
ประวัติสนาม Marina Bay Street Circuit และไฮไลต์ที่น่าสนใจใน Singapore Grand Prix

สนาม Marina Bay Street Circuit หนึ่งในสนามที่แฟน Formula 1 ชาวไทยมิยมไปชมการแข่งขันมากที่สุด ด้วยการเดินทางที่สะดวก เพราะเป็นสนามแข่งที่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด แล้วจุดเริ่มต้นของสนาม มารีน่า เบย์ สตรีทเซอร์กิต นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ใช้เวลาในการก่อสร้างนานเท่าไหร่ ลักษณะสนามมีความพิเศษขนาดไหน สถิติที่น่าสนใจใครทำไว้บ้าง TrueID Sport จะพาคุณไปทำความรู้จักกัน ก่อนเริ่ม Singapore Grand Prix 2025
shutterstock / Michael Potts F1
ประวัติสนาม Marina Bay Street Circuit
และไฮไลต์ที่น่าสนใจใน Singapore Grand Prix
ประวัติศาสตร์และการก่อตั้งสนาม Marina Bay Street Circuit ( มารีน่า เบย์ สตรีทเซอร์กิต)
สนามมารีน่า เบย์ สตรีทเซอร์กิตได้ถูกใช้ในการแข่งขัน Formula1 Singapore Grand Prix ครั้งแรกในปี 2008 และเป็นสนามแรกที่จัดแข่งขันในช่วยเวลากลางคืน (Night Race) เนื่องด้วยเหตุผลทางสภาพอากาศของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีอุณหภูมิสูง
ผู้รับหน้าที่ออกแบบสนามนี้คือ เฮอร์มานน์ ทิลเคอ (Hermann Tilke) วิศวกร และนักแข่งรถชาวเยอรมันผู้มีชื่อเสียง ที่ได้ออกแบบสนาม Baku City Circuit และถูกพัฒนาต่อโดยบริษัท KBR Inc. สนามนี้ใช้ถนนสาธารณะในพื้นที่ Marina Bay, Nicoll Highway, และ St Andrew's Road โดยมีตึกระฟ้าอันเป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์เป็นฉากหลัง
ในยุคแรกสนาม Marina Bay Street Circuit มีระยะทางต่อ 1 รอบอยู่ที่ 5.073 km และมีจำนวนโค้งมากถึง 23 โค้ง ซึ่งนับว่าเป็นสนามที่มีจำนวนโค้งมาก
การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเลย์เอาต์สนาม
ในฐานะที่เป็น Street Circuit รูปแบบสนามจึงมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งเพื่อความปลอดภัยและการแข่งขัน ในปี 2013 - 2014 ได้มีการนำโค้งที่ 10 ซึ่งถูกเรียกว่า "Singapore Sling" ถูกถอดออกเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย ซึ่งเดิมทีโค้ง 10 นั้นเป็นโค้งชิเคนแต่เป็นโค้งชิเคนที่มีความแคบและมีของทางที่สูงชันจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเกินไปจนเกิดข้อกังวลด้านความปลอดภัย
ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2023 ได้มีการตัดโค้ง 16-19 ออก และแทนที่ด้วยทางตรงยาว เพื่อรองรับการก่อสร้างพื้นที่ชุมชนใหม่ NS Square Singapore จึงทำให้สนามมีระยะทางต่อรอบที่สั้นลง และโค้งจำนวนน้อยลง
ลักษณะและความท้าทายของสนาม
สนามใช้ถนนสาธารณะในย่าน Marina Bay วนรอบสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของเมืองทำให้สนามมีส่วนแคบ และกำแพงคอนกรีตที่อยู่ติดขอบสนามทันที ซึ่งไม่ให้อภัยต่อความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย ด้วยลักษณะของสนามถูกส่องสว่างด้วย ไฟสปอตไลท์กำลังสูงนับพันดวง สร้างทัศนียภาพที่งดงามตระการตา แต่ก็ส่งผลต่อทัศนวิสัยของนักแข่ง และอุณหภูมิสนาม
รูปแบบสนามที่เน้นแรงกดสูง (High Downforce Layout) เป็นหนึ่งในสนามที่ทำ ความเร็วเฉลี่ยต่ำที่สุด ในปฏิทินการแข่งขัน มีโค้งจำนวน 19 โค้ง ซึ่งส่วนใหญ่ต้องเข้าโค้งด้วยเกียร์ต่ำ (เกียร์ 2 หรือ 3) จึงต้องการการตั้งค่ารถที่เน้นการสร้าง แรงกดอากาศสูง (High Downforce)
อีกทั้งพื้นผิวที่ขรุขระของพื้นผิวถนนแอสฟัลต์ จึงทำให้ควบคุมรถได้ยากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดของนักขับหรือความเสียหายทางกลไกต่อรถยนต์
ไฮไลต์ที่น่าสนใจใน Singapore Grand Prix
อากาศที่ร้อนเกินต้านท้าทายนักแข่งทั้งกาย และใจถึงแม้จะเป็นการแข่งในตอนกลางคืน แต่สภาพอากาศเขตร้อนทำให้สนามมีอุณหภูมิและความชื้นสูงมาก (สูงกว่า 70%) นักขับจะเสียเหงื่อมากถึง 2−4 กิโลกรัมต่อการแข่งขันหนึ่งครั้ง นอกจากความร้อนจะส่งผลต่อตัวนักขับแล้วยังสงผลต่อเครื่องยนต์หลายๆ ส่วนอีกด้วย
และสนามมีแต่โค้งสลับกับการเบรกและเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่อง มีทางตรงยาวน้อยมาก ทำให้นักขับแทบไม่มีเวลาให้พักเลย จึงทำให้มีโอกาสเกิด Safety Car สูงมาก แน่นอนสตรีทเซอร์กิตนั้นสนามแคบทำให้แซงยากมาก ผลการควอลิฟายจึงสำคัญไม่น้อยไปกว่าการวางแผนเข้าพิท
เหตุการณ์ที่น่าสนใจของ F1 ในสนาม Marina Bay Street Circuit
1. โศกนาฏกรรม "Crashgate" ปี 2008
ทีม Renault ได้สั่งให้ Nelson Piquet Jr.ที่ตอนนั้นเป็นทีมเมดของ Fernando Alonso ขับรถชนกำแพงโดยเจตนา ที่โค้ง 17 ทำให้ Safety Car ต้องออกมา เหตุการณ์นี้ทำให้ Fernando Alonso ได้ประโยชน์จงทำให้คว้าชัยชนะไปได้ ต่อมาเรื่องนี้ได้มีการสอบสวนจึงทำให้ผู้บริหารระดับสูงของทีมในขณะนั้นคือ Flavio Briatore และ Pat Symonds ถูก FIA ลงโทษในตอนนั้น
2.การพลาดแชมป์โลกที่ไม่น่าเกิดขึ้น
ในปี 2008 Felipe Massa ซึ่งเป็นผู้นำในขณะนั้น มีความผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อถูกปล่อยตัวออกจากพิทโดยที่ สายเติมน้ำมันยังติดอยู่ ทำให้เขาเสียเวลาไปอย่างมาก ซึ่งเป็นความผิดพลาดสำคัญที่ส่งผลต่อการแพ้แชมป์โลกให้กับ Lewis Hamilton ด้วยคะแนนเพียง 1 แต้มในฤดูกาลนั้น
3.เธอโผล่มาจากไหน ปี 2015
เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อมีผู้ชมคนหนึ่ง เดินเข้าสู่สนามแข่ง ข้างโค้ง 13 ในรอบที่ 37 ขณะที่รถแข่งวิ่งด้วยความเร็วสูง ในขณะนั้น เซบาสเตียน เวทเทล เป็นผู้นำการแข่งขันชน ซึ่งรีบแจ้งทางวิทยุให้ทีมทราบทันทีว่า "There is a fan on the track! There is a fan on the track!" (มีแฟนอยู่บนสนาม! มีแฟนอยู่บนสนาม!)
จากเหตุการณ์นี้บังคับให้ต้องนำรถ Safety Car ออกมาใช้อีกครั้งในการแข่งขัน ซึ่งทำให้การแข่งขันหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิงและส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของรถแข่งที่นำอยู่ ในที่สุดชายคนนี้ถูกจับกุมและถูกจำคุกเป็นเวลาหกสัปดาห์ในข้อหา "กระทำโดยประมาท"
4.เหตุการณ์แสนจะวุ่นวาย และจุดเปลี่ยนสำคัญในปี 2017
การแข่งขันในปีนั้นเกิดขึ้นในสภาพถนนที่เปียก นับเป็น Night Race ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ F1 ที่จัดขึ้นภายใต้สภาวะเปียก วินาทีที่สัญญาณไฟดับลง Sebastian Vettel (ขณะนั้นอยู่ทีม Ferrari) ที่ออกตัวจากโพลโพซิชัน พยายามปิดทาง Max Verstappen ที่ออกตัวได้ดีกว่า แต่ในขณะเดียวกัน Kimi Räikkönen (เพื่อนร่วมทีม Ferrari) ก็ออกตัวได้ยอดเยี่ยมและพุ่งจากด้านซ้ายสุดเข้ามา ทำให้รถของ Verstappen ถูก หนีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถ Ferrari ทั้งสองคัน จากการชนกันอย่างรุนแรงทำให้ รถ Ferrari สองคันและรถ Red Bull หนึ่งคันต้องออกจากการแข่งขันทันที โดยที่ยังไม่ทันวิ่งครบรอบแรกด้วยซ้ำ
จึงทำให้ Lewis Hamilton (ขณะนั้นอยู่ทีม Mercedes) ที่ออกตัวจากอันดับ 5 พ้นจากความวุ่นวายพุ่งขึ้นนำ จนคว้าชัยชนะไปอย่างสบาย ๆ ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ Lewis Hamilton ได้ทำคะแนนทิ้งห่าง Vettel ทำให้ Hamilton ไปสู่การคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ในท้ายที่สุด
สถิติที่น่าสนใจของ F1 ในสนาม Marina Bay Street Circuit
นักแข่งที่ชนะการแข่งขันที่สนาม Marina Bay Street Circuit
- Sebastian Vettel ชนะ 5 ครั้ง ปี 2011, 2012, 2013, 2015, 2019
- Lewis Hamilton ชนะ 4 ครั้ง ปี 2009, 2014, 2017, 2018
- Fernando Alonso ชนะ 2 ครั้ง ปี 2008, 2010
- Nico Rosberg ชนะ 1 ครั้ง ปี 2016
- Sergio Pérez ชนะ 1 ครั้ง ปี 2022
- Carlos Sainz ชนะ 1 ครั้ง ปี 2023
- Lando Norris ชนะ 1 ครั้ง ปี 2024
ทีมที่ชนะมากที่สุดในสนาม Marina Bay Street Circuit
- ทีม Ferrari ทั้งหมด 5 ครั้ง โดยได้จาก Fernando Alonso ปี 2010, Sebastian Vettel ปี 2015 Sebastian Vettel ปี 2019 โดย Charles Leclerc ได้อันดับ 2 ในปีเดียวกัน, Carlos Sainz ปี 2023
- ทีม Red Bull ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยได้จาก Sebastian Vettel ปี 2011 - 2013 Sergio Pérez ปี 2022
- ทีม Mercedes ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยได้จาก Lewis Hamilton ปี 2014 และปี 2017-2018 Nico Rosberg ปี 2016
- ทีม McLaren ทั้งหมด 2 ครั้งโดยได้จาก Lewis Hamilton ปี 2009 และ Lando Norris ปี 2024
- ทีม Renault ทั้งหมด 1 ครั้ง โดยได้จาก Fernando Alonso ปี 2008
ระยะทาง และจำนวนโค้งของสนาม Marina Bay Street Circuit
มีโค้งทั้งหมด 19 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 62 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,178 ครั้ง และมี DRS Zone 3 จุด
รายละเอียดโค้งต่างๆ ของสนาม Marina Bay Street Circuit
โดยรวมแล้วสนามมารีน่า เบย์ สตรีทเซอร์กิต ไม่ได้มีชื่อเรียกเฉพาะทุกโค้ง แต่มีโค้งที่มีการตั้งชื่อเฉพาะ 3 โค้ง
- โค้ง 1: Sheares ตั้งตามชื่อ Benjamin Henry Sheares ประธานาธิบดีคนที่สองของสิงคโปร์
- โค้ง 7: Memorial เนื่องจากอยู่ใกล้กับอนุสรณ์สถานสงครามพลเรือน
- โค้ง 10: Singapore Sling ตามชื่อค็อกเทลชื่อดัง แม้ว่าจะเป็นโค้งชิเคนแคบที่ถูกปรับปรุงแต่ยังคงชื่อเดิมไว้
บทความที่คุณอาจสนใจ
- สนามแข่ง Formula 1 มีกี่สนามอยู่ประเทศอะไร ระยะทางเท่าไหร่ มีโค้งกี่จุด
- แรง G คืออะไร ทำไมสำคัญกับการแข่ง F1 นักขับต้องฝึกฝนร่างกายอย่างไร
- โปรแกรมฟอร์มูล่าวัน 2025 ลิ้งก์ดูสด เอฟวัน 2025 ถ่ายทอดสด F1 ผลเอฟวัน
- ไขปริศนาผ้าห่มวอร์มยาง Formula 1 ทำไมต้องห่มผ้า มีผลกับการแข่งอย่างไร
- รู้จัก Circuit Zandvoort สนาม Formula 1 ริมทะเล ประวัติศาสตร์ที่ห้ามพลาดก่อนชม
- ยางรถ Formula1 มีกี่แบบ ยาง f1 ใช้งานต่างกันอย่างไร ขนาดต่างกับรถอื่นขนาดไหน
- ประวัติทีม Scuderia Ferrari ม้าลำพองแห่ง Formula1 เคยได้แชมป์กี่สมัยนักขับระดับตำนานมีใครบ้าง
- ประวัติทีม Williams ทีมเก่าแก่ใน Formula1 จากยุครุ่งเรืองจนถึงยุคนักขับสายเลือดไทย
- ประวัติ Monaco Grand Prix ทำไมสนามแข่ง Circuit de Monaco แฟน Formula 1 ถึงตั้งตารอ
- เปิดค่าตัวนักแข่ง Formula1 ฤดูกาล 2025 แรงขนาดไหนใครยืนหนึ่ง