับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้
GOAL!! เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาที ทีมเยือนก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ฮิเดมาสะ โมริตะ เสียบอลบริเวณหน้าเขตโทษ แล้วเป็น ฟิล โฟเด้น ที่พาบอลไปซัดเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้ เรือใบสีฟ้า บุกนำ 1-0
จากนั้น นาทีที่ 8 วิคตอร์ เกียวเกเรส ได้โอกาสหลุดเดี่ยวจากกลางสนาม แต่สุดท้ายยิงไปเข้ามือของ เอแดร์ซอน แบบน่าผิดหวัง
นาทีต่อมา เออร์ลิง ฮาแลนด์ ได้จังหวะปั่นด้วยซ้ายจากระยะไม่กี่หลา ทว่า ฟรังโก้ อิสราเอล ก็ยังเซฟเอาไว้ได้
ถัดมา นาที 28 แมนซิตี้ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม ฟิล โฟเด้น เปิดบอลให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ โหม่งย้อนกลับมาทางเสาแรก แต่บอลไปโดนปลายมือของนายด่านสปอร์ติ้ง แล้วเป็น วิคตอร์ เกียวเกเรส ที่มาเคลียร์บอลจากเส้นประตูออกไปได้
นาที 31 ฟิล โฟเด้น เปิดบอลให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ วอลเลย์ด้วยซ้ายในเขตโทษ ทว่า ฟรังโก้ อิสราเอล ยังล้มตัวปัดบอลไว้ได้
ต่อมา นาที 36 แบร์นาโด ซิลวา ได้สับไกในเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาไกลออกไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
GOAL!! แต่แล้ว นาที 38 กลายเป็นเจ้าถิ่นที่ตามตีเสมอได้สำเร็จ จิโอวานี่ เควนด้า ไหลบอลทะลุช่องให้ วิคตอร์ เกียวเกเรส หลุดเข้าเขตโทษ คราวนี้เจ้าตัวไม่ยอมพลาดซ้ำ จัดการยิงหักข้อส่งบอลผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าประตูไป ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 ก่อนจะจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์นี้
GOAL!! และเพียง 23 วินาทีแรกของครึ่งหลัง เจ้าบ้านก็มาได้ประตูแซงนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เปโดร กอนคัลเวส ไหลบอลทะลุแผงหลังทีมเยือนให้ มักซิมิเลียโน่ อเราโฮ่ ซัดด้วยซ้ายเข้าประตูไป ทำให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน พลิกขึ้นนำ 2-1
GOAL!! ไม่เพียงเท่านั้น นาที 49 สปอร์ติ้ง ก็มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ไปผลัก ฟรานซิสโก้ ตรินเกา ล้มลงในเขตโทษ แล้วก็เป็น วิคตอร์ เกียวเกเรส ที่สังหารเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้เจ้าถิ่นนำห่าง 3-1
กระนั้น นาที 69 แมนซิตี้ ก็มาได้จุดโทษเช่นกัน แบร์นาโด ซิลวา ยิงไปติดแขนของ อุสมาน ดิโอมานเด้ ผู้ตัดสินวิ่งไปดู VAR แล้วให้ลูกโทษแก่ทีมเยือน แต่ทว่า เออร์ลิง ฮาแลนด์ กลับสังหารพลาด ซัดบอลไปชนคานเต็มๆ ทำให้ชวดได้ประตูตีตื้น
GOAL!! จากนั้น นาที 80 สปอร์ติ้ง ก็มาได้จุดโทษลูกที่สอง มาเธอุส นูเนส ถูก เกนี่ คาตาโม่ ฉกบอลไป จึงตามไปเหนี่ยวตัวสำรองเจ้าถิ่นล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกโทษทันที แล้วเป็น วิคตอร์ เกียวเกเรส คนเดิม ที่ยิงเสียบเสาเข้าประตูไป พา สปอร์ติ้ง ฉีกหนีไปถึง 4-1 พร้อมกลายเป็นแฮตทริกของเจ้าตัว
แล้วก็หมดเวลาการแข่งขัน เป็น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ที่เปิดบ้านแซงถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบราบคาบถึง 4-1 เก็บ 3 แต้ม ทำให้แข่ง 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 มี 10 แต้ม ขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงของตาราง ส่วน เรือใบสีฟ้า ยังหยุดอยู่ที่ 7 แต้ม หล่นมารั้งอันดับ 6 ของตาราง และส่งผลให้พวกเขาแพ้ 3 นัดรวดในทุกรายการ
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
สปอร์ติ้ง ลิสบอน : ฟรังโก้ อิสราเอล (GK), เซโน่ เดอบัสต์, อุสมาน ดิโอมานเด้, มาเธอุส รีส, จิโอวานี่ เควนด้า, มอร์เทน จุลมานด์, ฮิเดมาสะ โมริตะ, มักซิมิเลียโน่ อเราโฮ่, เปโดร กอนคัลเวส, ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, วิคตอร์ เกียวเกเรส
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน (GK), ริโก้ ลูอิส, จาห์ไม ซิมป์สัน-พูซีย์, มานูเอล อาคานจี, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, มาเตโอ โควาซิช, แบร์นาโด ซิลวา, ซาวินโญ่, ฟิล โฟเด้น, มาเธอุส นูเนส, เออร์ลิง ฮาแลนด์